พรพรหม

ผู้เขียน : พรพรหม

อัพเดท: 02 มิ.ย. 2013 12.57 น. บทความนี้มีผู้ชม: 25830 ครั้ง

ประเภทงานเขียน: สารคดีท่องเที่ยวนิวซีเเลนด์กึ่งนวนิยายรักใสๆ

กานต์ เด็กเรียนผู้รักการท่องเที่ยวและเป็นนักชิมตัวยงได้ทุนไปทำวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายของชาวเมารีที่นิวซีแลนด์ (เรียกได้ว่าเที่ยวไป ชิมไป ศึกษาความเชื่อหลังความตายไปด้วย)
โทไบอัส หนุ่มอังกฤษร่างสูงโปร่ง ทำอาหารเก่ง อบอุ่น น่ารัก ขี้เล่น เจ้าชู้ เเละเงียบขรึม เขาจมกับอดีตส่วนตัวในบางครั้งจนกานต์เข้าไม่ถึง

มิตรภาพของทั้งสองเริ่มงอกงามขึ้นท่ามกลางพายุหิมะในเมืองไคร้ซเชิร์ชในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ แต่เมื่ออดีตตามหลอกหลอนหนุ่มโทไบอัส สาวกานต์จึงตัดสินใจกระเตงหนุ่มสุดขรึมไปทำวิจัยและชิมอาหารตามที่ต่างๆเพื่อที่จะฟื้นฟูไข้ใจที่เกิดกับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์ปลายจวักคนนี้


บทที่ 2 เจอดี

ชีวิตในไอแลมวิลเลจไม่ได้สนุกสนานอะไร เนื่องจากพายุหิมะและอากาศที่หนาวเหน็บ สาวกานต์จึงดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการต้มบะหมีกึ่งสำเร็จรูปที่กักตุนมา และนั่งๆนอนๆอยู่ในบ้านราวกับกบจำศีล  เพื่อนร่วมบ้านท่าจะเป็นคนชอบเก็บตัว...เพราะนอกจากแชมพูและเครื่องใช้อื่นๆในห้องน้ำแล้ว ทั้งบ้านก็ไม่มีร่องรอยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อนร่วมบ้านเลย

 

เช้าวันที่สาม สาวไทยตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพราะได้ยินเสียงกุกกักและเสียงฝักบัวในห้องน้ำ  เธอถีบตัวขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว

“วันนี้ละจะต้องเจอกับเพื่อนร่วมบ้านของเราให้ได้” สาวไทยพาตัวกลมๆออกไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่แถวห้องนั่งเล่น ตาจับจ้องอยู่แต่ประตูห้องน้ำราวกับพวกโรคจิต (ถ้าไม่เจอผู้คนนานๆ คนเราก็มีสิทธิ์เป็นโรคจิตนะ) 

 

ทันใดที่ประตูห้องน้ำเปิดออก สาวกานต์ก็เห็นร่างสูงๆ ผมสั้นๆในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินออกมา  เธอพิจารณาร่างนั้นอยู่พักหนึ่ง...คิ้วที่โค้งได้รูป ตาสีฟ้า ปากบาง จมูกโด่งเป็นสัน ผมสั้นสีทองอมน้ำตาล อกผายไหล่ผึ่งความยาวประมาณสามศอก (พูดถึงไหล่นะ...)  สาวไทยใจไม่หาญแล้ว...ตะลึงตาค้างกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า  เสียงที่เบาจนแทบจะกลืนไปกับเสียงลมแว่วออกมาว่า “Hi”

 

เจ้าของอกสามศอกมองกลับมาด้วยสายตาที่แปลความหมายไม่ถูกพร้อมกับค้อมศีรษะเป็นเชิงรับ แล้วเดินจากไป

 

“ผู้ชายหรือผู้หญิงละเนี่ย...”กานต์พึมพำกับตัวเอง ไหนเจ็คกี้บอกว่าเราจะได้อยู่หอหญิงล้วนไง แล้วไอ้ที่เห็นเมื่อกี้คือใคร? หรือยัยเพื่อนบ้านมันพาใครมานอนด้วยเมื่อคืนนี้ หรือว่าจะมีโรคจิตบุกเข้ามาในบ้าน?

“ฉันชื่อกานต์ค่ะ คุณ...?” เธอรีบหันไปชวนคุยก่อนที่คุณเพื่อนบ้านจะวับหายไปในห้อง

“โทไบอัส จะเรียกว่าโทบี้ก็ได้” ว่าแล้วไง ชายทั้งแท่ง (สำนวนนะคะ...สำนวนไทย แปลว่าชายชาตรี)ทั้งเสียงทุ้มต่ำสำเนียงเมืองผู้ดีนั่น ทั้งรูปร่างและไหล่ที่น่าจะวัดได้สามศอก...และใบหน้าอันงดงามราวเจ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าชายวิลเลี่ยมผสมกัน...และเขาคือเพื่อนร่วมบ้านที่จะอยู่กับเธอไปอีกหกเดือนงั้นหรือ? โชคชะตาเล่นตลกรึเปล่า?

สาวกานต์กลั้นใจ นอนกลิ้งไปบนโซฟา 

“เขินอะไรเนี่ย...เค้าแค่บอกชื่อเอง” เธอดุตัวเองเบาๆโดยไม่รู้ว่ามีแววตาสีฟ้ามองตามมาอย่างขำๆ

 

ผ่านไปครู่ใหญ่ สาวกานต์ยังนั่งเหม่ออยู่แถวโซฟาในห้องนั่งเล่น โทไบอัสแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาพร้อมเป้สะพายหลังอันหนึ่ง

“คุณทานอะไรรึยัง ผมจะไปหากาแฟดื่มในแคมปัส ไปกับผมก็ได้” เขาพูดเร็วพรืด ดูท่าทางเคอะเขินไม่น้อย  เด็กหนุ่มอายุสิบเก้าปีที่เพิ่งจะย้ายมาเรียนที่นิวซีแลนด์ได้อาทิตย์กว่าๆก็ยังไม่เคยได้เจอสาวเอเชียตัวกลมๆแบบนี้เหมือนกัน 

“คุณไม่เหมือนคนเอเชียที่ผมเคยเห็น คุณมาจากไหนหรือ” เขาพูดขึ้นมาลอยๆทำลายความเงียบ

กานต์นึกไปถึงภาพสาวเอเชียผิวคล้ำ ผมหยิก ตัวผอมบางแต่อวบอึ๋มที่เดินควงฝรั่งอยู่ตามชายทะเลแล้วย้อนดูตัวเองที่ออกจะตัวป้อมๆ ใส่แว่นตาตามแบบเด็กเรียน ยืดผมตรง แถมยังหน้าหมวยอีกด้วย เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วเสตอบเพียงคำถามแรกว่า

“ฉันหิวมากเลย กินบะหมีสำเร็จรูปมาสองวันแล้ว...”

 

โทไบอัสพาสาวไทยเดินลัดเลาะไปตามทางต้นสน ข้ามคลองเล็กๆไปจนถึงร้านกาแฟที่มีปล่องควันตัดกับความเหน็บหนาวภายนอก  เขาเล่าให้ฟังว่าตัวเองเป็นคนอังกฤษ แต่ย้ายไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยปัญหาเรื่องวีซ่าทำให้ต้องย้ายมาเรียนที่นิวซีแลนด์นี่  กานต์ได้แต่ฟังผ่านๆเพราะกำลังตื่นเต้นกับรูปภาพต่างๆที่ประดับอยู่บนฟองลาเต้

 

“คุณนี่ชอบกินจัง มิน่าถึงได้ไม่ผอมเหมือนสาวเอเชียส่วนใหญ่” หนุ่มเมืองผู้ดีวิจารณ์

กานต์วางช้อน มองกลับไปด้วยสายตาขุ่นมัว

“ฉันจะรูปร่างอย่างไรมันก็เรื่องของฉัน คุณก็กินจุเหมือนกันนั่นแหละ เมื่อกี้นะ คุณเขมือบจัมโบ้เบอร์เกอร์ในคำเดียว ฉันยังไม่ว่าอะไรคุณเลย” เธอเริ่มขุดหาข้อเสียด้านการกินอาหารของเขามาว่าบ้าง

โทไบอัสเลียรอบปากเป็นเชิงกวนโมโหอย่างอารมณ์ดีแล้วบิขนมปังป้อนเข้าปากสาวไทยอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มนั้นกว้างขึ้นเมื่อเห็นสาวไทยอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างเด่นชัดพร้อมกับถามทั้งๆที่ยังเคี้ยวตุ้ยๆว่า

“นี่ขนมปังอะไรคะ เนื้อร้วน...ร่วน แถมมีลูกเกดแซมอยู่ในเนื้อด้วย”

“เค้าเรียกสโคนครับ เป็นอาหารว่างคู่กับพวกชากาแฟ ถ้าผมอบเองนะ หอมนอกนุ่มในกว่านี้ร้อยเท่า” เขาโฆษณาอย่างคล่องแล่ว

 

หนุ่มสาวสนทนากันเรื่องสัพเพเหระท่ามกลางม่านหมอกหิมะภายนอก ราวกับเข็ดหลาบกับทางเดินอันหนาวเหน็บ  โทไบอัสอาสาจะรอกลับบ้านพร้อมกานต์ทุกวันเมื่อหญิงสาวบอกว่ากลัวความมืดและความหนาวของที่นี่  แถมเธอยังไม่มีคนรู้จักที่ไหนก็ยิ่งเหงา  ความมีน้ำใจของหนุ่มเมืองผู้ดีทำให้เธออุ่นใจมากขึ้น หกเดือนนับจากนี้คงจะไม่เดียวดายอย่างแรกคิด

 

โทไบอัสเล่าให้ฟังอีกว่าเขาก็ขออยู่หอชายล้วนเหมือนกัน เขาจึงแปลกใจมากที่เห็นเด็กสาวมานั่งอยู่ที่โซฟา เนื่องจากกานต์ไม่ได้แต่งหน้า แถมยังใส่ชุดนอนลายอุลตร้าแมนแขนยาวขายาว โทไบอัสจึงนึกว่าเธอเป็นน้องสาวของใครสักคนในบ้านหลังนั้น ถามไปถามมาก็พบว่ากานต์เกิดก่อนผู้ชายคนนี้สิบเอ็ดเดือน...

 

ผิดหวังล่ะสิ...

 

กานต์เยาะเย้ยตัวเองในใจ...

 

“แต่ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้มีสมาธิกับการทำวิจัย แถมยังได้คบหนุ่มเป็นเพื่อนอย่างบริสุทธิ์ใจด้วย” กานต์พึมพำๆขึ้นมาเป็นภาษาไทย  หารู้ไม่ว่าเธอได้เรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากเจ้าของตาสีฟ้าอีกครั้ง


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที