ผู้บริหารหลายท่านมักพูดว่า TQM เหรอ ผมรู้จักดี แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว ก็รู้แต่เพียงผิวเผินเท่านั้น แม้ TQM ในเมืองไทยจะเพิ่งมาบูมเอาตอนที่เศรษฐกิจฟองสบู่แตก เมื่อปี 40 ผ่านมาแล้ว 9 ปี TQM ในเมืองไทยก็ยังคงลุ่มๆดอนๆ ยังหาบริษัทที่ประสบความสำเร็จได้นับจำนวนได้
เดิมผมก็เป็นพนักงานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมเหมือนท่านหลายคนที่มีโอกาสอ่านบทความนี้ และเพิ่งมีโอกาสได้เรียนรู้หลังเศรษฐกิจล่มสลาย ด้วยเหตุที่ว่าบริษัทที่ผมทำงานอยู่ด้วยในขณะนั้นต้องการปรับตัวเพื่อการแข่งขันภายใต้การเปิดเขตการค้าเสรี โดยใช้เครื่องมือ TQM ครั้งแรกๆที่ได้เรียนรู้ก็ยังงงๆ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ทำตามอาจารย์ที่เข้ามาให้คำปรึกษาบ้าง ทำตามที่คนอื่นเขาพูดมาบ้าง ทำไปงงไปบ้าง ถึงตรงนั้นจะไปต่ออย่างไรบ้าง หลายอย่างได้สุมอยู่ในหัวอย่างมากมายในช่วงปีแรกๆ แต่เอาเถอะอย่างไรเสียมันก็น่าจะดีน่ะ เพราะเท่าที่ผ่านมาไม่เห็นอะไรที่มันไม่ดีเลย
ผมมีนิสัยช่างสังเกตุ อยากรู้อยากเห็น ชอบสอนคนอื่นให้ทำ ชอบหาวิธีการทำงานใหม่ๆที่เพิ่มประสิทธิภาพ และมีแนวคิดประจำตัวที่ว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ถ้าจะทำ (ที่ทำไม่ได้เพราะไม่ทำเอง) ดังนั้นจึงอาจจะมีนิสัยก้าวร้าวพอสมควรกับเพื่อนร่วมงานที่เฉื่อยชา คิดไม่เข้าท่า พวกชอบขวางทางปืน ด้วยเพราะไม่อยากให้เราเข้าไปรู้ เข้าไปสัมผัส ถึงขนาดที่ตอนทำงานใหม่ๆ มีคนพูดว่า ...พี่รู้ว่าเราเก่ง แต่อย่าแสดงความเก่งออกมาได้ไหม???..... ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้ตั้งใจจะยกตนข่มท่าน เพียงแต่ต้องการแสดงให้ท่านเห็นว่าผมเป็นคนเช่นไร เพื่อท่านจะได้เข้าใจในความเป็นตัวตนผม (ลึกๆ) แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นอดีต ที่นำพาผมมาเป็นที่ปรึกษา TQM
การนำ TQM ไปประยุกต์ใช้นั้นเป็นเรื่องของการนำไปปฏิบัติจริง ภายใต้แนวคิดเจ็ดข้อคือ การยึดความต้องการของลูกค้า หน่วยงานถัดไปเป็นลูกค้าของเรา ของดีสร้างได้จากกระบวนการทำงานที่ดี การสร้างมาตรฐาน การป้องกันปัญหาเกิดซ้ำ การใช้วงจรการบริหารงาน PDCA และการบริหารโดยข้อมูล ข้อเท็จจริง
และการที่สามารถประยุกต์เครื่องมือต่างๆใช้อย่างเหมาะสม เช่น การประยุกต์พวก QC tools ต่างๆ ซึ่งการประยุกต์ใช้ในที่นี้ไม่ได้บอกว่าต้องเอาทุกอย่างมาใช้ แต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะ อย่าตะบี้ตะบันใช้ ไม่เช่นนั้นท่านจะทำ Muri โดยไม่รู้ตัว
ท้ายสุดท่านสามารถนำเอาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงงานไปประยุกต์ใช้ในช่องทางการบริหารต่างๆได้เป็นหรือไม่ ซึ่งช่องทางทั้งหมดที่ว่านั้นประกอบด้วย การบริหารงานนโยบาย การบริหารงานประจำ การบริหารงานข้ามสายงาน การบริหารกิจกรรมการมีส่วนร่วมจากพนักงาน
บทความที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นบทความที่เกิดจากการแตกหน่อของแนวคิดที่อาจารย์ ดร.คาโน่ ได้ให้ไว้ ผ่าน สสท ผ่านองค์การที่ท่านมาให้คำปรึกษาจนผ่านมาที่ผม และผมจะพยายามประมวลเอาสิ่งเหล่านี้มาให้ท่านอ่านประกอบ เผื่อว่าจะมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อย อนึ่งหากท่านใดสงสัยก็สามารถเขียนตอบมาได้ เพราะผมก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก ยังมีสิ่งที่ต้องศึกษาอีกมากเหลือเกิน
ตอนนี้เกริ่นไว้แค่นี้ ตอนหน้าเราจะเริ่มลงมือกันจริงๆจังๆ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
