ckeng

ผู้เขียน : ckeng

อัพเดท: 19 ม.ค. 2010 20.36 น. บทความนี้มีผู้ชม: 18265 ครั้ง

ตามกระแสวัยรุ่นที่เขานิยมไปกันถึงลมหนาว สายหมอกและความรักความอาทรซึ่งกันและกัน


ตามกระแสลมหนาวที่ปาย

 

         สวัสดีปลายปีเพื่อนๆที่รักทั้งหลายหลังจากที่หายหน้าหายตาไประยะหนึ่ง ก็ได้ไปเก็บสมประสบการณ์ที่เป็นกำไรชีวิตตลอดจนหลีกเลี่บงความสับสนวุ่นวายในสังคมปัจจุบัน ทิปนี้มีโปรแกรมไปเยือนเมืองปาย ดินแดนที่ทุกๆคนปราถนาจะไปสัมผัสดูสักครั้งเหมือนกับผู้เขียน ได้ไปสัมผัสลมหนาวสายหมอกและวัฒนธรรมท่แสนธรรมดาที่เราๆท่านๆทั้งหลายได้สัมผัสมาแล้วในอดีตซึ่งปัจจุบันได้เลือนหายไปเพราะรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามากันอย่างเต็มจนลืมธรรมชาติแมกไม้และขุนเขาไปกันเสียหมด ทิปนี้ผู้เขียนวางแผนไปสี่วันสามคืนแต่จุดมุ่งหมายหลักก็คือเมืองปายที่พูดกันนักกันหนาว่าน่าไปเที่ยวไปชมเนื่องจากทิปนี้เป็นทิปพิเศษลูกทัวร์ส่วนมากเป็นทิปวัยรุ่น(รุ่นแรก)40กว่าชีวิตที่ร่วมเดินทางก็ปาไป300กว่าๆแล้วแต่ทุกคนล้วนใจสู้กันทั้งนั้นเราเริ่มเนทางหรือล้อหมุนกันตั้งแต่ตีห้าจุดหมายแรกเราอยู่ที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตและมีศิลปการก่อสร้างแบบพม่า วัดพระแก้วดอนเต้าอยู่ในจังหวัดลำปาง มีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือศิลปบนเพดานของศาลาปรกติจะเป็นรูปเทพพนมประมาณนี้แต่ที่วัดพระแก้วดอนเต้านี้กลับเป็นคิวปิดไปซึ่งใครก็รู้ว่าคิปิดเป็นสัญลักษณ์ของความรักแต่ที่นี้กับนำมาเป็นลวดลายศิลปที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร

 4947_P1020167.jpg                 4947_P1020196.jpg            4947_P1020171.jpg  
   วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม                                                                          รูปคิวปิดบนเพดานศาลา

หลังจากแวะทานอาหารที่ลำปางแล้วเราก็มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นจุดหมายแรกของทิปนี้ว่าจะพักผ่อนที่เชียงใหม่กันก่อนหนึ่งคืนเมื่อเข้าสู่เชียงใหม่ก็ประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆแล้วก็ถือว่าเรามาเร็วกว่าปกติเราก็เลยไปไหว้พระกันที่วัดพระสิงห์ที่ในเมืองเชียงใหม่ก่อนที่จะเข้เช๊คอินที่เชียงใหม่วัดพระสิงห์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ บรรยกาศภายในวัดร่มลื่นมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยทั้งเทศแวะเวียนมาสักกระบูชากันไม่ขาดสาย

 4947_P1020198.jpg     4947_P1020227.jpg       4947_P1020225.jpg             4947_P1020236.jpg
        วัดพระสิงค์เชียงใหม่                                                                                  รูปปั้นครูบาศรีวิชัยหน้าวัดพระสิงค์

หลังจากไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิติก็ได้พักผ่อนกันซักพักหนึ่งก่อนที่เราๆทั้งหลายจะออกไปรัปทานอาหารที่มีรูปแบบเหนือๆที่เรียกว่าขันโตกแต่ไงได้พอเข้าไจอแต่ฝรั่งหัวแดงๆทั้งนั้นก็ชื่นใจได้อย่างหนึ่งว่าวัฒนธรรมของเราก็ยังเป็นที่นิยมกับชาติอื่นๆแทนที่จะป็นของเราเอง

                                          4947_P1020242.jpg    
            4947_IMG_0125.jpg   4947_P1020248.jpg   

            4947_P1020246.jpg   4947_P1020243.jpg
     
                                          บรรยากาศในการเลี้ยงขันโตกกับการแสดงแบบไทยๆเมืองเหนือ


       หลังจากรัปทานทั้งอาหารตาอาหารท้องจนอิ่มหนำสำราญแล้วทุกคนก็เมื่อยล้าจากการเดินทางก็ได้ไปพักผ่อนเพื่อเตรียมพลังที่จะเดินทางสู่เมืองปายในวันพรุ่งนี้

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที