คนคุณภาพ

ผู้เขียน : คนคุณภาพ

อัพเดท: 04 พ.ย. 2010 15.53 น. บทความนี้มีผู้ชม: 174922 ครั้ง

เพิ่มเนื้อหาจากภาคที่แล้วครับ
ก็ขอให้ติดตามกันต่อๆไปนะครับ


ไปอยู่กับยายนะหลาน

คืนวันนั้น...

ผมกับยายนั่งคุยกันริมระเบียงถึงเรื่องในอดีตวัยเพียง 15 ปี

ทำให้ผมนั่งฟังยายเล่าได้ไม่นานสักพักผมก็ยุกยิกอยากจะไปเล่นกับเพื่อน

ยายคว้ามือผมไว้มือเหี่ยวย่นน่ากลัวเหมือนหนังตายซากสายตายายดุดันแต่เหม่อลอยมองหน้าผมเหมือนไม่ได้มอง

ผมนั่งข้างยายอย่างหวาดกลัวในกิริยาแล้วฟังเรื่องเล่าจากปากยายยายเล่าว่า...สมัยก่อนเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านตาย

ผู้ใหญ่จะนำมะพร้าว ฝรั่ง* มะม่วงในสวน มาบนเจ้าที่ไม่ให้ผู้ตายมารับตัวเด็กๆในบ้านไปอยู่ด้วย

ยายถามผมว่า...ถ้ายายตายไปแล้วกลับมารับผมให้ไปอยู่ในโลกอีกโลกด้วย

ผมจะไปกับแกไหม ?ผมหัวเราะในความงมงายคนแก่ก็อย่างนี้พยักหน้าเสียหน่อยไม่ให้แกน้อยใจแล้วผมก็รีบเดินไปเล่นกับเพื่อนยายหัวเราะอยู่คนเดียวเกือบครึ่งชั่วโมง...อีก 7 วันต่อ มาแกก็เสียชีวิตแบบประหลาด

กลางดึกคืนสุดท้ายยายลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเสื่อที่ปูนอนปากตะโกนเสียงแหบว่า...ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไปแล้วก็หวีดร้องเหมือนปีศาจทำให้พ่อกับแม่ของผมตกใจ

ต้องรีบจุดตะเกียงเป็นการใหญ่บ้านริมน้ำของเราใช้ตะเกียงเป็นดวงไฟ

และใช้ยากันยุงแบบจุดม้วนเพื่อไล่ยุงหลังจากห่มผ้าให้ยายแล้ว

ผมก็นอนอยู่ข้าง ๆตัวแกสั่นกุกกักลองหันไปดูตาแกลืมโพลง

น้ำหมากไหลย้อยออกมาจากปากตอนนอนตัวเย็นชืดทดสอบหยิกไปที่หลังมือ

ยายก็ไม่ตอบสนองทุกคนรีบมาดูอาการแล้วลงความเห็นว่ายายจากพวกเราไปแล้ว

หลังคืนสวดศพ 3 วันผมนอนบนเสื่อกับพื้นกระดานลมแม่น้ำพัดตีเข้าบ้านเย็นสบาย

กลุ่มดาวส่องประกายระยิบระยับแว่วเสียงไม้กระดานลั่นเหมือนมีคนเดิน

น้ำหนักมือกดลงบนหน้าอกผมขณะนอนหงาย

เสียงแหบแห้งของยายถามผมช้าๆไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....ร่างเกร็งแข็งพยายามยกมือมาพนมกลางอก

ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำมาอีกครั้งผมน้ำตาไหลอาบแก้ม

ริมฝีปากหมุบหมิบสวดคาถานะโมสามจบกระท่อนกระแท่นเต็มทีเพราะความหวาดกลัวแล่นขึ้นสมอง

น้ำหนักทับบนหน้าอกหนักขึ้นทุกทีที่สวดมนต์จบคาบ

น้ำหนักยายคงไม่เกิน45 กิโลแต่ที่ทาบทับบนหน้าอกตอนนี้ก็น่าจะปาเข้าไป 60 กิโลแล้ว

กระดูกกับปอดตรงทรวงอกถูกบดทับจนรวดร้าวผมขอร้องยายว่า...อย่าเอาผมไปเลย

ให้เวลาอีกนิดรอให้ผมสนุกกับเพื่อนฝูงจนเต็มคราบก่อนค่อยกลับมารับเสียงยายหัวเราะข้างหู

ผมขนลุกซู่ทั่วตัวกลิ่นน้ำหมากคละคลุ้งจนเสียวสันหลัง

แล้วน้ำหนักที่อัดแน่นลงบนทรวงอกก็ค่อยถ่ายออกทีละน้อยยายหัวเราะหมายถึงว่าตกลง...

เวลาผ่านไปสองปีการเล่นกับเพื่อนคงลดน้อยลงหันไปอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลการเรียน

ผมลืมเรื่องยายไปเสียสนิทมาเมื่อคืนวานผมปิดไฟนอนหลับตาสวดมนต์สามคาบ

แล้วแผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับพอลืมตามองเพดานในห้องมืด...หางตาผมก็มองเห็นยายนั่งอยู่ข้างๆ

ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....'เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำกับเมื่อครั้งอดีตผมแทบเป็นบ้าร่างยายเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนองดวงตาหลุดหายไปหนึ่งข้างน้ำหมากกับเศษฟันหักร่วงหยดแหมะ ๆเปรอะที่นอนเต็มไปหมด

กลิ่นเหม็นของผีตายซากอบอวลเต็มห้องคราวนี้ยายเอาจริงแน่ผมไม่ไปกับยายหรอกผมส่ายหัวมือประกบพนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยายนั่งนิ่งตาข้างที่ยังเหลืออยู่มองผมอย่างรวดร้าวเจ็บช้ำไม่มีเสียงหัวเราะจากปากแก

เพียงเสี้ยววินาทีแกปราดขึ้นมานั่งทับอกผมบนเตียงมือเหี่ยวงุ้มบีบคอและพยายามล้วงเข้าไปในปากผม

เรี่ยวแรงเหมือนผีสิงผมแทบสู้แกไม่ไหวยายเอาคนอื่นไปแทนได้ไหม?

เอาเพื่อนผมไปแทนได้ไหม ?ผมเอ่ยถามทางดวงจิตแกนิ่งเงียบ

ยายเอาตัวเพื่อนผมที่เข้ามาอ่านบทความนี้ไปนะ

ตอนกลางคืนเค้านอนหลับยายเข้าไปล้วงปากกินเครื่องในกินวิญญาณเค้าเลยนะยาย..เสียงยายก้มลงมาหัวเราะริมหูผม...ยาวและนานเหมือนกับว่าสะใจในข้อเสนอ ก่อนจะหายตัวไป...

บรื๋ออออออออ(ขอโทษน๊า.............จำเป็นอ่ะ)

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที