เที่ยวอุทยาน ร. 2 ท่องวิถีวัฒนธรรมอัมพวา
เพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์โดยใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ทำให้
"สมุทรสงคราม" กลายเป็นปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะ
"ตลาดน้ำอัมพวา" ที่กำลังเป็นสถานที่อินเทรนด์ของนักเดินทางทุกเพศทุกวัย ประมาณว่า ถ้าอยากย้อนยุคแบบเก๋ไก๋ ชมวิถีชีวิตริมน้ำแม่กลอง ล่องเรือชมหิ่งห้อย...ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนที่นี่
ติดกับตลาดน้ำอัมพวาซึ่งมีทั้งร้านทั้งเรือคับคั่ง และบรรยากาศการท่องเที่ยวที่แสนจะคึกคัก ยังมีความสงบงาม และเรียบง่าย ของแหล่งความรู้อีกที่หนึ่ง ซึ่งควรค่าน่าไปสัมผัส "อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย" หรือเรียกสั้นๆ ว่า
"อุทยาน ร. 2" สถานที่ซึ่งทุกวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี จะใช้สำหรับจัดงาน"วันศิลปินแห่งชาติ" อยู่เป็นประจำ เนื่องด้วยวันศิลปินแห่งชาตินั้น อ้างอิงจากวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นเอกอัครศิลปินที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทยเรา และยังทรงได้รับยกย่องจาก UNESCO ว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกอีกด้วย
พื้นที่ราว 11 ไร่ของอุทยาน แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น อาคารทรงไทย
"พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย" ภายในประดิษฐานพระบรมรูปรัชการที่ 2 พร้อมด้วยศิลปวัตถุสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อาทิ แท่นบรรทมที่เชื่อว่าทรงใช้จริง เครื่องเบญจรงค์ ถ้วยโถโอชาม หัวโขน ตัวหนัง เครื่องดนตรีไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีห้องหญิง ห้องชาย และมีข้าวของเครื่องใช้ ที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนในยุคก่อนได้เป็นอย่างดี
บริเวณโรงละครกลางแจ้ง เป็นสวนหย่อมที่จัดลดหลั่นอย่างสวยงาม เพื่อใช้ชมกิจกรรมการแสดงต่างๆ และหากใครที่เป็นคนรักต้นไม้ ก็น่าจะสบายอกสบายใจ กับการเดินชมสวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดี ที่รวบรวมสารพันพันธุ์ไม้จากบทพระราชนิพนธ์ไว้กว่า 100 ชนิด อาทิ ยี่สุ่น สารภี ช้างโน้ม ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นตัวละครจากวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง และ ไกรทอง เพื่อชวนให้เราย้อนรำลึกถึงบทพระราชนิพนธ์อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่ายิ่งของชาติอีกด้วย
ไม่เพียงแต่พันธุ์ไม้ไทยโบราณที่ปรากฎในวรรณคดี ที่นี่ ยังมีต้นไม้หายากที่เป็นเอกลักษร์ประจำถิ่นอีกด้วย เช่น มะพร้าวหลายสายพันธุ์ ที่มีป้ายบอกว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกด้วยพระองค์เอง อย่างไรก็ตาม หากใครชอบถ่ายรูปกับฉากหลังสีสดๆ ก็น่าจะถูกใจกับดอกไม้ กล้วยไม้สีสันสดใส ที่ปลูกประดับแซมอยู่ตลอดสวน สิ่งสะดุดตาและน่าทึ่งเมื่อแรกเห็น คือ ดอกบัวสีเหลืองนวลสวย ที่ชื่อ
"ครูจูหลิง" ดูแล้วชวนให้นึกถึงครูสาวจากภาคเหนือ ผู้มีหัวใจเสียสละที่ยิ่งใหญ่เพื่อเด็กๆ ภาคใต้เป็นที่สุด
เสียงดนตรีไทยแว่วหวานขับกล่อมเบาๆ ท่ามกลางบรรยกาศของเรือนไทย และพันธ์ไม้ที่งดงาม อาจพาให้เราเพลิดเพลิน เดินเลาะเรื่อยไปจนพบกับสายน้ำแม่กลองอันฉ่ำเย็นที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งนี้ก็เป็นได้ นั่งดูวิถีชีวิตริมน้ำ ลมพัดเย็นสบาย โลกหมุนช้าลง...ความสุขของชีวิต หาได้จากความงาม ที่สงบ เรียบง่าย...เช่นนี้เอง
อุทยาน ร. 2, ตลาดน้ำอัมพวา และ วัดอัมพวันเจติยาราม (นิวาสสถานเก่าของรัชกาลที่ 1) ล้วนอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน สามารถเดินเที่ยวชมแบบเชื่อมต่อกันได้เลย ฉะนั้น หากไปเยือนอัมพวา ก็ควรค่าน่าที่จะไปให้ครบ
อุทยาน ร. 2 เปิดให้ชมได้ทุกวัน โดยในวันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 08.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30-17.30 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 5 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 3475 166
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : เที่ยวอุทยาน ร. 2 ท่องวิถีวัฒนธรรมอัมพวา