ท่ามกลางพายุหิมะแห่งเดือนกรกฎาคม เมืองไคร้ซเชิร์ชดูเงียบสงบในม่านหิมะบางๆที่โรยตัวลงมาอย่างไม่ขาดสาย ภาพอันสวยงามนี้จะน่าชื่นชมอย่างมากถ้าเห็นจากจอทีวีในรายการท่องเที่ยว หรือในซีรี่ส์ละครรักโรแมนติก แต่นี่มันชีวิตจริง!
โธ่ยัยกานต์ จะเลือกทำวิจัยทั้งทีมาจนสุดขอบโลกแบบนี้ เห็นทีจะต้องเปลี่ยนหัวข้อจากเรื่องเมารีมาเป็นเรื่องผลึกหิมะซะแล้ว กานต์ สาวไทยเคร่งเรียนที่เพิ่งได้ทุนมาทำวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อหลังความตายบ่นกับตัวเองเบาๆ
สนามบินไคร้ซเชิร์ชคือที่สุดท้ายที่ยังมีอากาศอุ่นๆและผู้คนที่เดินขวักไขว่ แต่หลังจากที่แท็กซี่ส่งเธอหน้ามหาวิทยาลัย University of Canterbury แล้ว เธอก็ไม่เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่ไหนอีก (ยกเว้นถ้าเธอมีเลนส์จุลทรรศน์ส่องเห็นแบคทีเรียที่ติดมาตามเกล็ดหิมะน่ะนะ)
นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งชนเผ่าเมารีผู้มีลายสักบ่งบอกถึงที่มาของเผ่าพงษ์และชีวิตวัยเยาว์ เกาะใต้อันเปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์ลึกลับอันปรากฏเป็นฉากถ่ายทำภาพยนต์ดังๆเช่น The Lord of The Rings ของ J.R.R. Tolkien และ The Chronicles of Narnia ของ C.S. Lewis
เมืองไคร้ซเชิร์ชเป็นเมืองเล็กๆในเขตแดนชื่อแคนเทอร์เบอร์รี่(ที่มาของชื่อของมหาวิทยาลัยแห่งนี้) ตั้งอยู่สุดเขตตะวันออก และมีฐานปฏิบัติการศึกษาขั้วโลกใต้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองด้วย (บอกแล้วว่าน่าจะเปลี่ยนไปศึกษาเพนกวิน หรือไม่ก็แบคทีเรียในน้ำแข็ง) รอบๆทางเดินมีต้นสนปลูกไว้ครึ้มๆ กานต์รู้สึกเหมือนจะเคยเห็นภาพต้นสน ทางเดินมืดๆ และม่านหิมะแบบนี้ในฝัน...
แต่ความคิดก็สะดุดลงเมื่อเธอลื่นไถลเกือบล้มเพราะหิมะตัวดีเกาะถนนจนกลายเป็นม่านน้ำแข็งบางๆที่ถนน เหมือนช่องแช่แข็งในตู้เย็นที่เลอะคราบช็อกโกแล็ต การลื่นนั้นเรียกสติกลับคืนมาและเผยให้เห็นแสงรำไรจากสำนักงานจัดหาที่พักที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
กานต์ถูลู่ถูกังกระเป๋าเดินทางใบโตไปตามทางเดินแคบๆเพื่อเช็คอินเข้าพักในหอพักของมหาวิทยาลัย สายลมแรงถาโถมปะทะเข้าใบหน้าและใบหูจนชา สาวไทยใจหาญกลั้นใจเดินสู้ชีวิตต่อไปจนเจอสำนักงานจัดหาที่พักของมหาวิทยาลัย
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ไออุ่นๆจากเครื่องทำความร้อน และห้องกระจกทำให้หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ภาพที่เห็นนอกหน้าต่างคือเกล็ดหิมะที่ปลิวเป็นทางเดียวกับกระแสลมแรง ให้ความรู้สึกชวนขนหัวลุก (ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะหนาวเกินห้ามใจต่างหาก!)
หญิงวัยกลางคนเดินอุ้ยอ้ายออกมาทักทายเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงไม่คุ้นหูว่า
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ็คกี้ เสลทเธอะ คุณคงหนาวมากสินะ ลงเครื่องมาก็เจอพายุหิมะเลย เจ้าของนามเจ็คกี้กล่าวอย่างร่าเริงราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินที่จะเห็นคนเอเชีย ผิวเหลือง ตาดำ ผมดำ ยืนสั่นงันงกและมีสายหิมะโปรยปรายเป็นแบ็คกราวน์แบบที่กานต์เปป็นอยู่ตอนนี้
เจ็คกี้อธิบายว่าค่าเช่าคิดเป็นรายอาทิตย์เพื่อให้ความสะดวกแก่นักศึกษาที่มีทุนทรัพย์น้อย และมีห้องพักหลากหลายรูปแบบให้เลือก เมื่อถูกถามว่าอยากอยู่หอรวม หรือหอหญิงล้วน กานต์ก็สวมมาดสาวไทยใจหาญอีกครั้งพร้อมกับตอบไปว่า หอรวมก็โอเคค่ะ! ...แล้วเธอก็หัวเราะเก้อๆ แต่เจ็คกี้กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
นี่กระมังความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างชาติตะวันตกกับเอเชีย ด้วยความที่นิวซีแลนด์เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน ทั้งสำเนียงการพูด และค่านิยมจึงค่อนไปทางเจ้าของอาณานิคม รวมถึงการไม่ถือสาให้ชายหญิงอยู่บ้านเดียวกันด้วย
เราไม่ได้หวังจะงาบหญ้าอ่อนหรอกนะ แค่อยากศึกษาวิถีชีวิตของคนหลายๆแบบเท่านั้นเอง กานต์พูดแก้ตัวให้กับตัวเองในใจ
เจ็คกี้สั่งให้เด็กหนุ่มที่คงจะทำงานพิเศษในสำนักงานช่วยลากกระเป๋าใบโตไปที่ the university hall หรือหอพักรวมของนักศึกษา ห้องนี้อยู่ชั้นสอง ไม่มีลิฟท์ กานต์ได้แต่เดินตามเด็กหนุ่มผู้ลากกระเป๋าเดินทางของเธอขึ้นบันไดอย่างทุลักทุเล
ภาพแรกที่เห็นคือทางเดินมืดๆ ซ้ายขวามีห้องแบ่งตามแบบหอพักทั่วๆไป ห้องแรก...มีหนุ่มกำลังถอดเสื้อโดยไม่ปิดประตูห้อง! เขายิ้มให้เมื่อสาวน้อยเดินผ่านพร้อมกับมองเขาด้วยตาโตๆ (มองให้เต็มตาล่ะสิ...) ห้องที่สองเป็นห้องครัวที่มีกองจานวางอยู่เต็มแทบไม่มีที่ให้ล้างมือ ห้องต่อไปเป็นเด็กหนุ่มสองคนกำลังเล่นวิดิโอเกมอย่างสนุกสนาน ห้องถัดไปเป็นห้องน้ำที่มีโถปัสสาวะแบบผู้ชายวางคู่กับชักโครกแบบนั่งชวนให้นึกถึงตอนใช้...(ใช้คนเดียวน่ะแหละ แต่ตอนออกมาน่ะสิจะจ๊ะเอ๋กับใคร) และห้องสุดท้ายถูกปิดล็อคไว้ คนที่พามาไขกุญแจอย่างคล่องแคล่ว เขาหันมาอธิบายกับสาวไทยที่ตอนนี้หน้าออกสีเรื่อๆว่า
ห้องนี้คือห้องของคุณ คุณจะอยู่ที่นี่ไปอีกหกเดือน ขอต้อนรับสู่แคนเทอร์เบอรี่ครับ ผมเอริคเป็นพรีเฟ็คของยูฮอลครับ หนุ่มน้อยนามเอริคแนะนำตัวเป็นสำเนียงอังกฤษแปร่งๆตามแบบนิวซีแลนด์พร้อม
แต่ก่อนที่มิสเตอร์พรีเฟ็ค หรือหัวหน้าหอในภาษาบ้านเราจะขยับตัวออกไป มืออวบๆของสาวกานต์ก็คว้าแขนเค้าไว้พร้อมกับกระซิบว่า
ชั้นเปลี่ยนใจแล้วค่ะ ขอชั้นไปอยู่หอหญิงล้วนได้ไหมคะ
เอริคหัวเราะพรืด พร้อมกับนิ่งคิดไปครู่ใหญ่ เมื่อเห็นสาวไทยละล้าละลัง เหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นแต่ชายฉกรรจ์สามหน่อที่ดูจะเป็นชายแท้แน่เชียวที่ตอนนี้มายืนยิ้มอยู่หน้าห้องตัวเองเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่
ก็ได้ครับ แต่คุณคงต้องจ่ายแพงขึ้นนิดหน่อย แล้วเขาก็ผายมือเป็นสัญญาณให้สาวไทยที่ใจแป้วไปถึงตาตุ่มเดินนำล่วงไป ก่อนที่ตัวเองจะถูลู่ถูกังกระเป๋าใบเดิมลงบันไดไป
หลังจากที่ต่อรองกันอยู่พักใหญ่ เจ็คกี้ก็ส่งสาวกานต์ไปอยู่หอพักตึกใหม่ล่าสุด ราคาแพงที่สุดพร้อมกับคำสัญญาว่าจะได้อยู่หอหญิงล้วนแน่นอน หอนี้มีชื่อตามดอกไม้ประจำท้องถิ่น ดอกไอแลม (Ilam Village)
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที