แพรวา

ผู้เขียน : แพรวา

อัพเดท: 29 ต.ค. 2010 10.06 น. บทความนี้มีผู้ชม: 7495 ครั้ง

เรื่องของภาษาเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์ เพราะบางภาษาเป็นสื่อกลาง หรือเป็นเครื่องมือของการรับรู้
ทำความเข้าใจและแสดงออกเพื่อให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจ การพัฒนาความสามารถทางภาษาให้เกิดกับเด็ก
ไม่ว่าจะเป็นภาษาของชาติ ภาษาท้องถิ่นและภาษาต่างประเทศ


Learning Japanese เพราะการเรียนภาษาต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้

Let’s Start
Learning Japanese
เพราะการเรียนภาษาต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
85203_Opening.jpg
เรื่องของภาษาเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์ เพราะบางภาษาเป็นสื่อกลาง หรือเป็นเครื่องมือของการรับรู้
ทำความเข้าใจและแสดงออกเพื่อให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจ การพัฒนาความสามารถทางภาษาให้เกิดกับเด็ก
ไม่ว่าจะเป็นภาษาของชาติ ภาษาท้องถิ่นและภาษาต่างประเทศ ต่างก็มีความสำคัญที่จะต้องใช้ทฤษฏี
หลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อช่วยความเร็ว ความคงทนยั่งยืนของการเรียนภาษาและสร้างความรู้สึกที่ดีต่อการเรียนภาษา

อาจารย์ทิพวรรณ อภิวันท์วรรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานภาษาและสิ่งพิมพ์ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) กล่าวว่า
โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยกลุ่มนักเรียนเก่าญี่ปุ่นที่มีความรู้สึกร่วมกันว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและเมื่อนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาแล้วสิ่งที่ควบคู่ตามกันมาด้วยนั้นคือ “ภาษา” จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. เปิดสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่จะมารับการถ่ายถอดเทคโนโลยีและเมื่อทำการสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับคนไทยแล้ว ยังพบปัญหาที่ตามมาอีก คือ วิทยากรจากญี่ปุ่นไม่เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมไทย จึงเป็นที่มาของการเปิดสอนภาษาไทยด้วย ฉะนั้น เมื่อ 36 ปีที่แล้ว โรงเรียนภาษาฯ ส.ส.ท. เปิดการเรียนการสอนเพียง 2 ภาษา คือ ภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่น หลังจากนั้น ความต้องการเรียนภาษาได้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนญี่ปุ่นที่มาเป็นวิทยากร หรืออาจารย์ที่ถูกส่งตัวมาจากญี่ปุ่น พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เดินทางมาเพียงลำพังแต่มีครอบครัวมาด้วย ความต้องการในการเรียนภาษาอื่นก็ตามมา เช่น สามีชาวญี่ปุ่นเข้ามาเป็นวิทยากรในประเทศไทย พาภรรยากับลูกมาด้วย ซึ่งภรรยาและลุกมีความต้องการที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มาที่ทำให้เปิดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยเบื้องต้นสอนภาษาอังกฤษให้กับคนญี่ปุ่น จากนั้นขยายบริการไปสู่คนไทยที่ทำงานในบริษัทต่างชาติและบริษัทญี่ปุ่นที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารด้วย นอกจากนี้ยังมีการขยายออกมาเป็นการสอนภาษาจีนเนื่องจากภาษาจีนเริ่มมีความต้องการมากขึ้น แล้วก็ขยายไปสู่การเปิดตัวสาขารังสิตด้วย


ด้วยประสบการณ์อันยาวนานถึง 37 ปี ที่เติบโต ควบคู่มากับ ส.ส.ท. และจากการประสบความสำเร็จในการเปิดโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. สาขารังสิต ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเซียร์รังสิต จึงมีการจัดตั้งโครงการแฟรนไชน์ขึ้นเพื่อขยายธุรกิจการศึกษาที่มีคุณภาพไปยังผุ้เรียนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเน้นภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
“ปัจจุบันโลกแคบลงเพราะการเปิดการค้าเสรีทำให้บริษัทต่างๆ เข้ามาเปิดในเมืองไทยมากขึ้น จำนวนคนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเมืองไทยเพิ่มขึ้น ฉะนั้น ความต้องการในการใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารจึงมีมากขึ้นด้วย นำไปสู่ความสนใจในการเรียนภาษาที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต” อาจารย์ทิพวรรณ กล่าว


นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่ามีผู้เรียนไม่น้อยที่อาศัยอยู่ในแถบฝั่งธนบุรี ถนนเพชรเกษม ถนน พุทธมณฑล ฯลฯ แต่ยังไม่มีโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นรองรับ เหล่านี้ คือที่มาของแฟรนไชส์แห่งแรก โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. สาขาเพชรเกษม

โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. สาขาเพชรเกษม ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของศูนย์การค้าพาวิเลียนเพลส เพชรเกษม 69 การดำเนินงานตลอดทั้งการเรียน การสอน มีมาตรฐานเดียวกับสาขาสุขุมวิท 29 และสาขาเซียร์รังสิต ทั้งตำรา คอร์สเรียน และอาจารย์ผู้สอน  “โครงการแฟรนไชส์โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. เกิดขึ้นมาเพื่อรับรองกับความเติบโตในอนาคต ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่าย พร้อมหาพันธมิตรเข้ามาร่วมสร้างโรงเรียนเติบโตคู่ไปกับ ส.ส.ท. ด้วยหวังว่าจะกระจายงานทางด้านการศึกษาไปสู่ภูมิภาคได้ โดยที่ ส.ส.ท. ไม่ได้ก้าวไปลำพัง มีพันธมิตรร่วมก้าวไปกับเรา พร้อมที่จะมุ่งมั่น สร้างสรรค์หลักสูตรการเรียน การสอน เพื่อผู้เรียนและสังคม” ผุ้อำนวยการสายงานภาษาและสิ่งพิมพ์กล่าว


คุณจักกฤช รังสิติยากร ผู้บริหารโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. สาขาเพชรเกษม กล่าวว่า ได้ทราบข่าวของการดำเนินโครงการแฟรนไชส์โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. ที่สั่งสมมานาน ซึ่ง ส.ส.ท. มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ดี หากได้ทำธุรกิจแฟรนไชส์ร่วมกับ ส.ส.ท. จะได้ผลิตภัณฑืที่ดีจาก ส.ส.ท. ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เมื่อได้ทราบข่าวว่า โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. จะเปิดแฟรนไชส์ ตนเองเป้นคนฝั่งธนยังมีอะไรที่สู้กรุงเทพไม่ได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบัน มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนที่ดีที่สุดในฝั่งธนมีจำนวนน้อย และเมื่อ ส.ส.ท. เป็นโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศไทยมาตลอด จึงคิดว่าควรจะนำสิ่งที่ดีที่สุดมาให้กับคนฝั่งธนสองแนวความคิดที่เกิดขึ้นมาพร้อมกันกับการตัดสินใจเปิดแฟรนไชส์โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. สาขาเพชรเกษม
“ภาษาญี่ปุ่นในปัจจุบัน ไม่ใช้ภาษาแฟชั่น ไม่ใช้ภาษาที่คนเห่ออยากจะเรียน แต่ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาเฉพาะที่มีเสน่ห์และมีผู้สนใจต้องการเรียน ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนไทยโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะเศรษฐกิจของไทยมากกว่า 1 ใน 3 ต้องเกี่ยวข้องกับองค์กรญี่ปุ่น บริษัทใหญ่ๆ หลายๆ แห่งมีญี่ปุ่นถือหุ้น หรือมีคนญี่ปุ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมนี้มีการจ้างงานเฉพาะชาวญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในประเทศมากกว่าหนึ่งแสนคน ซึ่งพนักงานที่เป็นคนไทยจะต้องเกี่ยวข้อง หรือทำงานกับชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ถ้าเขามีความรู้ในเรื่องภาษาญี่ปุ่นก็จะเป้นเกราะ เป้นอาวุธ ที่จะทำให้เขาสามารถออกไปแข่งขันกับคนอื่นได้” คุณจักกฤช กล่าว
คุณจักกฤช กล่าวต่อว่า โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. สาขาเพชรเกษม จะเปิดการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2553 ซึ่งในช่วงแรกของการเปิดสาขาแห่งนี้จะเน้นการสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก และในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเปิดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษต่อไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโรงเรียนแห่งนี้ คือ ทุกกลุ่มที่ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่น

ก่อนปิดท้ายคุณจักกฤช กล่าวว่า โรงเรียนสอนญี่ปุ่นจะเติบโตได้ด้วยคุณภาพเป็นตัวหลัก ย้อนกลับไปจากที่กล่าวในตอนต้นว่า ส.ส.ท. ติดอันดับ 1 ใน 3 มาตลอด บางช่วง ส.ส.ท. ขึ้นมาเป็นโรงเรียนอันดับ 1 แต่สักระยะหนึ่งจะเกิดโรงเรียนคลื่นใหม่ ไฟแรงขึ้นมา วิธีการสอน อะไรต่างๆ จะก้าวหน้าขึ้นมาแทนเป็นอันดับ 1 แทน ส.ส.ท. นั้นคือเหตุผลที่ ส.ส.ท. มีคุณภาพและมาตรฐานในตัวเอง
และด้วยผลงานทางด้านการศึกษาที่ดรงเรียนภาษาฯ ส.ส.ท. ได้รักษามาตรฐาน คุณภาพในเรื่องการเรียน การสอน รวมถึงคุณภาพของหลักสูตร ตลอดจนศักยภาพของอาจารย์ผู้สอน เป็นเวลา 37 ปี ด้วยแนวคิดที่ว่า ส.ส.ท. เผยแพร่วิทยาการ สร้างฐานเศรษฐกิจ พร้อมที่จะมุ่งมั่น สร้างสรรค์ หลักสูตรการเรียน การสอน เพื่อผู้เรียนและสังคม ดังนั้น ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมสร้างโรงเรียนเติบโตคู่ไปกับ ส.ส.ท. กระจายงานทางด้านการศึกษาไปสู่ภูมิภาค เป้นพันธมิตรร่วมก้าวไปกับเราเพื่อความสำเร็จนุรกิจการศึกษาอย่างยั่งยืน

(สอบถาม: ฝ่ายพัฒนาธุรกิจการศึกษาและสิ่งพิมพ์ ส.ส.ท. โทร. 0-22580320-5 ต่อ 1660)

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที