CXO.Asia

ผู้เขียน : CXO.Asia

อัพเดท: 31 ต.ค. 2006 17.19 น. บทความนี้มีผู้ชม: 4889 ครั้ง

หากเราเดินทวนน้ำขึ้นไป เพื่อหามูลเหตุ ที่แท้จริง ของความขัดแย้ง บาดหมางต่างๆ
เราจะพบว่า ต้นน้ำ หรือมูลเหตุ ของปัญหา ของมนุษย์เรา คือ
ความยึดมั่น ความเคยชิน ที่คอยกั้นและแยก ตัวเราเอง ออกจากธรรมชาติ
ออกจากวิถีธรรมชาติ และผู้คนที่หลากหลาย นั่นเอง

โดยการยึดมั่น ยึดติด เคยชิน ที่มองตัวเองนี้
คล้ายกับเราเป็นผู้เดียว ในธรรมชาติ ไม่มีใครมาแย่ง มาชิง
สิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราพอใจไปได้ ต้องปราศจากผู้แย่งชิง ผู้ท้าทาย
คล้ายกับโลกต้อง หมุนรอบ ตัวตนของเรา เท่านั้น
หมุนรอบความต้องการ ความพอใจ ของเรา เท่านั้น


ตอนที่ ๑

ภาคสาม บทที่ ๑๐  (เพิ่มเติม) การปฎิรูปความขัดแย้ง บาดหมาง ด้วยการเรียนรู้ จากความหลากหลาย และความยึดมั่นในตัวตน

 

วันที่ 31 ตุลาคม 2006 (14:37)

 

เรียน พ่อแม่ พี่น้อง มิตรสหาย ครู อาจารย์ ผู้นำทุกระดับในสังคม บ้านเมือง นักเรียน นักศึกษา เด็กๆ และเยาวชน อันเป็นที่รักยิ่ง

 

แม้ว่าข้าพเจ้านี้ จะไม่ได้มีความสามารถ พรสวรรค์เหนือผู้คนอื่น เลยแม้แต่น้อย

เป็นแค่เด็กชาวนา ธรรมดาคนหนึ่ง บนแผ่นดินไทย อันเป็น แผ่นดินแม่ที่มีพระคุณ และเป็นที่รักยิ่ง เท่านั้น

 

เมื่อเทียบกับ พ่อแม่ ครู อาจารย์ ผู้นำทุกระดับในสังคม ในบ้านเมือง ทุกท่าน

ที่มีความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิ แล้ว

ข้าพเจ้าก็เปรียบเป็นดัง หิ่งห้อยตัวน้อย ที่คอยเปล่งแสง อยู่ภายใต้ ทุกท่าน

ที่เป็นดังดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้า เท่านั้นเอง

 

แต่อย่างไรก็ตาม อาศัยที่ว่า ข้าพเจ้านั้น เป็นคนอยู่วงนอก และอยู่ไกลออกไป

จึงพอมองเห็นภาพในมุมกว้าง มุมอันหลากหลาย ที่ไม่อาจมอง หรือ สังเกตเห็น

จากจุดศูนย์กลาง หรือ จากจุดไกล้ๆ ได้

 

ขอเรียนว่า มีเจตนาเพียงเพื่อ อยากเสนอแนะ มุมมอง หรือ สิ่ง ที่ได้สังเกตุเห็น แด่ทุกท่าน

เพียงแต่คิดว่า ทุกท่าน อาจจะเมตตา ให้โอกาส บ้าง

เผื่อว่า อาจจะเป็นประโยชน์ แก่แผ่นดินแม่ อันมีพระคุณยิ่ง ไม่มากก็น้อย

 

มุมกว้างที่ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็น เช่น

 

ประการแรก มูลเหตุ ของความขัดแย้ง บาดหมางต่างๆ มักมาจาก การขาดความรู้ ความเข้าใจ ในความหลากหลาย ทางธรรมชาติ

 

หากเรามองธรรมชาติ มองการเกิดขึ้น ของสิ่งต่างๆ ด้วยใจเป็นกลาง

จะเห็นว่า ความหลากหลาย ของสิ่งต่าง เป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยธรรมดา โดยธรรมชาติ

 

เช่นเดียวกับมนุษย์เรา ย่อมมีความหลากหลาย จากแหล่งกำเนิดที่หลากหลาย

แรงบีบคั้น แรงกดดัน ตามสภาพแวดล้อม ที่หลากหลาย

ก่อให้เกิดวิถีความเชื่อ วิถีชีวิต แตกต่าง หลากหลายมากมาย ขึ้นไปอีก

 

เป็นเืรื่องที่น่าแปลกว่า โดยธรรมชาติ ของคนเราแทบทุกคนนั้น

มักจะคาดหวังว่า คนอื่น ต้องคิดเหมือนเรา รู้สึกเหมือนเรา เสมอๆ

หากไม่เป็นดังที่คาดหวังไว้่ เรามักผิดหวัง เสียใจ ไม่พอใจ เป็นทุกข์

ไม่เข้าใจว่า ทำไม คนอื่น นั้นจึงไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง

ทั้งๆที่สิ่งที่เราคาดหวัง น่าจะเป็นเรื่องที่คนอื่นๆ เข้าใจ หรือ รู้สึกได้

 

เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่า โดยธรรมชาติ ของคนเราแทบทุกคนนั้น

ทุกลมหายใจเข้าออกของเรา เรามักจะยึดมั่น ยึดติด ในความเชื่อ

ความคิด วิถีชีวิต ความเคยชินของเรา อยู่ตลอดเวลา

 

ทุกลมหายใจเข้าออกของเราทุกคนนั้น เรามักขยันสร้างกำแพง อันสูงใหญ่ แข็งแกร่ง

เพื่อกั้นและแยก ตัวเราเอง ออกจาก สิ่งภายนอก หรือธรรมชาติ อยู่ตลอดเวลา

 

เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่า โดยธรรมชาติ ของคนเราแทบทุกคนนั้น

เมื่อยึดมั่น ยึดติด กับตัวเราเอง อยู่ตลอดเวลา

เมื่อเคยชิน เมื่อนานเข้า มักเกิดอคติ โอนเอียง เอนเอียง เข้าข้างตัวเอง เสมอๆ

และมักจะกลายเป็นความรู้สึกแบบสุดโต่ง ได้อย่างง่ายดาย ไม่รู้เนื้อรู้ตัว

 

เช่น เรามักมองว่า ความเป็นตัวตน ความต้องการ

ของเราต้องได้รับการตอบสนอง อย่างเต็มที่ ไม่มีสิ้นสุด

หากว่า ความเป็นตัวตน ความต้องการ ของเรา

เกิดอุปสรรค เกิดการท้าทาย เรามักจะเต็มไปด้วย ความไม่พอใจ

โกรธ เกลียดชัง บาดหมาง ต้องการกำจัด ทำลายล้าง ต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มที่

 

หากเราเดินทวนน้ำขึ้นไป เพื่อหามูลเหตุ ที่แท้จริง ของความขัดแย้ง บาดหมางต่างๆ

เราจะพบว่า ต้นน้ำ หรือมูลเหตุ ของปัญหา ของมนุษย์เรา คือ

ความยึดมั่น ความเคยชิน ที่คอยกั้นและแยก ตัวเราเอง ออกจากธรรมชาติ

ออกจากวิถีธรรมชาติ และผู้คนที่หลากหลาย นั่นเอง

 

โดยการยึดมั่น ยึดติด เคยชิน ที่มองตัวเองนี้

คล้ายกับเราเป็นผู้เดียว ในธรรมชาติ ไม่มีใครมาแย่ง มาชิง

สิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราพอใจไปได้ ต้องปราศจากผู้แย่งชิง ผู้ท้าทาย

คล้ายกับโลกต้อง หมุนรอบ ตัวตนของเรา เท่านั้น

หมุนรอบความต้องการ ความพอใจ ของเรา เท่านั้น

 

โดยสรุป คือ

เรายึดติด ยึดมั่นว่า ความจริงของเรา

ก็คือ ตัวตน ความต้องการ ความพอใจ ของเรา เท่านั้น

ส่วนธรรมชาติ และผู้ื่อื่น อันหลากหลายนั้น

เราไม่สนใจ ไม่ไส่ใจ ไม่สำคัญ ไม่เป็นความจริงของเราแต่อย่างใด

 

ความยึดมั่นนี้ ส่ิงผลให้เกิดความไม่สอดคล้อง กับธรรมชาติที่แท้จริง

ส่ิงผลให้เกิดความไม่สอดคล้อง กับความหลากหลาย ที่เป็นอยู่จริง

คล้ายบ่อน้ำมัน ที่ฉีกขาด แตกแยก ปะทุ ระเบิด ขึ้นได้โดยง่าย

หากตัวตน ความต้องการ ความพอใจ ของเรา มีอุปสรรค ถูกท้าทาย

 

ความยึดติด ยึดมั่น อยู่แต่ความจริงของเราเอง โดยไม่สนใจผู้อื่น และวิถีชีวิตอันหลากหลายนั้น

เป็นดังบ่อน้ำมัน ที่ก่อเกิดความขัดแย้ง แตกแยก เกลียดชัง บาดหมาง ได้ง่าย

เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด ที่มนุษย์เราทุกคนคอยเติม คอยสุมเชื้อไฟ แห่งความขัดแย้ง เกลียดขัง บาดหมาง

อยู่ตลอดเวลา มากน้อยตามระดับของความยึดมั่น ของเราแต่ละคน

 

หากยึดมั่นมาก มีโอกาสที่จะเกิด การฉีกขาด ประทุ ระเบิด แบบเฉียบพลัน รุนแรง ได้ง่าย

แม้มีความขัดแย้ง หรือการกระทบกระทั่งกัน เพียงเล็กน้อย

หากมีการขัดแย้ง เบียดเบียน ความอยุติธรรม ในระดับรุนแรง

ยิ่งก่ิอให้เกิด ความโกรธแค้น เกลียดชัง บาดหมาง มากขึ้นไปอีก

 

หากยึดมั่นน้อย มีโอกาสที่จะเกิด การฉีกขาด ประทุ ระเบิด แบบเฉียบพลัน รุนแรง ย่อมน้อยลง

แม้มีความขัดแย้ง หรือการกระทบกระทั่งกันบ้าง ก็อาจอยู่ในวิสัย

ที่จะใช้ความเป็นผู้ใหญ่ ความมีวุฒิภาวะ ความมีเหตุผล ความอ่อนน้อมถ่อมตน

ความสุภาพ การปฏิบัติตนที่ให้เกียรติ ผู้อื่นเสมอๆ

เพื่อเปิดใจ เพื่อรับฟัง เพื่อพูดคุย เพื่อหาทางแก้ไขที่ดีกว่า  ทางแก้ไขเดิมทั้งหลาย

เพื่อทางออกที่ดีกว่า ทางออกเดิมทั้งหลาย ร่วมกันได้

 

จะเป็นสายน้ำที่มีคุณยิ่ง ที่จะคอยลดความขัดแย้ง บาดหมาง

ช่วยชโลมจิตใจของผู้คน ให้เย็นลง สงบมากขึ้น

เมื่อฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง นานขึ้น ย่อมทำให้จิตใจเรา มีเหตุมีผลมากขึ้น

ความขุ่นมัว บาดหมาง โกรธแค้น ในใจเรา ย่อมลดลง

 

ทุกครั้งที่มี สิ่งมากระทบ มาขัดแย้ง มาท้าทาย มาเบียดเีบียน ใจเรา

ใจเราย่อมช้าลง สงบมากขึ้น ไม่สั่นไหว ไม่อ่อนไหว ไปกับสิ่งนั้น

ใจเราเป็นอิสระมากขึ้น ไม่เป็นทาส ไม่โดยกดขี่ กดทับ

ด้วยความขัดแย้ง บาดหมาง โกรธแค้น ทั้งหลาย

เราย่อมสามารถมอง สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสติ ด้วยใจเมตตา ด้้วยใจสงสาร

ด้วยความเห็นใจ ด้วยความเข้าใจ ทั้งเบื้องหลัง เบื้องหน้า

ถึงที่ไปที่มาทั้งหมด ของสิ่งต่างๆ ได้

 

ประการที่สอง การเรียนรู้ และตรวจสอบ ความขัดแย้ง ความบาดหมาง จากประวัติศาสตร์ และปัจจุบัน

 

หากเราพิจารณา การต่อสู้ สงคราม ในยุคต่างๆ

หากเราพิจารณา สงครามโลก สงครามระหว่างชาติ ระหว่างดินแดน ระหว่างเผ่าพันธ์ต่างๆ

หากเราพิจารณา ความขัดแย้ง ความบาดหมาง ระหว่างศาสนา สงครามศาสนา การก่อการร้ายต่างๆ

 

จะเห็นว่า ล้วนมาจากมูลเหตุคล้ายกัน หรืออันเดียวกัน คือ

เรายึดติด ยึดมั่น ในตัวตน ความต้องการ ความพอใจ ของเรา อย่างสุดโต่ง

ส่วนธรรมชาติ และผู้ื่อื่นนั้น เราไม่สนใจ ไม่ไส่ใจ ไม่สำคัญ ไม่เป็นความจริงของเราแต่อย่างใด

เราพร้อมจะขัดแย้ง บาดหมาง ตอบโต้ อุปสรรค หรือฝ่ายตรงข้าม อย่างเต็มที่

 

หากเราพิจารณา สงครามโลก ระหว่างชาติ ระหว่างดินแดน ระหว่างเผ่าพันธ์ต่างๆ

มูลเหตุ คือ ความยึดมั่นในเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ตัวเอง อย่างสุดโต่ง

 

หากเราพิจารณา ความขัดแย้ง ความบาดหมาง ระหว่างศาสนา สงครามศาสนา การก่อการร้ายต่างๆ

มูลเหตุ คือ ความยึดมั่นในความเชื่อ วิถีความเชื่อ วิถีชีวิต ของ ตัวเอง อย่างสุดโต่ง

 

จุดนี้ เป็นจุดที่น่าเป็นห่วงที่สุด เปราะบาง และอันตรายที่สุด ของทุกยุคสมัย

และยิ่งเปราะบาง และเป็นอันตรายมากขึ้น ไปอีก ในขณะที่มนุษย์เรา

มีอาวุธ มีความฉลาด มีความยึดมั่น มากมาย และพร้อมที่จะขัดแย้ง บาดหมาง ในยุคปัจจุบันนี้

 

จุดนี้ เป็นจุดที่เราทุกคน ในยุคนี้ต้องช่วยกันขยายผล ให้มากที่สุด

ทั้งในระดับใจเราเอง สังคม ประเทศชาติ และโลกของเรา

 

เพราะไม่ว่าเราจะรู้ หรือไม่ก็ตาม

ไม่ว่าเราจะชอบ หรืิอไม่ก็ตาม

ไม่ว่าเราจะอยากฟัง หรือไม่ก็ตาม

แต่พิษของ ความขัดแย้ง บาดหมาง สะสมมาเรื่อย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

และยังเกิดขึ้น ปะทุ ระเบิดขึ้น เรื่อยๆ ไม่มีท่าที จะลดลงแม้แต่น้อย

 

พิษของความบาดหมางย่ิอม ร้ายลึก ร้ายแรง มากขึ้นเรื่อยๆ

เราทุกคนในยุคนี้ และเด็กๆ ลูกหลาน เราทุกคน นั้น

ย่อมยากที่จะหลีกเลี่ยง ผลที่เกิดขึ้น อย่างสะสม ต่อเนื่อง ยาวนานนี้ได้

 

ประการที่สาม ทางแก้ไข ความขัดแย้ง ความบาดหมาง ที่สะสม ต่อเนื่อง

 

หากพิจารณามนุษย์เราทุกคน ย่อมเปรียบเป็นดังสายน้ำ อันหนึ่ง

แล้วไหลมารวมกัน เป็นแม่น้ำใหญ่ แล้วไหลลงไปสู่มหาสมุทรอันเดียวกัน

แล้วเกิดไปไอ เป็นเมฆ เป็นฝน เพื่อเกิดใหม่ เป็นสายน้ำไหม่ ไม่รู้จบ

 

หากเราคนหนึ่ง เกิดความขัดแย้ง ความบาดหมางขึ้น

แล้วมีการเบียดเบียน หรือทำลายล้าง ฝ่ายตรงข้ามขึ้น

เป็นสงครามระหว่างเชื้อชาติ ชนชาติ ศาสนา ความเชื่อ ลัทธิต่างๆ

ย่อมก่อให้เกิดพิษ ของความบาดหมาง แล้วไหลลงไปสู่ แม่น้ำหลักได้

 

พิษที่เกิดขึ้นย่อม ส่งผลโดยตรงกับร่างกาย และจิตใจของตนเอง

และยังส่งผล เป็นพิษ ต่อคนรอบข้างได้ง่ายดาย

เหมือนกับสายน้ำที่เป็นพิษ พอไหลรวมกับสายน้ำที่ดี พิษนั้นก็ยังคงอยู่

พิษนั้นจะเข้มข้น หรือเจือจางลง ก็ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ ของสายน้ำอื่น

 

หากสายน้ำส่วนใหญ่ยังดี มีความบริสุทธิ์ สะอาด

สามารถเจือจางพิษจาก สายน้ำที่เป็นพิษส่วนน้อยได้

ผู้คนส่วนใหญ่ ก็จะยังปลอดภัย อยู่ได้

 

หากสายน้ำที่ความบริสุทธิ์ สะอาด มีอยู่เป็นส่วนน้อย

ไม่สามารถเจือจางพิษ ต้านทานพิษ จาก สายน้ำที่เป็นพิษส่วนมากได้

ทุกๆคนนั้น ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงพิษ และความหายะ ได้เลย

 

จะเห็นว่า ผลของการทำทุกสิ่ง หรืิอพิษ ของการกระทำในทุกสิ่ง

ย่อมส่งผลต่อตัวเรา ทั้งทางตรง และทางอ้อม ในไม่ช้า

 

ซึ่งเราก็สามารถ เห็นได้ด้วยตา ของเราเอง ในขณะนี้ เช่น

ปัญหาความขัดแย้ง บาดหมาง ของบ้านเมืองเรา ทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง

ปัญหาความขัดแย้ง บาดหมาง ในภาคใต้ ที่รุนแรง ขึ้นมากเรื่อยๆ

จนสะเทือนไปทั้งประเทศ ทั้งภูมิภาค

 

ปัญหาความขัดแย้ง บาดหมาง สงคราม การก่อการร้าย ระหว่างภูมิภาค ที่รุนแรง

ที่ปะทุ ระเบิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มีการเติมเชื้อไฟ ความบาดหมาง อยู่เรื่อยๆ

 

ทางแก้นั้น ย่อมต้องการ การเริ่มต้น ที่ตัวเราทุกคน

เพื่อมีความบริสุทธิ์ ดี มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

ประกอบด้วย สติปัญญา กล้าหาญ ซื่อตรง กาย วาจา ใจ ที่เข้มแข็ง บริสุทธิ์

ต้องขยายผลให้เกิดในใจเรา สังคม บ้านเมืองของเราให้ได้

เพื่อก่อให้เกิด เพื่อเหนี่ยวนำ ให้เกิดสายน้ำที่บริสุทธิ์ ดี มากที่สุด เท่าที่จะทำได้

 

การวิพากษ์วิจารณ์ ตัวเราเองนั้น ย่อมเป็นก้าวแรก

ที่ช่วยให้เรา ตื่นขึ้นได้ สามารถมองเห็นความเป็นจริง หลากหลาย

พิษและหายนะต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง ภายนอกกำแพงของ ความยึดมั่น ในใจเรา

หรือโลกความต้องการ ส่วนตัวของเราได้

 

อาจช่วยเจือจาง หยุดยั้ง เบาเทา พิษ ความบาดหมางที่รุนแรงนั้ัน

อาจจะเป็นหนทาง เยียวยา แก้ไข หายนะอันใหญ่หลวง ที่ยากจะหลีกเลี่ยง

ในยุคนี้ และยุคหน้า ของเด็กๆ และลูกหลาน เราทุกคนได้

 

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมีกำลังกาย กำลังใจ ที่ดียิ่ง ในการทั้งปวง ขอขอบพระคุณยิ่ง

 

ด้วยความยินดี เต็มใจ เปิดกว้าง เป็นเกียรติ อย่างยิ่ง ต่อความรู้สึก ความคิดเห็น ของทุกท่าน

และขอเชิญทุกท่าน แวะเยี่ยมชมทั้ง ๒๙ บทความ ได้ที่

http://www.tpa.or.th/writer/author_des.php?passTo=e7c730f5848300fc6f352f248796df86&authorID=63

และ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cxoasia&group=1

 

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที