คนไทยในสายตาต่างชาติ
ลิงชัดๆ ผมร้องตะโกนเสียงลั่นบ้าน ขณะนั้นอินเตอร์เน็ตเพิ่งเข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรก ผมยังจำคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่พ่อซื้อให้ได้อย่างชัดเจน 486DX33 ราคาเหยียบแสน 33คือ 33Hz ซึ่งตอนนี้มันพัฒนาไปเกิน 3000 Hz ไปไหนต่อไหนแล้ว ด้วยความที่มีความอยากคุยกับฝรั่งเป็นการส่วนตัวจึงเข้าอินเตอร์เน็ตไปเล่นหมากรุกสากลเพื่อได้คุย คำถามแรก where you from Thailand แล้วก็เงียบไป ผมคิดว่าสัญญาณมันขัดข้องตอนนั้นใช้ Motolora surf 128 K เจ๋งสุดๆแล้ว เจอคนใหม่มันถามอีก where you from Thailand Thailand have internet wow wonderful. ผมบอกมันว่าเออเดี๋ยวลองดูฝีมือหมากรุกกันหน่อยดีกว่า ผมได้ประมือกับฝรั่งหลายชาติแต่ต้องหลอก ว่า เป็นคนอเมริกามั่ง อังกฤษมั่ง มันไม่ยอมเล่นกะคนไทย ผมคิดคงเหมือนเราเจอแขม ในอินเตอร์เน็ตแล้วก็พวกเล่นหมากรุกมักชอบเล่นกับคนเก่งกว่า วันนึงเด็กอเมริกันหลังจากโดนผมใช้ม้าไทยกินเรียบ ถึงกับทึ่งว่าทำไมคนไทยเล่นหมากรุกเก่งและแปลก ผมจึงบอกว่าหมากของเราเหมือนรบกันด้วยดาบ แต่พวกท่านเคยชินกะปืน ผมก็แลกปืนทิ้ง สู้กันมือเปล่าเค้าไม่เคยเสร็จผมเรื่อยมา เค้าถามว่ายังเดินทางด้วยช้างอยู่หรือเปล่า ผมเลยบอกใช้ควาย....... เราอาจคิดว่าเราเจริญแต่สิ่งที่ผมสัมผัสครั้งนั้นเห็นได้ชัดว่า ประเทศไทยไม่ต่างจากเรามองพวกแอฟริกามากนักเลย
ผมจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ตอนนั้นผมชวนเพื่อนได้ประมาณ 50 คนมาเล่นหมากรุกกัน มันเล่นกันไม่พักผ่อนเรียนอยู่ มันยังวางหมากรุกไว้ใต้โต๊ะเล่นกันเลยตอนนั้นเรียกว่าหมากรุกไทยระบาดในชั้นเรียนผม จนอาจารย์ต้องเก็บกระดานแล้วให้เล่นเฉพาะเวลาพัก มีนักหมากรุกเด่นขึ้นมา 3 คนคือเจ้า Mix ท่านตรัง แล้วก็ท่านไกรศรี ผมชักชวนตรัง กับไกรศรีได้ 2 คน ฝึกซ้อมกันอย่างจริงจังด้วยเจตนารมณ์ที่ว่า คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก และแล้วพวกเราก็เข้าไปเล่นในอินเตอร์เน็ตบอกว่าผมคนไทย เล่นไป 3 เดือนผมได้แชมป์ที่playsite.com ตอนนั้นบอกคนไทยไม่ใช่ว่ามีแต่คนอยากเล่นด้วยคนดูอีกเป็น 10 น่าแปลกใจที่ชีวิตผมอยู่กับหมากรุกมากกว่าตำราเรียน แต่สามารถทำคะแนนสอบได้สูงสุดเสมอโดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ผมยังแปลกใจอีกกับท่านตรังและไกรศรี ที่การเรียนพัฒนาเร็วมาก จากเด็กห้องธรรมดาขึ้นมาห้องเก่ง แล้วก็จะเข้าใจพวกวิชาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์เป็นอย่างดี ผมยังเก็บความสงสัยไว้ตรงนั้น
พี่ปอมเม่เข้าวิศวจุฬาแล้ว ปีต่อมาพี่ปียาวิทย์ เข้าวิศวจุฬา ปีต่อมาผมกะท่านตรังเข้าวิศวจุฬา ยังไม่พอรุ่นน้องผมไอ้ชิดก็เข้าวิศวจุฬา ในหมู่นักหมากรุกด้วยกันเหมือนเป็นแฟชั่นไปแล้วว่าต้องวิศวจุฬา ทั้งสาธิตเกษตรปีนึงจะมีคนเข้าวิศวจุฬาไม่น่าเกิน 5 คน 2 ในนั้นเป็นนักหมากรุกที่ถูกถ่ายทอดวิชารุ่นต่อรุ่น เราไม่เคยสอนให้ทำโจทย์ พวกเราไม่ค่อยเรียนพิเศษเพราะเอาเวลาไปเล่นหมากรุก แล้วทำไมพวกเราถึงทำคะแนนสอบกันได้น่าทึ่งราวกับว่าชีวิตมีแต่เรียน
ผมจะบอกเคล็ดลับให้น่ะครับ 1.พวกผมสามารถนั่งอยู่กะที่ได้ครั้งล่ะกว่า 4 ชั่วโมง 2.สมองพวกผมถูกฝึกมาให้คิดสร้างทางเลือกที่มีเป็นร้อยๆทางแล้วหาทางที่ดีที่สุดจากนั้นมุ่งเน้นสร้างจินตนาการอ่านใจคู่ต่อสู้ที่มีทางเลือกอีกนับร้อย 3.พวกผมคุ้นเคยกับคำว่าแพ้แต่ตั้งใหม่ อีกนิดน่า เกือบแล้ว ชนะแล้ว
นี่คือที่มาของหมากรุกศาสตร์ ไทยแท้ๆ ช่วยให้เข้าใจวิทยาศาสตร์ลึกซึ้ง ผมจินตนาการได้ ว่าลูกปืนถูกยิงออกไปในอากาศต้องชนเข้ากับขอนไม้แล้วทำให้ขอนไม้เหวี่ยงขึ้นไปตีระฆังด้วยแรง 250 นิวตัน อะไรพวกนี้นักหมากรุกที่เก่งจะนึกได้เร็วและละเอียดกว่าคนทั่วไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกผมเข้าใจศาสตร์พวกนี้โดยไม่ได้ท่องจำ ประเทศอเมริกาบรรจุวิชาหมากรุกไว้เป็นวิชาหนึ่ง ยิ่งรัสเซีย หรือ อินเดียแล้วจริงจังกันมาก ลองดูพวกโปรแกรมเมอร์เก่งๆมาจากอินเดีย อัจฉริยะมากมายอยู่ในรัสเซีย แล้วปริมาณ Grand master ก็แปรผันตรงกับความเจริญของประเทศนั้นๆ ประเทศไทยมีบุคคลในตำนาน 2 ท่าน ท่านอาจารย์ป่อง คืนแรกที่อัจฉริยะข้ามคืนเปิด ท่านอาจารย์ป่องคือผู้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในอัจฉริยะแนวหน้าของเมืองไทย บัดนี้ ใกล้เวลาแล้วที่พวกเราคนไทยจะได้สานต่อความเป็นไทยให้โลกได้รู้ว่าเราไม่แพ้ชาติใดในโลก ผมคงไม่ใช่ลิงอีกต่อไปในสายตาชาวโลก.......
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที