ศิรณัฏฐ์

ผู้เขียน : ศิรณัฏฐ์

อัพเดท: 11 ม.ค. 2011 00.08 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3443 ครั้ง

นวัตกรรมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก


บางสิ่งที่หายไป (นวัตกรรมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก)

               ในอดีตที่ผ่านมานั้นสิ่งที่เราทุกคนต่างต้องการและเสาะแสวงหามาโดยตลอดนั่นก็คือ ปัจจัยสี่ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน แต่ทั้งนี้มนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสมองขนาดใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตอื่นกลับไม่ได้พอใจเพียงเท่านั้น จากปัจจัยสี่อันเป็นพื้นฐานหลักของชีวิตพัฒนาสู่การสรรค์สร้างสิ่งใหม่เพื่อสนองตอบความต้องการของเราทุกคนและการพัฒนานั้นมีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นคือเพื่อความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน

         
        นวัตกรรมคือการพัฒนาสิ่งเดิมให้ดีขึ้น หรือการสร้างสิ่งใหม่ ทั้งนี้โลกได้เดินทางมาอยู่ในช่วงยุคที่เรียกว่าความเฟื่องฟูแห่งทุนนิยมแล้ว เมื่อเรามองไปรอบด้านในชีวิตก็จะพบว่าโลกได้บังเกิดนวัตกรรมใหม่มากมาย ไม่มีอะไรที่ไม่มีนวัตกรรมมาเกี่ยวข้อง
  หากแต่เมื่อเรามองย้อนกลับไปยังอดีตเราจะพบว่าท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองแห่งยุคกลับมีบางสิ่งที่หายไปบางสิ่งที่เป็น รากฐานในการดำรงชีวิตของเราทุกคน แต่ถึงกระนั้น ในโลกใบนี้ก็ไม่มีสิ่งใดที่สูญสลายไปโดยถาวรหากแต่มันเป็นการเปลี่ยนสภาพจากสภาพเดิมไปสู่สภาพใหม่ต่างหาก และนี่คือสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับ นั่นคือกฎการแทนที่ เมื่อสิ่งใหม่มาของเดิมก็ต้องหายไป เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อนวัตกรรมก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เราก็จำต้องสละสิ่งอันเป็นรากฐานแห่งชีวิตบางอย่างออกไปเช่น แต่เดิมเรานุ่งห่มเสื้อผ้าเพียงเพื่อปกติปิดร่างกายหากแต่ในปัจจุบันเรากลับนุ่งห่มเสื้อผ้าเพื่อความสวยงามแต่คำถามคือ ความสวยงามของเสื้อผ้าจะสิ้นสุดที่ใด  ในปัจจุบันนี้เรามีเครื่องนุ่งห่มอันงดงามกว่าในอดีต อบอุ่นกว่าในอดีต หากแต่มองลึกเข้าไปเราจะพบว่าภายในกลับว่างเปล่าเหมือนดั่งทะเลที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด ความว่างเปล่านี้จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง บางครั้งกลืนกินสิ่งมีชีวิตอื่น บางครั้งกลืนกินเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั่นคือการกลืนกินตัวตนที่แท้จริงของตนเองเข้าไปด้วย  เราปฏิเสธไม่ได้ว่านวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์แต่เมื่อเรามองดูให้ดีเราจะพบว่าเราเดินมาไกลจนเกินไปแล้ว ปัจจุบันนี้นวัตกรรมที่เราสร้างขึ้นกลายเป็นการตอบสนองความต้องการอันบ้าคลั่งของมนุษย์โดยลืมเลือนและทำลาย สิ่งที่สำคัญยิ่งในชีวิตไปนั่นก็คือ จริยธรรม
         
        จริยธรรมและธรรมชาติหลายท่านอาจจะมองว่ามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหากแต่ว่าถ้าท่านมองด้วยความเข้าใจท่านจะรู้ว่า ธรรมชาติก่อให้เกิดจริยธรรม จริยธรรมในที่นี้ไม่ได้กล่าวถึงวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ใดหากแต่กล่าวถึง  จริยะที่แปลว่า ระเบียบ วิถี การดำเนินชิวิต  ธรรมะคือธรรมชาติ  เมื่อรวมกันจึงเป็นคำว่าจริยธรรม หมายถึงการดำเนินชีวิตตามวิถีแห่งธรรมชาติ  ในอดีตเราสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างผาสุข  ผู้คนต่างอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข แต่เมื่อมองกลับมายังปัจจุบันทุกแห่งหนล้วนมีแต่ภัยธรรมชาติ มองไปที่ใดล้วนแต่มีปัญหาสังคม แม้ในประเทศไทยเองประเทศที่เคยได้ชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม ในปัจจุบันกลับเรากลับพบเห็นรอยยิ้มได้ยากเต็มที
ซึ่งนี่คือผลของการได้มาซึ่งนวัตกรรมที่ก้าวไปเร็วจนเกินไป และบางครั้งก็เร็วจนใจเราตามไม่ทัน
        
                นวัตกรรมนับเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ประโยชน์และมีคุณูปการแก่เราอย่างมากมาย และเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงของมนุษย์ทุกคน และจะเป็นไปได้ไหมที่ในอนาคต เราสามารถที่จะใช้นวัตกรรมเพื่อรักษาสมดุลแห่งโลกอันเป็นที่รักยิ่งไว้เพื่อให้โลกของเรายังคงแข็งแรงและงดงามดังที่เคยเป็นมาในอดีต และเพื่อให้โลกของเรายังคงเป็นบ้านที่อบอุ่นของเราทุกคน  และสุดท้ายนี้สิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้ก็คือ ประเทศที่เจริญทั้งทางด้านวัตถุและด้านจริยธรรม นั่นจึงนับว่าเป็น ประเทศที่เจริญแล้วอย่างแท้จริง

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที