Danish design consultancy Index เพิ่งประกาศผลผู้ชนะเลิศรางวัล Index: Award ประจำปี 2009 งานนี้เป็นการประกวดระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ (ประหนึ่งรางวัลออสการ์ของวงการออกแบบเลยทีเดียว) ที่ว่ายิ่งใหญ่นั้นอยู่ที่สาระสำคัญของโจทย์ ภายใต้แนวคิด การออกแบบเพื่อชีวิตที่ดีกว่า (Design to Improve Life) ซึ่งต้องการแก้ปัญหาในระดับสากลที่ประชากรส่วนใหญ่ของโลกกำลังเผชิญ
นักออกแบบต้องงัดพลังสมองออกมาประกวดประขันกันเต็มที่ เพราะโจทย์นั้นมาในระดับมหภาค แถมเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศในแต่ละสาขาก็สูงถึง 100,000 ยูโร เลยทีเดียว สาขาที่จัดประกวดแบ่งเป็น ร่างกาย(Body) บ้าน(Home) ทำงาน(Work) เล่น(Play) และ ชุมชน(Community) ปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 700 งาน โดยผลงานที่เข้ารอบสุดท้ายนั้นได้รับเลือกไปจัดแสดงในงาน Copenhagen Design Week 2009 ที่ผ่านมาด้วย (จากนั้นก็จะจัดแสดงหมุนเวียนไปในอีกหลายประเทศ ซึ่งต้องติดตามข่าวกันในภายหลัง) ตอนนี้มาทำความรู้จักผลงานชนะเลิศของแต่ละสาขากันก่อนดีกว่า
สาขา ร่างกาย (Body)
เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารก (FREEPLAY FETAL HEART RATE MONITOR) จากบริษัท Freeplay ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบตเตอรี่ที่สามารถผลิตและชาร์จไฟในตัวเองได้ด้วยการหมุน (Hand -Crank) เครื่องนี้สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งอัลตราซาวด์ ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจนี้จะเป็นสัญญาณที่ทารกในครรภ์ส่งออกมาถึงแพทย์ว่าเขาแข็งแรงดีหรือไม่ อยู่ในภาวะขาดออกซิเจนหรือเปล่า ฯลฯ
ผลงานนี้ถูกคิดค้นขึ้นภายใต้แนวคิดเรื่องความปลอดภัยของแม่และทารกที่อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลแพทย์ ห่างไกลอุปกรณ์การแพทย์ที่เหมาะสม และขาดแคลนพลังงาน ประเด็นที่ทำให้มันได้รับรางวัลอยู่ที่ตัวเลขการเสียชีวิตของมารดาและทารกในประเทศกำลังพัฒนาที่สูงจนน่าตกใจ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เคยรายงานว่า ปีหนึ่งๆ มีมารดาและทารกในครรภ์ต้องเสียชีวิตถึงราว 500,000 คน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลขั้นพื้นฐาน และข้อมูลที่บริษัท Freeplay เองเคยทำการวิจัยไว้ในประเทศแอฟริกาใต้ก็บ่งชี้ว่า มีเด็กทารกเสียชีวิตระหว่างการคลอดถึงปีละ 1 ล้านคน ซึ่งวิธีป้องกันการเสียชีวิตดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากเพียงเราได้ทราบถึงสภาวะของทารกในครรภ์เสียก่อน ดังนั้น เครื่องมือ FREEPLAY FETAL HEART RATE MONITOR นี้ จึงถือว่า จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการแพทย์ในโลกที่กำลังพัฒนา
สาขา บ้าน (Home)
เตาอบ CHULHA โดยทีมออกแบบ Eindhoven Academy จากเนเธอร์แลนด์ (ออกแบบเพื่อ Phillips Design อีกทอดหนึ่ง) เตา CHULHA นี้ ออกแบบมาเพื่อดักควันไฟในเตาไม่ให้ฟุ้งกระจายในบ้าน แล้วดันควันที่พลุ่งออกมาไปยังปล่องไฟ เพื่อให้แน่ใจว่า ควันจะถูกปล่อยออกไปนอกบ้าน ข้อดีอีกอย่างคือ เตานี้ถูกออกแบบให้ผลิตได้โดยง่าย ต้นทุนต่ำมาก ผู้ประกอบการรายเล็กๆ ในท้องถิ่นหรือแม้แต่ชาวบ้านเอง ก็สามารถเรียนรู้และผลิตขึ้นใช้เองได้
ผลงานชิ้นนี้มุ่งที่จะลดปัญหาด้านสุขภาพของคนยากจนที่เกิดจากการปรุงอาหารภายในบ้านในประเทศกำลังพัฒนาส่วนมาก ชาวบ้านมักจะก่อไฟตั้งหม้อบนหิน 3 ก้อน ทำให้ควันไฟกระจายไปทั่วบ้าน ซึ่งอันตรายของควันไฟจากเตาหุงต้มนี้ทำให้สุขภาพย่ำแย่จนถึงแก่ชีวิตได้ (อ้างอิงจากรายงานขององค์การอนามัยโลก มีผู้เสียชีวิตราว 1.6 ล้านคนต่อปี จากพิษสะสมของควันไฟที่เกิดจากการประกอบอาหารในครัวเรือนซึ่งใช้เชื้อเพลิงทั่วไป เช่น ไม้ มูลสัตว์ ถ่านหินเลน ฯลฯ)
สาขา ทำงาน (Work)
รางวัลนี้ตกเป็นของเว็บไซต์ Kiva.org ซึ่งเกิดขึ้นจากความคิดของ Premal Shah ผู้ประกอบการสังคมจากซานฟรานซิสโก Kiva.org เปิดพื้นที่กลางให้ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย (Micro Business) จากประเทศกำลังพัฒนาได้โพสต์โปรไฟล์ของตนลงบนเว็บไซต์ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์จากทั่วโลกได้เป็นผู้ให้กู้ (Funder) ปล่อยเงินกู้แก่ผู้ประกอบการเล็กๆ ผ่านเครดิตการ์ดในจำนวนเงินไม่มากมาย (เริ่มต้นที่ 25 เหรียญสหรัฐ) โดยผลจากการทำงานของเว็บไซต์นี้ตลอด 3 ปีครึ่ง สามารถหาเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยได้ถึง 86 ล้านเหรียญสหรัฐ และเจ้าของเว็บก็บอกอย่างภาคภูมิว่า เงินกู้เหล่านั้นได้รับการชำระคืนถึง 98% เลยทีเดียว
ปัญหาการขาดแคลนเงินทุนนั้นมีอยู่ทั่วทุกหนแห่งบนโลกใบนี้ ผู้ประกอบการรายเล็กๆ ไม่สามารถจะขอกู้เงิน (แม้เพียงน้อยนิด) จากสถาบันการเงินต่างๆ Kiva.org จึงต้องการเข้ามาอุดช่องว่างตรงนี้ โดยเชื่อมโยงผู้กู้และให้กู้เข้าหากันผ่านเงื่อนไขที่เรียบง่าย เป็นการสนับสนุนผู้ด้อยโอกาสให้ได้พึ่งพาตนเอง ด้วยการ เปลี่ยนเงินบริจาคแบบให้เปล่าเป็นเงินยืมลงทุนที่ต้องคืน
หัวใจที่ทำให้ไอเดียของเว็บไซต์นี้เติบโตได้ดี เป็นเพราะโลกปัจจุบันมีระบบอินเตอร์เน็ตที่ทรงประสิทธิภาพ การระดมทุนจึงไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนรวยเพียงไม่กี่คน แต่สามารถได้จากผู้คนธรรมดามากมายทั่วโลก ที่มุ่งหวังให้เพื่อนมนุษย์หลุดพ้นจากความยากจน ด้วยเงินก้อนเล็กๆ ที่พวกเขาสามารถให้ยืมได้นั่นเอง