ปรารพ

ผู้เขียน : ปรารพ

อัพเดท: 20 ส.ค. 2009 08.43 น. บทความนี้มีผู้ชม: 5616 ครั้ง

GENERATION G เจเนอเรชั่นของคนรู้จักให้


1


ได้อ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับ Generation G จาก www.tcdcconnect.com จึงนำตัวอย่างมาให้อ่านกัน นะครับ
อยากอ่านเต็มๆ เข้าไปอ่านต่อได้ในลิงค์ อ่านต่อด้านล่าง นะครับ


GENERATION G เจเนอเรชั่นของคนรู้จักให้
August 13th, 2009
gen_g.jpg 

GENERATION G หรือเจเนอเรชั่นผู้ให้ คือ ยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับคำว่า “น้ำใจ” (Generosity) ในการดำเนินชีวิตและธุรกิจมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ผู้คนในโลกปัจจุบันเหนื่อยล้าจากวิถีความโลภและผลลัพธ์อันเลวร้ายของมันต่อระบบเศรษฐกิจ ความเสื่อมโทรมนี้ผลักดันให้พวกเขาเริ่มมองหาองค์กรที่มีหัวใจกันมากขึ้น ซึ่งความต้องการดังกล่าวสอดคล้องอย่างพอดิบพอดีกับการเกิดขึ้นของวัฒนธรรมใหม่บนอินเตอร์เน็ต ที่ผู้คนตัวเล็กๆ จากทุกมุมโลกมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยน แบ่งปัน และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยกัน

gen_g2.jpg

ในโลกของผู้บริโภค “การแบ่งปันเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับ” ได้ที่เข้าแทนที่ “การเป็นเจ้าของ” สิ่งใดๆ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จไปแล้ว ธุรกิจและองค์กรต่างๆ จำเป็นที่จะต้องปรับตัวตามทัศนคติใหม่นี้ แม้ว่ามันจะตรงข้ามกับระบบความเชื่อเก่าๆ ประเภท “Me Myself and I” จากหลายทศวรรษก่อนก็ตาม

สามปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน GENERATION G ให้เกิดขึ้น
1. ภาวะความตกต่ำและความไม่พอใจของผู้
บริโภค
ความล้มเหลวของเศรษฐกิจโลกทำให้ผู้บริโภครู้สึกขยะแขยงกับนักบริหารองค์กรที่เห็นแก่ได้กันแบบสุดๆ แน่นอนว่า ความรู้สึกนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน วิกฤตการเงินครั้งนี้เป็นเสมือน “หมัดน็อกเอาท์” ที่มาปิดฉากทุกอย่างลงเท่านั้นเอง ผู้บริโภคนั้นรู้สึกติดลบสะสมมานานแล้วกับการที่องค์กรธุรกิจต่างๆ ไม่ค่อยแยแสต่อความเป็นไปของสิ่งรอบข้าง ซึ่งส่วนมากมักเริ่มจากการที่ผู้บริหารระดับบนๆ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก ไม่ดูแลใส่ใจพนักงานเท่าที่ควร จนในที่สุดพนักงานเหล่านั้นก็รับเอาทัศนคติเดียวกันมาใช้กับลูกค้าของบริษัทด้วย

2. การมาถึงขององค์กรที่มีหัวใจ
ความต้องการในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับ “ความเห็นแก่ได้” นี้ เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในทุกซอกมุมของสังคม เวลาแห่งความลำบากได้เผยให้เห็นว่ามนุษย์เรายังต้องการความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ และหัวใจที่มีให้แก่กัน ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำลงมากเท่าไร เรายิ่งจะได้ยินเรื่องราวของ “น้ำใจ” ในสังคมกันมากขึ้นเท่านั้น เพราะมันคือ สิ่งที่ประชาชนทั่วไปร่ำร้องขอจากรัฐบาลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก พวกเขาต้องการให้ใครสักคนเข้ามาดูแลเรื่องอาชีพ เรื่องเงินออม และเรื่องครอบครัวให้กับพวกเขา ซึ่งความต้องการนี้จะทวีความรุนแรงอย่างมากในสังคมที่มีลักษณะเป็นปัจเจกสูง ที่ไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ คนรวยหรือคนจนได้รับการประพฤติปฏิบัติต่อในฐานะปัจเจกชนเท่าๆ กัน

3. แนวคิดแห่งยุคใหม่ : การได้ให้คือรูปแบบใหม่ของการได้รับและการแบ่งปัน = การให้ชนิดหนึ่ง
หัวใจของเจเนอเรชั่น G ไม่ได้เกิดจากความไม่พอใจของผู้บริโภคหรือความเสื่อมโทรมของระบบเท่านั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากนี้ไปคือ เรื่องราวของคนเจเนอเรชั่นใหม่ที่มีพลังและมีใจที่จะแบ่งปัน ให้ และร่วมมือกันมากขึ้นในหลายระดับ หลายรูปแบบ


อ่านต่อ.........................

ขอบคุณบทความดีๆจาก www.tcdcconnect.com นะครับ

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที