CXO.Asia

ผู้เขียน : CXO.Asia

อัพเดท: 26 ต.ค. 2006 18.58 น. บทความนี้มีผู้ชม: 4858 ครั้ง

จะเห็นได้ว่า ธรรมชาติ ของคนเรานั้น ย่อมมีที่มาหลากหลาย
ดังต้นน้ำอันหลากหลาย ที่ไหลกลายเป็น สายน้ำ ที่หลากหลาย
ผู้คนย่อม มีวิถีชีวิต วิถีความคิด ความชอบ ความถนัด ที่หลากหลาย ต่่างกันออกไป

จะเห็นว่า หากเราพยามยาม ให้ระบบการศึกษา ระบบเดียวกับทุกคน
หรือพยายามใช้ วิธีการเดียวกัน กับทุกคน
ย่อมจะไม่สอดคล้อง กับความเป็นจริง ที่หลากหลาย
ย่อมก่อให้เกิด ผลเสีย อย่างต่อเนื่อง มากมาย ไม่สิ้นสุด


ตอนที่ ๑

ภาคสาม บทที่ ๗  แก่นของปฎิรูปการศึกษา การเรียนรู้ โดยการตั้งคำถามพื้นฐาน และเรียนโดยเป็นผู้สอน

 

วันที่ 26 ตุลาคม 2006 (18:58)

 

เรียน พ่อแม่ ครู อาจารย์ ผู้นำทุกระดับในสังคม บ้านเมือง นักเรียน นักศึกษา เด็กๆ และเยาวชนทุกคน

 

แม้ว่าข้าพเจ้านี้ จะไม่ได้มีความสามารถ พรสวรรค์เหนือผู้คนอื่น เลยแม้แต่น้อย

เป็นแค่เด็กชาวนา ธรรมดาคนหนึ่ง บนแผ่นดินไทย อันเป็น แผ่นดินแม่ที่มีพระคุณ และเป็นที่รักยิ่ง เท่านั้น

 

เมื่อเทียบกับ พ่อแม่ ครู อาจารย์ ผู้นำทุกระดับทุกท่าน ที่มีความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิ แล้ว

ข้าพเจ้าก็เปรียบเป็นดัง หิ่งห้อยตัวน้อย ที่คอยเปล่งแสง อยู่ภายใต้ ทุกท่าน ที่เป็นดังดวงอาทิตย์

ดวงจันทร์ ดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้า เท่านั้นเอง

 

แต่อย่างไรก็ตาม อาศัยที่ว่า ข้าพเจ้านั้น เป็นคนอยู่วงนอก และอยู่ไกลออกไป

จึงพอมองเห็นภาพในมุมกว้าง มุมอันหลากหลาย ที่ไม่อาจมอง หรือ สังเกตเห็น

จุดศูนย์กลาง หรือ จากจุดไกล้ๆ ได้

 

ขอเรียนว่า อย่าคิดว่าผู้น้อย คนนี้กระทำการ บังอาจ หรือ อาจเอื้อม เลย

ที่อยากจะ เสนอแนะ มุมมอง หรือ สิ่ง ที่ได้สังเกตุเห็น แด่ทุกท่าน

เพียงแต่คิดว่า ทุกท่าน อาจจะเมตตา ให้โอกาส บ้าง

เผื่อว่า อาจจะเป็นประโยชน์ แก่แผ่นดินแม่ อันมีพระคุณยิ่ง ไม่มากก็น้อย

 

มุมกว้างที่ข้าพเจ้าได้สังเกต และมองเห็น ได้แก่

 

ประการแรก อะไร คือ แก่น และเหตุ ให้เิกิด การเรียนรู้ ในมนุษย์เรา ทุกคน

 

หากเริ่มต้นพิจารณา จากข้างในจิตใจ ของตัวเราเองแล้ว จะเห็นได้ว่า

หนึ่ง สิ่งที่เราอยาก เรียนรู้จริงๆ มักจะมาจากความปราถนาภายใน ที่ใคร่รู้ อยากเรียนรู้ นั่นเอง

เป็นสิ่งที่เราประหลาดใจ อยากถามคำถาม มาตั้งแต่เยาว์วัย

เป็นสิ่งที่คาค้าง ติดอยู่ในใจ ที่ยังไม่ได้รับ คำตอบที่พอใจ

ที่ยังไม่ได้ รับการตอบสนอง อย่างพอใจ

 

สอง สิ่งที่เราอยาำก เรียนรู้จริงๆ มักจะเป็นสิ่งที่เข้ากับ ตัวเราได้ เข้ากับความสนใจ

เข้ากับความสามารถ พรสวรรค์ ในตัวเรา และไม่ขัดแย้งกับความรู้สึก ลึกๆ ภายในของเรา

และไม่ขัดแย้ง ไม่ทำลาย ความเชื่อมั่นในตัวเรา

คือขบวนการเติบโตอย่างธรรมชาติ นั่นเอง

เติบโตอย่างสอดคล้อง กับธรรมชาติ ในตัวเรา

ไม่ขัดแย้ง ไม่ทำลาย ไม่แปลกแยก ต่อธรรมชาติในตัวเรา

 

หากลองพิจารณา ในชีวิตจริง นั้น จะเห็นได้ว่า

กระแสความเปลี่ยนแปลง ไหลบ่า เข้าท่วม บ้านเมือง

และส่งผลกระทบต่อ เด็กๆ เยาวชน

และผู้เีรียนรู้ ในระบบการศึกษาและในชีวิตทุกคน

 

หากเรายึดติด ยึดมั่น กับระบบ วิธีการ ศึกษาที่ไม่สอดคล้อง

กับสภาพความเป็นจริง ที่เปลี่ยนไป

ย่อมก่อให้เกิด ผลเสีย อย่างต่อเนื่อง มากมาย ไม่สิ้นสุด

 

ประการที่สอง ความหลากหลาย ของมนุษย์ และวิธีการเรียนรู้เหมาะสม

 

จะเห็นได้ว่า ธรรมชาติ ของคนเรานั้น ย่อมมีที่มาหลากหลาย

ดังต้นน้ำอันหลากหลาย ที่ไหลกลายเป็น สายน้ำ ที่หลากหลาย

ผู้คนย่อม มีวิถีชีวิต วิถีความคิด ความชอบ ความถนัด ที่หลากหลาย ต่่างกันออกไป

 

จะเห็นว่า หากเราพยามยาม ให้ระบบการศึกษา ระบบเดียวกับทุกคน

หรือพยายามใช้ วิธีการเดียวกัน กับทุกคน

ย่อมจะไม่สอดคล้อง กับความเป็นจริง ที่หลากหลาย

ย่อมก่อให้เกิด ผลเสีย อย่างต่อเนื่อง มากมาย ไม่สิ้นสุด

 

วิีธีการเรียนรู้ ที่สามารถสอดคล้อง กับความหลากหลาย

และการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ไม่สิ้นสุดนั้น

สามารถทำได้โดย ปรับการเรียนรู้ให้ หลากหลายขึ้น

และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว และสามารถก้าวข้าว

ข้อจำกัด ขีดจำกัด ของยุดสมัยได้

คล้ายกับการบินข้าม ภูเขาแห่งยุคสมัย เลยทีเดียว

 

 

ประการที่สาม วิธีการเรียนรู้ โดยการตั้งคำถาม

 

การเรียนรู้ โดยการตั้งคำถาม นั้นไม่ใช่ของใหม่

มีมานานหลายพันปีแล้ว เราทุกคนอาจทราบดี

แต่ว่าเราอาจจะต้อง ปรับวิธีบินใหม่ แทนการบิน

แบบเก่า หรือวิธีการแบบเก่า ที่มีติดข้อจำกัดแห่งยุคสมัย

 

ประโยชน์ของการเรียนรู้ อย่างแรก คือ

การตั้งคำถามนั้น สามารถข้ามขีดจำกัด

ของความหลากหลาย และการเปลี่ยนแปลง อันรวดเร็วได้

 

เป็นระบบการเติบโต เรียนรู้โดยธรรมชาติ

เป็นการตอบสนอง อย่างสอดคล้องกับ ความปราถนา เรียนรู้ลึกๆ ภายใน

เป็นการตอบสนอง อย่างสอดคล้องกับ ความใคร่รู้ ลึกๆ ภายใน

 

ตัวอย่าง เช่น หากเรามีความคับข้องใจ ติดขัดใจ

กับคำถามที่ ไม่สามารถตอบสนองได้

เราย่อมคลางแคลงใจ ไม่มั่นใจ ไม่เชื่อมั่นต่อสิ่งอื่นๆ อยู่ร่ำไป

เพราะเรารู้สึกลึกๆ ว่ามีบางอย่าง ขาดไป

และรู้สึกขัดแย้ง ที่จะยอมรับ สภาพความคลางแคลงใจนั้น

 

การเริ่มต้น เราควรที่จะถามคำถาม พื้นฐานก่อน

เพื่อที่ว่า จะได้ตอบสนอง ความใคร่รู้ในเบื้องต้นได้

เพื่อเป็นพื้นฐาน เป็นขึ้นบันใด ที่เข้มแข็ง

สำหรับก้าวเดิน เพื่อเรียนรู้ ต่อไป

 

ประโยชน์อย่างที่สอง ของการตั้งคำถาม คือ

ผู้เรียนที่ถามคำถามนั้น มักจะได้พัฒนาความคิด

อย่างเป็นเหตุ เป็นผล ต่อเนื่อง เป็นลำดับ

อย่างเป็นระบบ เป็นพื้นฐานที่เข้มแข็ง ต่อการเรียนรู้ ในขั้นต่อไปอีก

 

ประโยชน์อย่างที่สาม คือ ผู้เรียนมักได้ข้อสรุปเอง

ด้วยตัวเอง เป็นข้อสรุปของตนเอง และสอดคล้อง

กับความใคร่รู้ลึกๆ ภายใน ตนเอง

สามารถหลีกเลี่ยง การยัดเยียด ข้อสรุป ความคิดเห็น

อื่นๆ จากภายนอก แบบสำเร็จรูป ซึ่งสามารถทำลาย

ความเชื่อมั่น ความใคร่รู้ ศักยภาพของผู้เรียนได้

 

เราจะสังเกตุเห็นว่า เราไม่สามารถยัดเยียด ข้อสรุป

ต่างแบบสำเร็จรูป ให้กับผู้ื่อื่นได้

เราทำได้แค่เพียง เป็นผู้ช่วยแนะนำ ช่วยตั้งคำถามที่เหมาะสม

เพื่อช่วยให้ผู้เรียนนั้น เข้าถึงข้อสรุป ได้ด้วยตนเอง

 

 

ประการที่สี่ วิธีการเรียนรู้ โดยการเป็นผู้สอน

 

การเรียนรู้ โดยการเป็นผู้สอนนั้น เข้าใจว่าคงมีท่านผู้รู้

ได้นำเสนอมาบ้าง พอสมควร แต่เราจะลองพิจารณา

ในประเด็นที่เราสนใจ อยากได้คำตอบ ที่แจ้งชัด

 

ประโยชน์อย่างแรกนั้น ก็คือว่า สามารถแก้ไขปัญหา เรื่อง

ครู อาจารย์ ไม่พอเพียงได้

เพราะว่า ผู้เรียน นั้นเป็นผู้ เตรียมการ เตรียมตัว

ค้นคว้า หาข้อมูล เพื่อนำเสนอ และตอบคำถามตัวเอง และผู้ื่อื่น

 

ดังนั้นอาจารย์ หรือ ครู ๑ คน แทนที่จะรับผิดชอบสอน ดูแล

ได้แค่ไม่กี่คน กลับสามารถเป็นผู้ประสานงาน สนับสนุน

ดูแลผู้เรียน ได้มากกว่าเดิม หลายเท่าตัวนัก

 

ประโยชน์อย่างที่สองนั้น คือ เมื่อผู้เรียน เป็นผู้สอน

ย่อมมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ สามารถเรียนรู้ เข้าใจ

ในเนื้อหา วิชานั้นๆ อย่างลึกซึ้ง อย่างยิ่ง

จนสามารถย่อย เป็นคำพูดของตัวเอง

สามารถถ่ายทอด ด้วยความเข้าใจ ของตัวเอง

สามารถตอบคำถามต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง

จึงเป็นระบบการเรียนรู้ที่ครบ ถ้วน บริบรูณ์ ทั้งไป และกลับ

มีการตอบคำถาม เป็นตัวตรวจเช็ค ขากลับ นั่นเอง

 

ประโยชน์อย่างที่สามนั้น คือ เป็นขบวนการที่สามารถ

ใช้ได้ในชีวิตจริง สอดคล้อง ส่งเสริม ความมั่นใจ

ส่งเสริมคุณภาพ ทางการเรียนรู้

ส่งเสริมให้ปลดปล่อย ศักยภาพอันแท้จริง

ในตัวผู้เรียนทุกคนได้ อย่างที่ประสิทธิภาพ  ประสิทธิผลยิ่ง

 

 

ท้ายสุด ขอให้ทุกท่านมีกำลังกาย กำลังใจ ที่ดียิ่ง ในการทั้งปวง ขอขอบพระคุณยิ่ง

 

ด้วยความยินดี เต็มใจ เปิดกว้าง เป็นเกียรติ อย่างยิ่ง ต่อความรู้สึก ความคิดเห็น ของทุกท่าน

และขอเชิญทุกท่าน แวะเยี่ยมชมทั้ง ๒๖ บทความ ได้ที่

http://www.tpa.or.th/writer/author_des.php?passTo=e7c730f5848300fc6f352f248796df86&authorID=63

และ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cxoasia&group=1

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที