เทคนิคของการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์
สุพจน์ บุญวิเศษ (2549: 8-9) เสนอไว้ว่า การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ครอบคลุมเทคนิคในการบริหารงานหลายเรื่องดังต่อไปนี้
1) การวัดผลการปฏิบัติงาน (Performance Measurement) เป็นการตรวจสอบสถานะขององค์การว่าขณะนี้เป็นอย่างไร เรากำลังอยู่ที่ไหน และเรากำลังจะไปที่ใด เครื่องมือที่จะทำให้ผู้บริหารตัดสินใจคือ การมีระบบการวัดผลซึ่งเปรียบเหมือนการบัญชาการรบ มี War room เพื่อช่วยให้สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ หรือควบคุมการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางที่พึงประสงค์ จึงกล่าวได้ว่า การวัดผลเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้บริหารรู้สถานะขององค์การ และเมื่อเปรียบเทียบกับองค์การอื่นแล้วเป็นอย่างไร เป็นเครื่องมือในการติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานที่ผู้บริหารกำหนดหรือเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลว่าขณะนี้อยู่ตรงไหน เข้าใกล้เป้าหมายมากน้อย โดยการวัดผลการดำเนินงานมีองค์ประกอบหลักได้แก่ การกำหนดเป้าหมายและการเทียบผลการปฏิบัติงานกับเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ การวัดผลการปฏิบัติงานอาจจะใช้วิธีการวัดแบบที่ใช้ตัวชี้วัดอย่างง่าย หรือใช้ระบบการวัดที่ซับซ้อน สามารถวัดได้หลายแง่มุมเช่น ความประหยัด ความมีประสิทธิภาพ ความมีประสิทธิผล หรือคุณภาพการบริการ โดยวัตถุประสงค์ของการวัดผลการปฏิบัติงานนั้นก็เพื่อเป็นการสนับสนุนการตัดสินใจที่ดีขึ้นของผู้บริหาร และเพื่อให้ปฏิบัติงานโครงการบรรลุผลที่เกิดประโยชน์ตามความคาดหวังของประชาชน และยังสามารถใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงการปฏิบัติงานขององค์การ ปรับปรุงวิธีการมอบอำนาจและการกระจายความรับผิดชอบภายใน การจัดสรรงบประมาณและการให้แรงจูงใจการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ด้วย กรอบตัวแบบที่นิยมนำมาใช้ในการวัดผลการปฏิบัติงานตามแนวทางการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ผู้เขียนจะได้นำเสนอในหัวข้อต่อไป อย่างไรก็ตาม การวัดผลการดำเนินงานนั้น มีข้อควรคำนึงที่ผู้บริหารจะต้องตอบคำถามอันได้แก่ อะไรคือสิ่งที่องค์การจะต้องประสบความสำเร็จ การที่จะประสบความสำเร็จนั้นได้เกี่ยวโยงกับสินค้าหรือบริการอย่างไร รวมไปถึงอะไรคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้องค์การประสบความสำเร็จตามที่ต้องการ นอกจากนี้ การวัดผลการปฏิบัติงาน ยังจะต้องพิจารณาจากวัตถุประสงค์ขององค์การรวมทั้งกิจกรรมที่กำลังดำเนินการ หากไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรและไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะวัดผลได้อย่างไร กล่าวอย่างสังเขปได้ว่า การวัดผล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่แน่ชัดก่อน ตัวอย่างเช่น หากเป็นกรณีของการวัดผลการพัฒนาจังหวัดตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของรัฐบาลที่ย่อยลงมาในระดับจังหวัด ผู้บริหารงานในระดับกรมและจังหวัดจำเป็นที่จะต้องพิจารณาวิสัยทัศน์ ภารกิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ของจังหวัด หากมองอีกด้านหนึ่งเปรียบเทียบกับการทำงานของบุคคลก็นับว่าเป็นการมุ่งต่อการตอบคำถามว่า เราจะไปที่ไหน (วิสัยทัศน์) และต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้เราสามารถก้าวไปถึงที่หมาย (ภารกิจ/ วัตถุประสงค์/เป้าหมาย) และเราจะไปถึงที่หมายที่กำหนดไว้นั้นได้อย่างไร (กลยุทธ์/แผนงาน/แผนปฏิบัติงาน) นั่นเอง
การวัดผลการปฏิบัติงานตามแนวทางการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์นั้น จัดได้ว่าเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมาย ตัวบ่งชี้วัดผลสำเร็จของกิจกรรม การจัดเก็บข้อมูลและเปรียบเทียบผลงานกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การวัดผลการปฏิบัติงานจะช่วยให้องค์การ/ผู้ปฏิบัติงานได้รับข้อมูลและสารสนเทศย้อนกลับที่แสดงถึงผลสำเร็จของการดำเนินงาน ปัญหาหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การแสดงถึงการมีพันธะ หน้าที่และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ ผู้กำหนดนโยบาย แหล่งสนับสนุนงบประมาณ ฯลฯ การเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรและองค์การเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการบริหาร การพัฒนาองค์การ การออกแบบ/ทบทวนโปรแกรม กระบวนการดำเนินงานขององค์การหรือของทีมงานที่รับผิดชอบกิจกรรมการดำเนินงาน รวมทั้งช่วยให้การจัดสรรทรัพยากรเพื่อการสนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การวัดผลการปฏิบัติงานเป็นกระบวนการที่พึงต้องดำเนินการคู่ขนานหรือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการผลงาน มีกิจกรรม/กระบวนการที่สำคัญ
ตัวบ่งชี้วัดผลงานตามแนวทางการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ประกอบด้วยตัวบ่งชี้ที่สำคัญดังต่อไปนี้ (ทศพร ศิริสัมพันธ์,2543 :148-150 และสุพจน์ ทรายแก้ว ,2543:137-138)
ในกระบวนการบริหารงานแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ การวัดผลการปฏิบัติงานจะมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่การทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการปฏิบัติงานขององค์การให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ระบบการวัดผลการปฏิบัติงานที่ดีจึงควรเป็นระบบที่สามารถผลิตข้อมูลสารสนเทศที่แสดงถึงความก้าวหน้าของผลการดำเนินงานที่มีความครอบคลุม ครบถ้วน สมบูรณ์และทันกาล และเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบและหลักการพื้นฐานของการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์อย่างถี่ถ้วนแล้วก็จะเห็นได้ว่า การบริหารแบบนี้ แท้จริงนั้นเชื่อมโยง เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารเชิงกลยุทธ์เนื่องจากการที่องค์การใช้วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ และ กลยุทธ์ซึ่งอยู่ในแผนกลยุทธ์ขององค์การเป็นกรอบในการกำหนดปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ (Critical Success Factors-CSF) และตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก (KPI) เป็นกรอบวัดผลการปฏิบัติงานขององค์การเทียบกับเป้าหมาย เพื่อให้รู้ถึงความก้าวหน้าของการบรรลุวิสัยทัศน์ หากผลงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ผู้บริหารองค์การควรปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสม
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที