วิกูล

ผู้เขียน : วิกูล

อัพเดท: 26 ส.ค. 2009 04.33 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3490 ครั้ง

ผู้นำต้ององอาจ


-

 

ประเทศไทยของเราหยุดการพัฒนา ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม นับตั้งแต่การรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ล้มรัฐบาลพันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร

 

เรามีนายกรัฐมนตรี ต่อจากเหตุการณ์ล้มรัฐบาลนั้นมาแล้ว ๓ ท่าน ประกอบไปด้วยคุณสมัคร สุนทรเวชร คุณสมชายวงษ์สวัสดิ์ และล่าสุดคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ละท่านไม่สามารถแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองเพื่อประชาชนได้อย่างราบรื่น ตามกำลังความสามารถ

 

เพราะทั้งหมดเกิดการต่อต้านจากกลุ่มกดดันทางกมาเมืองกลุ่มใหญ่ ๒ กลุ่มคือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  และ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ภายใต้สัญญาลักษณ์ พธม. เสื้อเหลือง  นปช. เสื้อแดง

 

จากสภาพของการไม่ลื่นไหลในการพัฒนาชาติ เพื่อควมอยู่ดี กินดี ของประชาชนชาวไทย  ทั้งหมดนั้นเกิดจากนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่สามารถบริหารงานแผ่นดินได้ตามบทบาทหน้าที่ของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารแผ่นดินได้อย่างไม่สะดวกเต็มที่ ไม่มีความองอาจในการตัดสินใจ

 

การตัดสินใจที่ไม่องอาจ ก็เพราะการได้มาซึ่งการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่องอาจนั่นเอง จึงต้องเกรงอกเกรงใจ ผู้มีพระคุณทั้งหลายที่สนับสนุนมาในอดีต นั่นคืออำนาจอื่นมิใช่อำนาจประชาชน

 

เมื่อถูกอำนาจอื่นครอบงำ การจะทำอะไรเพื่อประชาชนก็รู้สึกเกรงอำนาจนั้นมากว่าอำนาจประชาน การแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชนจึงไม่ถูกดำเนินการขยายผลอย่างจริงจัง จะมีอยู่บ้างก็ประปราย แต่ก็แห่แหนแวดล้อมด้วยทุจริตคอรัปชั่น

 

ในเมื่อไม่เกรงใจประชาชนเสียแล้ว ประชาชนจะหวังอะไรได้ ผู้หวังได้คืออำนาจอื่นนั่นเอง ที่จะบังคับทั้งทางตรงทางอ้อมให้นายกรัฐมนตรีทำในสิ่งที่เขาต้องการ ผลประโยชน์ทั้งมวลจากการบริหารจึงตกถึงประชาชนส่วนใหญ่น้อยมาก

 

จะเห็นได้จากที่สภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตามข่าวสารต่างๆไม่ส่อแววเลยว่าประเทศไทยเราจะดีขึ้น หรือดีขึ้นเมื่อไร

 

ความที่เกรงอำนาจอื่นมากกว่าอำนาจประชาชน เพราะอำนาจอื่นแสดงอิทธิฤทธิ์ให้หน้ายกรัฐมนมตรีต้องมีอันเป็นไปเฉพาะหน้าได้ไวกว่าอำนาจที่ถูกต้อง คือ “อำนาจประชาชน” นายกรัฐมนตรีจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันต่อวัน ด้วยการถืออำนาจอื่นเป็นใหญ่ อำนาจประชาชนเป็นรอง

 

ดังนั้นใครที่คิดจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี และตั้งใจจะใช้ความดี ความสามารถที่มีอยู่ให้เกิดกับประชาชนไทยอย่างแท้จริงแล้วไซร้ ก็ต้องยอมรับกติกา เดินเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลอย่างองอาจ

 

นั่นคือต้องเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น มิฉะนั้นแล้วหากเข้ามาด้วยอำนาจอื่น ถึงเข้ามาได้ก็จะมีแต่ความทุกข์ ไม่ต่างอะไรกับพระเอกภาพยนต์รูปร่างหน้าตาดี แต่ต้องก้มหน้าทำตามบทบาท ที่ผู้กำกับสั่งเท่านั้น ที่นี่ประเทศไทยมิใช่วงการมายา

 

การมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยอำนาจอื่น จะทำให้ความรู้ ความสามารถ และความดีที่นากยกรัฐมนตรีมีและสั่งสมมาตลอดชีวิต ต้องสูญเปล่า

 

แต่จะเข้ามาด้วยวิธีใดก็ตาม เมื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ต้ององอาจ และกล้าหาญ เพราะความองอาจและกล้าหายนั้น ถึงไปขัดใจอำนาจอื่น หากเป็นความถูกต้อง ประชาชนจะอยู่ข้างนายกรัฐมนตรี...!!!

 

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที