ความสำคัญของการวิจัย
ซุนวู ผู้ที่เชี่ยวชาญการบของจีน กล่าวไว้ในคัมภีร์พิชัยสงครามของตนว่า
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ถ้ามาเปรียบเทียบกับการค้าได้ไม่ต่างจากการทำสงครามเลย ไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือจะขนาดย่อม หากเรารู้ขีดความสามารถทางการแข่งขันของเรา รู้ตัวว่าเรามีเงินทุนเท่าไหร่จะซื้อของมาขายหรือมาผลิตได้กี่บาท ของที่ขายอยู่ขายดีหรือไม่ ได้เงินสดเข้ามาเร็วหรือเปล่าหรือที่นักวิชาการเขาชอบพูดว่า เงินหมุนเวียนได้ดีหรือไม่ นั่นเอง
นอกจากนี้ จะต้องรู้อีกว่าเรามีสินค้าและบริการเป็นอะไร เถ้าแก่ที่ทำธุรกิจบางรายมีสินค้าเป็นตัวผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ แต่บางรายทำธุรกิจบริการเช่น ตัดผม เสริมสวย ซักแห้ง ซักอบรีด ล้างรถ (Car care) บริการซ่อมมือถือ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ ไม่มีตัวผลิตภัณฑ์ นั้นมีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน มีลูกค้าเดิมที่มีอุดหนุน ซื้อของหรือเข้ามารับบริการกิจการเรามากแค่ไหน เรามีลูกจ้างมากพอและมีความเชี่ยวชาญที่จะทำให้กิจการเราดำเนินไปได้ด้วยดีหรือเปล่า
และรู้เราอีกเรื่องคือ ศักยภาพของกิจการเราในอนาคต จะเติบโต หรือจะคงที่หรือลดลง ไม่ได้หมายถึง แค่จะขายได้ดีหรือมีลูกค้ามากเหมือนเดิมตลอดไปเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ แต่หมายถึงการมีทายาท ลูกหลานที่มีใจรักและศรัทธา ตลอดจนมีความรู้ความสามารถในกิจการของเรามาสืบทอดกิจการด้วย
รู้เขา หมายถึง คู่แข่ง ลูกค้าและส่วนครองตลาด สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจทั้งหมาย เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งทัศนคติ ความเชื่อตลอดจนค่านิยม ของคนในสังคมที่พวกเขาเหล่านั้นจะเป็นลูกค้าของเราหรือไม่ก็ได้ และนี่คือเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่เป็นเถ้าแก่จะต้องจัดการให้ได้
มีเทคนิคของกระบวนการวิจัยที่คนที่เป็นเถ้าแก่ สามารถประยุกต์ใช้ได้เพื่อปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป และสามารถเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นผู้ตาม เหมือนการแข่งขันชกมวยอย่าลืมว่าคู่ชกหมัดหนักกว่าใช่ว่าเขาจะเป็นผู้ชนะเราเสมอไป หรือการวิ่งแข่งกันผู้ที่วิ่งออกนำไปก่อนใช่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าเส้นชัยก่อน การทำธุรกิจเช่นกันคนฉลาดคิดทัน รู้ทัน ปรับตัวทัน และเข้าใจธุรกิจที่ตนทำอยู่เท่านั้นจะเป็นผู้ชนะตลอดกาลและชนะตลอดไป
การวิจัยต้องอาศัยความพยายามในการเฝ้าติดตามสิ่งที่เราต้องการจะศึกษาอย่างต่อเนื่องโดยการสัมภาษณ์ สอบถาม พบปะ พูดคุย และบันทึกผลตามความเป็นจริง จนกระทั่งสรุปผลออกมา ซึ่งเป็นกระบวนการส่วนหนึ่งของการวิจัยแต่ผลการวิจัยอาจขัดแย้งกับความเชื่อหรือแนวคิดของคนอื่น เพราะไปสัมภาษณ์กลุ่มคนกลุ่มเป้าหมาย หรือกลุ่มตัวอย่างแตกต่างกัน เช่นอยู่คนละจังหวัด มีอาชีพต่างกัน รวมทั้งมีตัวแปรอื่นที่ไม่ได้ควบคุม เช่น อายุ รายได้ สัญชาติ และปี พ.ศ. ที่เปลี่ยนไป
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที