ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต

ผู้เขียน : ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต

อัพเดท: 21 เม.ย. 2009 16.19 น. บทความนี้มีผู้ชม: 7601 ครั้ง

เกร็ดความรู้...เพื่อเป็นมนุษย์งานมือโปร
HR Contribution

ในสภาพการณ์ของสังคมที่ความรู้เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด และเป็นสิ่งจำเป็นของการเรียนรู้เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับหน้าที่การงานและชีวิต ในฐานะที่ผู้เขียนทำงานในสายงานบริหารทรัพยากรบุคคล จึงขอฝากเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำงานไว้ให้ได้เรียนรู้กัน ทั้งผู้เขียนและท่านผู้อ่าน ในลักษณะเรียนรู้ร่วมกัน สรรค์สร้าง HR เพื่อความเป็นมืออาชีพนะครับ....


Do & Don’t ในวันทำงาน

บทความนี้ นำมาจาก http://www.geocities.com/dol_nida/Work.htm เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ลองตรวจสอบและเป็นหลักคิดในการทำงานกัน

การที่ใครสักคนหนึ่งจะสามารถโลดแล่นบนเส้นทางการทำงานอย่างรุ่งโรจน์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถส่วนบุคคล ที่แน่ๆ อย่าปล่อยตัวเองให้ชีวิตการทำงานดำเนินไปเพียงวันๆ เฉื่อยๆ เนือยๆ เหมือนปลาที่ว่ายตามน้ำ เหมือนเมฆที่ลอยไปตามลม

จำไว้ว่า…แต่ละย่างก้าวของชีวิตต้องมีเป้าหมายและแผนการ จากนั้นพยายามและมุ่งมั่น ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการไปให้ถึงดวงดาวให้ได้

ทว่าไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร ตำแหน่งอะไร และยืนอยู่จุดไหนก็ตาม คุณต้องมีเคล็ดลับรวมไปถึงเทคนิคการทำงานที่สามารถนำพาให้คุณทำงานอย่างมีความสุขได้ รวมไปถึงสามารถรับมือสถานการณ์ต่างๆ ในออฟฟิศอย่างฉลาด

และคุณรู้ไหมว่ามีข้อควรทำและไม่ควรทำอีกหลายข้อที่พึงตระหนักไว้อย่าให้พลาด เพราะล้วนเป็นการกระทำ การปฏิบัติตัว ที่ส่งผลถึงหน้าที่การงานว่าจะก้าวหน้าหรือถอยหลังได้ ซึ่งสิ่งไหนควรทำก็ทำไปเถิดไม่มีใครว่า แต่สิ่งไหนที่เป็นข้อห้าม เป็นข้อรังเกียจจากสังคม ทำไปแล้วคงไม่รุ่งหรอกนะ รังแต่จะฉุดความเจริญของตัวเองไปเปล่าๆ
แล้วอะไรคือข้อควรทำ อะไรที่เป็นข้อห้ามล่ะ คงต้องไปดูกัน ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่ว่าเป็นข้อห้ามประพฤติปฏิบัตินั้น อาจกลายเป็นว่าคุณเองทำมันอยู่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็เป็นไป

ฉะนั้นอย่าลืมย้อนกลับมาพิจารณาตัวเองดูบ้าง เพราะคงไม่มีใครรู้จักตัวเองได้เท่าตัวเราเองหรอกนะจะบอกให้ แต่ดูแล้วก็ย้อนคิด ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กระทำในสิ่งอันไม่สมควรให้เลิกและละไปซะ ทำในสิ่งที่ใช่ดีกว่า เพื่อผลสำเร็จในหน้าที่การงานดังใจหวังและไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใครต่อใครเขาด้วย

คำตอบเข้าท่าสำหรับคำถาม… ‘ทำไมจึงลาออกจากงานเก่า?
DO….ดีที่สุดเมื่อตอบว่า เพราะงานใหม่ในบริษัทใหม่มอบโอกาสที่ดีให้แก่คุณในการเติบโตในหน้าที่การงาน ซึ่งการตอบเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะไปให้ถึงเป้าหมายในการทำงานของคุณ

DON’T…เอาแต่พร่ำพรรณนาถึงสิ่งที่คุณไม่มี เช่น ตำแหน่งที่ก้าวหน้า ภาวะทางครอบครัว ฯลฯ และพูดถึงงานเก่า บริษัทเก่า เจ้านายเก่า ในแง่ที่ไม่ดี เหล่านี้หากคุณพูดไปล้วนแล้วแต่ไม่เกิดผลดีใดๆ เลยแม้แต่น้อย

หวาดผวากับเจ้านาย
DO
…พยายามมองเหตุผลต่างๆ ประกอบกันแล้วคุณจะพบคำตอบ อย่าไปคิดทุกอย่างในด้านลบอย่างเดียว ความหวาดระแวงเกินไปทำให้คุณไม่มีความสุข และควรเชื่อในคุณค่าของตัวเองและศรัทธาในตัวเองให้มากที่สุด หากมีความรู้สึกไม่มั่นใจกับสภาพหน้าที่การงานเมื่อไหร่ ควรคุยกับเจ้านายของคุณเองว่า ในสายตาของเขาคุณทำงานเป็นอย่างไร บกพร่องตรงไหน ลบความคิดในทางร้ายๆ ไปให้หมด เพราะยิ่งทุกข์ทรมานนานเพียงใด ยิ่งจมอยู่กับความวิตกกังวลมากขึ้นเท่านั้น

DON’T…สำหรับบางคนรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองมีความสามารถ แต่ความกลัวว่าสักวันหนึ่งจะโดนไล่ออก อาการแบบนี้เรียกว่าประสาทหวาดระแวง เป็นการคิดไปเอง ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง โดยเฉพาะหากมีเจ้านายเป็นคนที่ร้ายกาจ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่ ทำให้เกิดบรรยากาศไม่มั่นคงในที่ทำงานได้ ยิ่งคนที่มีตำแหน่งสูงๆ ยิ่งกดดันมาก มีความคิดว่าต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์ ผลที่ได้รับ คือ คุณไม่สามารถทำงานได้ดีสมกับความสามารถ เพราะมัวแต่นั่งกังวลว่าทำไปไม่ได้ดี

การให้เวลากับ E-Mail
DO
…ในยุคของเทคโนโลยีเช่นนี้ การรับส่ง E-Mail กลายเป็นเรื่องที่ทำให้คุณอาจเสียเวลาในที่ทำงานไปโดยเปล่าประโยชน์ และยังเป็นเรื่องที่กวนสมาธิในระหว่างที่กำลังทำงานอีกด้วย ฉะนั้นถ้าพบว่าตัวเองมี E-Mail เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ควรแบ่งเวลาให้ถูกต้อง โดยใช้เวลาแค่ 20 นาทีแรกของช่วงเช้าและบ่ายเพื่อเช็ก E-Mail ก็พอ รวมไปถึงเครื่องฝากข้อความทั้งหลาย

DON’T…เอาเวลาขณะทำงานไปเปิด E-Mail ตลอดเวลา เรียกว่าอยากเปิดอ่าน E-Mail ตอนไหนก็เปิด อยากเช็กตอนไหนก็เช็ก ทั้งๆ ที่ตัวเองทำงานคั่งค้างอยู่ หรือสมาธิของคุณกำลังคร่ำเคร่งอยู่ที่งานหนึ่ง กลายเป็นอันนั้นก็ไม่เสร็จก็มาทำอันนี้ต่อ เหยียบเรือสองแคมก็ว่าได้ สุดท้ายไม่ได้ดีเลยสักอย่าง เอาเวลาเสียประโยชน์ไปเปล่าๆ

ทำอย่างไรให้งานเสร็จทันการณ์
DO
…ให้คุณกำหนดเส้นตายให้กับงานแต่ละชิ้น กำหนดความรับผิดชอบ แล้วจะเห็นเลยว่า คุณสามารถทำงานได้เพิ่มขึ้นและทันเวลาตามที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ให้ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบก่อน ช่วงท้ายๆ จะได้มีแรงจูงใจไปทำงานที่ตัวเองอยากทำจริงๆ

DON’T…ดองงานผัดวันประกันพรุ่ง งานไหนไม่อยากทำก็เลื่อนออกไป ผัดไปเรื่อยๆ ไว้ทำวันอื่น ซึ่งคุณรู้ไหมว่ายิ่งเลื่อนออกไปยาวนานเท่าไหร่ยิ่งทำให้งานน่าเบื่อค้างคามากขึ้น และไม่มีแรงจูงใจให้คุณอยากทำงานนั้นให้เสร็จอย่างเต็มที่ มีแต่เสียกับเสียแน่นอน

เข้ากับเจ้านายให้ได้ดี
DO
…จำไว้ว่าคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีกับคนที่เลียแข้งเลียขาประจบสอพลอเจ้านายนั้นแตกต่างกัน สังเกตดูสิคนที่เป็นนักพูดที่ฉลาดมักจะใช้คำชมนานๆ ครั้ง และความเป็นคนช่างสังเกตและมีน้ำใจจะทำให้ได้คะแนนพิเศษชนะใจกรรมการได้ไม่ยาก ถ้าเดินสวนกันหรือขึ้นลิฟต์มาด้วยกันกับเจ้านายให้ยิ้มแย้มทักทายเป็นปกติ ส่วนหัวข้อสนทนาที่คุณสามารถคุยกับเจ้านายได้ไม่ขัดเขิน อาทิ เรื่องที่เกี่ยวกับงาน หนังสือ รายการทีวี และงานอดิเรก ฯลฯ

DON’T…เลียแข้งเลียขาเจ้านาย ใช้คำป้อยอจนมากเกินความจำเป็น พูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับเงินเดือน การเมือง และเรื่องส่วนตัวมากเกินไป พูดคุยกับเจ้านายในห้องน้ำเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรสนทนาให้ยืดยาวนัก เพราะเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสม

เข้าประชุมแบบมีกึ๋น
DO
…แต่งตัวให้ดูดี เหมาะสมกับกาลเทศะ ไปถึงที่ประชุมก่อนเวลาเพื่อที่คุณมีโอกาสนำเสนอไอเดียเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่มีผู้ร่วมงานคนอื่นขัดจังหวะ ซึ่งพอถึงเวลาประชุมจริงๆ คุณสามารถเล่ารายละเอียดไอเดียต่างๆ ได้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง และนั่งให้ใกล้กับคนที่เป็นผู้นำในการประชุม เวลาพูดในที่ประชุมให้เสียงดังฟังชัด เพื่อทุกคนจะได้รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่พูดเสียงดังไม่ได้หมายความตะโกนออกมา และการพูดจาอย่างชัดเจนนั้นทำให้คุณมีอำนาจมากขึ้น

…วันประชุมทำตัวเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ปล่อยให้คนอื่นประชุมกันไป แต่ตัวเองกลับนั่งฆ่าเวลาเฉยๆ ฉะนั้นควรทำตัวให้เป็นผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่ง ทว่าอย่าออกตัวมากไปจนทำให้ความคิดของคุณติดลบ โดยใช้คำพูดทำนองว่า “ความคิดนี้อาจไม่เวิร์คนัก แต่พวกคุณอาจจะเคยคิดมาบ้างแล้ว” พูดซะแบบนี้ภาพลักษณ์คุณติดลบแน่ๆ ครั้งถึงเวลาเลิกประชุมรีบเก็บเอกสารแล้วออกไปจากห้องประชุมทันที แต่อยากให้คุณอ้อยอิ่งสักครู่เดินไปหาหัวหน้าการประชุมแล้วบอกเขาว่า การประชุมวันนี้คุณได้ประโยชน์มาก น่าจะทำให้บริษัทได้ไอเดียใหม่ๆ ไปพัฒนามากขึ้น

การทิ้งข้อความให้โทรฯกลับ
DO
…บอกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ที่อยากให้โทรกลับอย่างชัดเจน ในกรณีฝากข้อความให้กับเครื่องบันทึกข้อความทางโทรศัพท์ ถ้าหากอยากตรวจสอบว่าคุณเป็นคนพูดจาชัดเจนหรือไม่ ลองทิ้งข้อความไว้ในเครื่องตบรับของคุณเองแล้วเปิดฟังดู หรือถ้ามีคนโทรฯมาแล้วคุณบอกให้เขารอสักครู่ เพราะกำลังทำงานค้างอยู่ ความรู้สึกจากผู้ที่โทรศัพท์มาครั้งนี้คือคุณไม่สนใจสายเขา ดังนั้นสิ่งที่ควรทำ คือพูดว่า “ช่วยรอสักครู่ได้ไหมคะ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าหากผู้โทรมาไม่สามารถรอได้ คุณยื่นเสนอไปว่าจะให้โทรฯกลับไปหรือทิ้งข้อความไว้ก็ได้

DON’T…รับโทรศัพท์แล้วตะโกนกรอกใส่หูว่า “ฮัลโหล” ในขณะที่มีเสียงเพลงดังๆ อยู่ข้างๆ สื่อได้ว่าคุณเป็นชนชั้นแรงงานหรือเหมาะที่จะทำงานในร้านขายของชำมากกว่าทำงานในออฟฟิศ จำไว้ว่าในแวดวงของมืออาชีพนั้นไม่มีที่ว่างให้คนที่ชอบฟังเพลงเสียงดังรบกวนคนอื่นหรอกนะ รวมไปถึงพูดโทรศัพท์ไปเคี้ยวอาหารไป รู้ไหมว่าคนที่โทรมาเขาได้ยินเสียงเคี้ยวของคุณแน่นอน แม้ว่าคุณจะใช้ผ้าปิดปากหรือเคี้ยวอย่างเบาที่สุดก็ตาม บ่งบอกถึงความไร้มารยาทอย่างแรง ฉะนั้นขณะมีอาหารอยู่ในปากหลีกเลี่ยงรับโทรศัพท์ซะ ให้เพื่อนรับแทนหรือให้ทิ้งข้อความไว้ในเครื่องตอบรับจะดีกว่า

ชิงดีชิงเด่นในที่ทำงาน
DO
…การแข่งขันกันในหมู่เพื่อนร่วมงานนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการชิงดีชิงเด่น คือ แรงผลักดันให้คุณมุ่งสู่จุดหมายได้ แต่ถ้าหากการแข่งขันต้องฟาดฟันกับคนอื่นให้ตายไปข้างหนึ่งคงไม่ใช่ และกลายเป็นปัญหาทันที และการชิงดีชิงเด่นที่เหมาะสมถูกต้อง คือ ควรทำทุกอย่างด้วยความสามารถของตัวเอง อย่างมองตัวเองเป็นคนไร้ค่า ไม่ทำตัวเด่นมากเกินไป แน่นอน…ทุกคนชอบคนเก่ง แต่ไม่ชอบคนที่เด่นกว่าตัวเอง ทำตัวเดินไปทางสายกลางดีกว่า เด่นแต่พอดี หนักไปทางเก่งไว้เป็นดีที่สุด

DON’T…กลัวการพ่ายแพ้ เพราะคิดว่าคือความล้มเหลวและขายหน้าอย่างใหญ่หลวง เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่นะ เพราะการแข่งขันทำให้คุณรู้จักตัวเอง รู้ถึงระดับความสามารถของตัวเอง รู้ข้อดีข้อด้อยนั่นเอง การทำตัวเอารัดเอาเปรียบคนอื่น หรือเรียกร้องความเห็นใจจากผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะคุณจะดูเป็นคนไร้ความสามารถ ไร้คุณค่า ไม่มีศักดิ์ศรีในสายตาผู้บริหารเหล่านี้ไปทันที และอย่ามัวเอาแต่จับผิดหรือสอดส่องคนอื่น หมกมุ่นแต่ให้ตัวเองโดดเด่น จนลืมมองตัวเองว่าความสามารถเราแค่ไหน หรือเอาเวลาที่มัวแต่จับผิดคนอื่นนั้นมาพัฒนาปรับปรุงการทำงานของตัวเองจะดีกว่า

พนักงานหน้าใหม่ในที่ทำงาน
DO
…สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมงาน ทำตัวเป็นผู้ไม่รู้ พร้อมที่จะรับคำแนะนำในทุกเรื่อง เพราะการไปแสดงว่าตัวเองเก่งไปซะทุกเรื่อง รังแต่ทำให้เพื่อนๆ เบื่อหน้าเอาเปล่าๆ รวมทั้งมีสัมมาคารวะกับผู้อาวุโสกว่าแม้ว่าคุณตำแหน่งงานจะสูงกว่าเขา ขยันขันแข็ง มีความกระตือรือร้นต่องานใหม่

DON’T…เป็นพนักงานใหม่แล้วมาพูดเรื่องเงินเดือนว่าคุณสูงกว่าคนอื่นที่อยู่ในฐานะหรือตำแหน่งที่เท่าเทียมกัน รู้ไหมว่าพูดไปก็ทำให้คนอื่นเหม็นหน้าคุณได้ทันทีโดยไม่มีสาเหตุ นอกจากนี้มาทำงานแรกๆ แล้วมาพูดจาอวดร่ำอวดรวย เช่น เมื่อปีที่แล้วฉันไปเที่ยวอเมริกามาตั้ง 3 หน ตามด้วยเที่ยวฮ่องกงอีกถึง 3 ครั้ง คนฟังฟังแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าไม่จำเป็นต้องไปเอ่ยวิถีชีวิตอันเลิศหรูกว่าคนอื่นๆ ในที่ทำงาน นั่นจะทำให้คุณดูเป็นคนหัวสูง ชอบดูถูกคน แถมอวดรวยอีกต่างหาก ไม่มีใครอยากคบหากับคนประเภทนี้ด้วยความจริงใจหรอกนะ

ผูกมิตรเพื่อนร่วมงาน
DO
…การผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานถือเป็นเรื่องจำเป็น เพราะส่งผลถึงการทำงานเป็นทีมเวิร์คที่สร้างผลงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นต้องให้ความจริงใจ ทำตัวเป็นธรรมชาติกับเพื่อนร่วมงาน เป็นตัวของตัวเอง มีน้ำใจ ใส่ใจและให้เกียรติกับทุกๆ คน วางตัวให้เขารู้สึกว่าเขามีค่ากับคุณ มีค่ากับที่ทำงาน

DON’T…พูดว่าร้าย นินทาลับหลังเพื่อนร่วมงาน ต่อหน้าทำกับเขาอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง ส่อถึงความไม่จริงใจในการคบหาฉัน วางตัวยกตนข่มท่านกับคนอื่น

เสียหน้าในที่สาธารณะ
DO
…ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ถูกเพื่อนร่วมงานกัดเอาต่อหน้าต่อตาในขณะที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน เช่น เพื่อนร่วมงานคนนั้นอาจบอกว่า “ความคิดของคุณไม่ได้เรื่อง” หรือ “ฉันไม่คิดว่ามันจะได้ผลหรอกนะ” หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นตอนนั้น สิ่งที่ควรทำ คือ คุณไม่ต้องเป็นเจ้าหญิงตลอดเวลาในที่ทำงาน อาจต้องทำอะไรแรงๆ กลับไปบ้างเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นในสถานการณ์นั้นๆ เช่น อาจบอกว่า “ก่อนที่พูดอย่างนั้น ทำไมไม่ฟังสิ่งที่เป็นข้อเสนอที่ฉันจะเสนอต่อไปให้จบก่อนล่ะ” หรือ “ทำไมไม่ให้ฉันลองดูก่อนล่ะ คุณอาจแปลกใจก็ได้” นั่นจะทำให้ภาพพจน์คุณดีขึ้นและเพื่อนร่วมงานคนนั้นสงบปากสงบคำไปได้

DON’T…หากถูกเพื่อนร่วมงานกัดเอาหรือเบรกเอาต่อหน้าต่อตาคนอื่นๆ กลางที่ประชุม อารมณ์โกรธกระพือขึ้นทันทีทันใด ไม่สามารถควบคุมภาวะอารมณ์ให้เป็นปกติได้ และใช้คำพูดที่เอาแต่ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ถี่ถ้วน เช่น “คุณรู้ได้ไงว่ามันไม่ดี” หรือ “หากคุณว่าไม่ดีแล้วตัวเองสามารถคิดอะไรที่ดีกว่านี้หรือเปล่าล่ะ” เหล่านี้ล้วนแล้วเป็นการแสดงอารมณ์โกรธ มืออาชีพเขาไม่ให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลกันหรอกนะ

ย่างก้าวสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน
DO
…คิดอย่างเจ้าของ รู้สึกอย่างเจ้าของ แต่ไม่ได้หมายความว่าเห็นของคนอื่นเป็นของตนเองนะ มองทุกอย่างเอาใจเขามาใส่ใจเรา ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัทอย่างประหยัด คิดว่าบริษัทเป็นของคุณคุณเองก็คงอยากให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งการคิดอย่างนี้ทำให้เรารู้จักรักษาผลประโยชน์ของบริษัทเหมือนเป็นของตัวเอง คนไม่เอาเปรียบบริษัทแบบนี้ไม่มีเจ้านายคนไหนไม่ต้องการหรอกนะ นอกจากนี้ควรอย่างยิ่งที่จะทำงานให้เกินเงินเดือน เพราะการทำงานน้อยกว่าเงินเดือนทำให้ชีวิตการทำงานก้าวสู่ความล้มเหลว คนทำงานเท่านั้นที่จะประสพความสำเร็จดังใจหวังได้

DON’T…มาทำงานสายอยู่เป็นนิจ ชนิดไม่แคร์เพื่อนร่วมงานว่าจะคิดอย่างไร แต่คุณต้องรู้จักเกรงใจเจ้านาย เพราะหากเขามาก่อนคุณเป็นประจำ หรือคุณเป็นคุณนายสายเสมอบ่งบอกได้ว่า คนคนนี้ไม่ใส่ใจต่อหน้าที ดังนั้นควรถึงที่ทำงานก่อนเวลาเข้างานสักครึ่งชั่วโมง ซึ่งการมาทำงานเช้าตรู่ สมองจะปลอดโปร่งด้วย ส่วนเวลาเลิกงานใช่ว่าหกโมงเย็นปั๊บเป็นเวลาเลิกงาน กระโจนออกจากออฟฟิศปุ๊บ แต่ควรใช้เวลาหลักเลิกงานสัก 15 นาที เพื่อเตรียมแผนงานสำหรับวันรุ่งขึ้น


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที