จาตุรนต์

ผู้เขียน : จาตุรนต์

อัพเดท: 14 ก.พ. 2011 16.31 น. บทความนี้มีผู้ชม: 2234 ครั้ง

ลองอ่านดูครับ ชอบ ไม่ชอบ ชม ติได้นะ


นวัตกรรมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

           “เอก...อี้...เอ้ก...เอ้กกกกกกกกกกกกก...”

           เสียงนาฬิกาปลุกตามธรรมชาติดังเป็นครั้งที่สามของวัน ผมค่อยๆลุกขึ้นมานั่งงัวเงีย อารมณ์พริ้มยามหลับของผมยังไม่จางหาย ผมบิดขี้เกียจแล้วค่อยๆลุกจากเตียง หยิบผ้าเช็ดตัวนอกระเบียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป น้ำเย็นๆในตุ่มกับอากาศหนาวยามเช้าทำให้ผมกระชุ่มกระชวยอย่างเห็นได้ชัด ผมรีบเดินออกจากห้องน้ำมาห่มจีวรเตรียมออกเดินบิณฑบาต

           ใช่ครับ ช่วงชีวิตขณะหนึ่งของผมที่อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์...ช่วงชีวิตที่ไร้ซึ่งสิ่งที่เรียกว่า “เทคโนโลยี”

            โลกใบเดิมที่เราอาศัยเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน ถ้ามีใครถามว่าโลกเปลี่ยนแปลงเร็วขนาดไหน อาจต้องใช้หน่วยวัดเป็นวินาที เพราะแค่ช่วงชีวิตเพียงสิบปีใครจะไปคิดว่าวัยเยาว์ที่เรานอนก่ายพ่อแม่ดูหนังไซไฟด้วยกันแล้วเห็นพระเอกหยิบโทรศัพท์หน้าจอระบบสัมผัสขึ้นมา ทุกวันนี้สิ่งของเหล่านั้นจะมาอยู่บนฝ่ามือใบน้อยๆของเราได้อย่างง่ายดายด้วยราคาเพียงไม่กี่สตางค์ หากใครคิดก้าวตามเทคโนโลยีคงไม่ต่างอะไรกับพระรามวิ่งตามรอยพระบาทของทศกัณฐ์ ดีไม่ดีได้โดนพระบาทนั้นแปะเราติดพื้นแบนแต๊ดแต๋เป็นปลาหมึกแผ่น แต่เทคโนโลยีคงไม่ได้เดินกระโดดด้วยความร่าเริงขนาดนี้หากไม่ใช่เพราะกระบวนการรังสรรค์ที่เรียกว่า “นวัตกรรม”

             นวัตกรรม (Innovation) ไม่ได้มีความหมายเดียวกับเทคโนโลยี (Technology) ที่หมายถึงเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ แต่มีรากศัพท์มาจากคำว่า "innovare" ของภาษาละตินซึ่งแปลว่า "ทำสิ่งใหม่ขึ้นมา" สรุปแล้ว นวัตกรรมก็คือการนำเอาวิธีการหรือสิ่งใหม่มาใช้งานหลังจากที่ได้ผ่านการทดลองและพัฒนามาเป็นลำดับแล้ว แน่นอนว่าทั้งสองคำนี้มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ ต่างตรงที่นวัตกรรมไม่ได้จำกัดเพียงแค่วัตถุรูปธรรมเพียงอย่างเดียว หากแต่รวมไปถึงกระบวนการพัฒนาทางด้านทฤษฏี ความคิด ร่างกาย และจิตใจด้วย

             เวลาร่วมเดือนหลังจากผมกลับจากบิณฑบาตมาฉันเช้าแล้ว ผมต้องนั่งอ่านข่าวช่วงรอทำวัตร แผ่นกระดาษยับๆบางๆที่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำหมึกเป็นสิ่งของสิ่งเดียวที่สะท้อนเรื่องราวข่าวสารจากโลกภายนอก ผมเฝ้าดูช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างๆเงียบๆในมุมชีวิตช่วงที่สงบที่สุด สิ่งที่หน้าข่าวบอกผมดูเปรอะเปื้อนไม่แพ้รอยน้ำหมึกทีเดียว ทั้งข่าวอาชญากรรม สงคราม ฆ่าข่มขืน ยาเสพย์ติด ฯลฯ เต็มแผ่นกระดาษ ปล่อยให้ข่าวเด็กไทยคว้ารางวัลเหรียญทองรายการแข่งขันหุ่นยนต์โลกเป็นคอลัมน์น้อยๆดูด้อยค่าแปะไว้มุมกระดาษขวา

             บางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า มนุษย์มุ่งพัฒนานวัตกรรมมาผิดทาง...

             ชีวิตของเราสบายกายมากขึ้นจากความก้าวหน้าของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ โทรเลขไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเมื่อเรามีโทรศัพท์ไร้สายใช้ หน้าจอระบบสัมผัสถูกผลิตขึ้นมาตามกระแส อินเตอร์เน็ตเรียลไทม์ที่แม้ระยะทางหลายร้อยกิโลก็ยังไม่สามารถขวางกั้นความคิดถึงได้ พาหนะแห่งโลกอนาคตเปิดตัวในงานอีเว้นต์แสดงถึงความทันสมัยเหมาะกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ สถาปนิกแนวคิดทันสมัยออกแบบคอนโดหรูใหญ่ใจกลางเมือง แม้กระทั่งความก้าวไกลทางการแพทย์ในการการปลูกถ่ายอวัยวะของมนุษย์เพื่อชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ฯลฯ นวัตกรรมรูปธรรมเหล่านี้ถูกปั้นรังสรรค์ออกมามากมาย ไม่มีใครแซงความเร็วของมันได้ หากใครต้องการอยู่ในโลก “โลกาภิวัฒน์” ทำได้เพียงคอยแต่จะขับรั้งท้าย  ส่วนใครที่เหนื่อยล้าตามไม่ไหวอาจถูกมันชนจนกระเด็นหลุดจากวงโคจรไปเลยก็เป็นได้

             การมุ่งพัฒนาแต่นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ทำให้เราสบายกายจริง แต่กลับลำบากใจบนโลกใบใหญ่นี้มากขึ้น มวลความสุขลดลงตามระยะเวลา โทรศัพท์ทำให้ระยะทางหลายร้อยกิโลดูไร้พรมแดน แต่กลับเหมือนสร้างกำแพงบางๆให้เราและคนรอบข้างดูห่างไกลกันมากขึ้น สิ่งของวัตถุนิยมแต่ละรุ่นที่ถูกผลิตออกมาทำให้คนตั้งหน้าตั้งตาหาเงินเพื่อที่จะได้มันไว้ในครอบครองก่อนทิ้งมันไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สื่ออบายมุขที่ผุดขึ้นมาเร็วกว่าดอกเห็ดมีให้เลือกเสพย์มากมายบนหน้าจอ  สภาพสังคมที่ทำให้คนต้องแข่งกับเวลาเพื่อความก้าวหน้าจนลืมหันกลับหลังไปดูใครบางคนที่รอเขาอยู่ ทรัพยากรธรรมชาติถูกถลุงใช้อย่างเพลิดเพลินตามความต้องการของมนุษย์ ความก้าวไกลทางการแพทย์จนไม่รู้ว่าสิ่งไหนดีงามหรือมันเป็นเรื่องผิดศีลธรรม ฯลฯ สังคมทุกวันนี้ทำให้หลายๆคนรู้สึกว่ามันตกต่ำลงเพราะเราไม่ได้มุ่งพัฒนานวัตกรรมทางความคิดควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ สิ่งของหลายสิ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อดึงดูดให้ผู้คนเกิดอุปสงค์ขึ้นในใจ ส่วนอุปทานที่ขายไปคือกำไรของผู้ขายเพียงเท่านั้น

            ผมทำวัตรเช้าแล้ว เดินออกมาจากโบสถ์ด้วยใจลอยๆ พร้อมคำถามที่ผุดขึ้นในใจว่า “แท้จริงแล้ว...เราต้องการอะไรในชีวิต?” เราต้องการเพียงแค่ความต้องการของตัวเอง เราอยากให้พ่อแม่ดีใจในความสำเร็จที่เราทำ เราอยากได้การยอมรับจากเจ้านาย เราอยากให้คนรอบข้างมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ หรืออยากทิ้งสิ่งที่สวยงามให้โลกใบนี้ก่อนวาระสุดท้ายของเรา

            หัวข้อข่าวเล็กๆเกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายยังลอยอยู่ในสมองผม ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งข้างหน้า หุ่นยนต์ตัวนั้นอาจพัฒนาเป็นหุ่นยนต์กู้ภัยตัวใหญ่ไว้ช่วยผู้ที่ประสบภัยจากน้ำท่วม โทรศัพท์ไร้สายแบบเห็นหน้าค่าตาอาจผลิตมาเกลื่อนตลาดพอให้คนเงินน้อยใช้โทรไปหาพ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด การศึกษาผ่านทางอินเตอร์เน็ตถูกวางระบบไว้ทั่วประเทศไทย พาหนะพลังงานสะอาดวิ่งกันเกลื่อนถนนแทนพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ  บ้านแนวผสมผสานกับธรรมชาติเป็นอีกทางเลือกของคนยุคนั้น การแพทย์เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ฯลฯ

            เวลาเดิน เรายังต้องคิดก่อนก้าวว่าจะไปทางไหนถึงเป็นทางที่ดีที่สุด เช่นเดียวกัน เราควรคิดก่อนมุ่งพัฒนาว่าเราควรพานวัตกรรมไปทางไหนดีกันแน่?

            เวลาไม่เคยไหลกลับ โลกหมุนทุกคืน เปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่โลกนี้จะเลี่ยนแปลงเป็นเช่นไร พระเจ้าไม่ได้กำหนด

            หากแต่เป็นมือของพวกเรา มิใช่หรือ?

            ...

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที