Peter Drucker ได้เขียนความลงในวารสาร Harvard Business Review ฉบับเดือนมิถุนายน ปี 2004 ชื่อ What Makes an Effective Executive เนื้อหาของบทความนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์กว่า 65 ปี ที่เขาได้ทำงานร่วมกับผู้นำองค์กรมาจำนวนมาก ก่อนพบว่า ผู้นำที่มีประสิทธิผล นั้นมีลักษณะ บุคลิกภาพ และคุณลักษณะที่หลากหลายมาก แต่ผู้นำกลุ่มนี้จะปฏิบัติตามแนวทางหลายประการซึ่งได้แก่ การเป็นผู้ใฝ่หาว่า อะไรคือสิ่งที่จะต้องทำ (They asked, "What needs to be done?" ) อะไรคือสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับองค์กร (They asked, "What is right for the enterprise?") การพยายามพัฒนาแผนงาน (They developed action plans.) การสื่อสาร ถ่ายทอดแผนงานให้เป็นที่รับรู้ และเข้าใจ (They took responsibility for communicating.) มุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อโอกาสมากกว่าปัญหา (They were focused on opportunities rather than problems.) และอีกประการหนึ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือ ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้นำการประชุมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (They ran productive meetings.) ด้วย
ที่กูรูด้านการจัดการระดับโลกอย่าง Drucker กล่าวถึง นั้น เมื่อเราพิจารณาด้วยหลักกาลามสูตร ก็จะเห็นได้ว่าไม่ได้เกินเลยไปกว่าความเป็นจริงเลย หน้าที่หลักสำคัญของคนที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้างาน ไม่ว่าจะบริหารงานในระดับส่วนงาน แผนกหรือฝ่ายก็ตาม ต่างจะต้องทำหน้าที่สื่อสารแผนงานและข้อมูลที่สำคัญให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสให้ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นต่อแผนงาน ซึ่งมักกระทำกันด้วยการประชุมนั่นเอง และแบบนี้แล้ว หัวหน้างานที่ดีจะต้องรู้จักนำการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ชุดการเรียนรู้นี้จะช่วยให้ท่านได้เรียนรู้ในประเด็นข้างต้น มาติดตามกันต่อในเล่ม
เพราะเวลาของผู้บริหารส่วนใหญ่จะหมดไปกับการประชุม แม้กระทั่งการพูดคุยสองต่อสองกับเพื่อนร่วมงาน ก็ถือเป็นการประชุมอย่างหนึ่ง
แนวทางในการนำการประชุมให้ได้ผลดีจะต้องรู้ล่วงหน้าว่า การประชุมที่จะเกิดขึ้นเป็นการประชุมในลักษณะใด เนื่องจากการเตรียมการนำการประชุมในแต่ละวัตถุประสงค์ย่อมที่จะแตกต่างกัน
ผู้นำจะต้องเตรียมตัวและวางตัวในลักษณะที่แตกต่างกันสำหรับการประชุมในแต่ละลักษณะ นอกจากนี้การติดตามงานหลังการประชุมก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่ประชุมเสร็จแล้วปล่อยไป โดยขาดการติดตามงาน
ประเด็นสุดท้าย ผู้นำควรจะคิดและพูดในด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่งว่า พวกเรา มากกว่าเป็นเพียงแค่ ผม หรือ ดิฉัน ถึงแม้ผู้นำจะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจในองค์กรก็ตาม การที่งานจะสำเร็จได้จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน เพราะฉะนั้นผู้นำที่ดีควรจะต้องคิดถึงและพยายามตอบสนองต่อความต้องการของทั้งองค์กรมากกว่าของตนเอง
เป็นอย่างไรครับ หลักการแปดประการจาก Drucker ในการที่จะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผล นี่อาจจะเป็นฉบับย่อ แต่น่าจะทำให้ท่านผู้อ่านพอจะเห็นภาพ ผมมองว่า การเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้จำเป็นต้องอาศัยสิ่งที่พิเศษพิสดาร เพียงแต่ควรทำในสิ่งปกติเหล่านี้ให้ได้ดีที่สุด
Drucker ยังแถมประเด็นสุดท้ายไว้ในบทความของเขาด้วยว่า ผู้นำที่ดีควรจะ ฟังก่อน แล้วพูดทีหลัง (Listen First, Speak Last) ซึ่งในประเด็นสุดท้ายนี้ ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของผู้นำหลายๆ ท่านนะครับ ที่อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญของความล้มเหลวโดยที่ผู้นำคนนั้นมักไม่ค่อยรู้ตัว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที