คนคุณภาพ

ผู้เขียน : คนคุณภาพ

อัพเดท: 04 พ.ย. 2010 15.46 น. บทความนี้มีผู้ชม: 23138 ครั้ง

เป็นสูตรหรือวิธีที่ทำให้การดำเนินชีวิตมีความสุข ที่คุณสามารถทำได้ทันทีที่ได้อ่านบทความนี้ หรือทำตามได้เลย ไม่เชื่อลองดู แล้วคุณจะมีความสุข

ขอให้มีความสุขนะครับ


เรื่องของกล้วยหอม

อย่าใส่กล้วยหอมไว้ในตู้เย็นนะ  หลังจากอ่านบทความนี้จบ.....ท่านจะมองกล้วยหอมในอีกแง่มุมหนึ่งทันที กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด คือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) รวม ทั้งเส้นใยอาหาร มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยครับ  เขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม 2 ใบ ให้พลังงานเพียงพอ ให้เราทำงานถึง 90 นาทีไม่ต้องสงสัยเลยนะครับ...นักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก(เคยเห็นในสนามเทนนิส....พอพักเบรค บางคนหยิบกล้วยหอม มากัดกินสัก2-3 คำ) ยังไม่หมดนะ....เจ้ากล้วยยังมีคุณอนันต์ ป้องกันโรคภัยและภาวะต่างๆ ของร่างกายได้อีกด้วยความเศร้าซึมจากการสำรวจและวิจัย ไต่ถาม พร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซีม พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะว่ามัน tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น serotonin สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น สำหรับแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย  ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย.....เช่นปวดท้อง ปวดหัว....ฯลฯ  รีบกินกล้วยหอมซะดีๆ .....ยาแก้ปวดลืมไปได้เลย.... มันสามารถป้องกันได้นะจ๊ะ.... โรคโลหิตจา ง (Anemia) ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิต Hemoglobin (ฮีโมโกลบิน ) ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้  แต่คงไม่ช่วยแก้โรคทรัพย์จางได้หรอกนะ....ฮ่า... (โรคนี้ผมเป็นบ่อย ๆ.....หุ...หุ...)ความดันโลหิต (Blood Pressure) กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยู่เยอะ  เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงความดันได้จริงเสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power) ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school  อ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมอง สดชื่น เขาได้วิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วยช่วยนักเรียนให้ตื่นตัวอยู่เสมออาการท้องผูก (Constipation)เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี เมาค้าง (Hangovers) วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้วยหอมปั่น banana milkshake โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย (ฮ่า.....ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย........... ต้องลองแน่ ๆ...) ด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งและสารวิตามินในกล้วยจะช่วยให้ ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็วขึ้น...... จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn) กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว Morning Sickness ไม่รู้ว่าจะแปลว่าอะไรดีนะ...อาการงี่เง่าตอนเช้าเช่นไม่อยากจะตื่นบ้าง... ฯลฯ  ถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2 คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็นมันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าว ในตอนเช้าได้ บรรเทาแผลยุงกัด ก่อนที่จะใช้ยาทา ลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด จะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้......คนส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นจริง ๆระบบประสาท (Nerves)วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียด. ....อ่อน ล้าได้อ้วนจากทำงานมากเกินไปที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่า ความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกินช็อกโกแล็ตและพวกโปเต้โต้ชิปส์มากเกินไป> ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็กๆน้อยๆประมาณทุก ๆ 2 ชม. มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และลดการอยากกินของจุกจิกแผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผ ล (Ulcers) สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้น รวมทั้งกรดต่างๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อน  ผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงท้องควรกินกล้วยหอมเป็นประจำ เพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็นเช่นดัง ป๋าคูล เป็นต้น.......so cool.. ลดความอยากสูบบุหรี่สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียมและแม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคตินเห็นไหมครับว่ากล้วยหอมนั้นเป็นยอดผลไม้จริง ๆเปรียบเทียบกับแอปเปิลแล้ว กล้วยหอมมีโปรตีนมากกว่า 4 เท่า  มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่า 2 เท่า ฟอสฟลอรัสมากกว่า 3 เท่า  วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า  วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆมากกว่า 2 เท่าดังนั้นจากที่ฝรั่งเคยพูดกันว่า'An apple a day keeps doctor away.'  ต่อไปคงจะต้องเปลี่ยนเป็น 'A banana a day keeps doctor away.' ซะแล้วมั๊ง..


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที