ในการทำงานที่ได้รับมอบหมายสักชิ้นหนึ่ง มักจะแฝงเอาความคาดหวังไว้ 2 อย่าง ความคาดหวังแรกจากผู้สั่งงานที่อยากได้งานตามที่เขาอยากให้มีอยากให้เป็น และวางสิ่งคาดหวังนั้นไว้ในใจอย่างคร่าวๆ และความคาดหวังจากคนทำงานเอง ที่อยากจะให้งานที่ได้รับหมายให้สำเร็จผล และเกิดความพึงพอใจจากการทำงานนั้น ความพึงพอใจที่ว่า มีทั้งที่เป็นการได้รับคำชมคำสรรเสริญจากผู้มอบหมายงาน จากเพื่อนร่วมงาน และคนที่ได้รับงานไปทำต่อจากเขา ซึ่งเป็นรางวัลทางใจที่มีคุณค่าไม่น้อยทีเดียว
ในทำนองตรงข้ามกับความพึงพอใจ ก็ไม่มีใครที่อยากโดนตำหนิ ไม่ว่าจะติเพื่อก่อหรือติแบบด่ากันจะจะก็ตาม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเราไม่มีศักยภาพในการทำงาน หลายต่อหลายคนจึงอยากจะพัฒนาและปรับปรุงตนเองเพื่อให้สามารถทำงานโดยเกิดผลงาน และผลงานนั้น เป็นที่ต้องตาต้องใจต่อหัวหน้างาน (เว้นเสียแต่ พนักงานกลุ่มที่ ใครจะว่างัยก็ว่าไป) เพราะผลพลอยได้ที่จะเกิดขึ้นจากผลงานที่ดีนั้น ส่งผลให้คนรอบข้างของเขา ยอมรับในความสามารถ และเป็นส่วนเพิ่มของการพัฒนาตัวของเขาเอง รวมทั้งเป็นยันต์ป้องกันการ ตกงาน ด้วยก็ได้ เพราะในปัจจุบัน องค์กรทั่วไป ไม่ได้ต้องการคนที่ทำงานแบบ go day day หรือทำงานไปวันวัน
ด้วยเหตุนี้เอง องค์การต่าง ๆ ก็เลยต้องพยายามบ่งชี้ความสามารถของพนักงานให้ได้ตรง (valid) ที่สุด โดยที่ไม่ให้เกิดภาพของการวัดผลงานที่กลายไปเป็นการส่งคนมาจับผิดการทำงานและวิจารณ์ข้อบกพร่องกับพนักงาน
หากมองในแง่บวก เมื่อคุณจะต้องรับการวัดผลหรือการประเมินผลงาน แล้วคุณเปลี่ยนความคิดที่เคยกลัวหรือไม่ชอบ มาเป็น กำลังใจ เพื่อแก้ไขปรับปรุงตัวเองให้ก้าวหน้ายิ่งยิ่งขึ้นไปก็คงจะดี เพราะการวัดผลหรือประเมินผลการทำงานนั้น มันช่วยบอกเราว่า เราขาดอะไรจะ ต้องมีการพัฒนาในด้านไหนบ้าง และที่สำคัญนั้นว่ากันว่า มุมมองแบบนี้เอง เป็นการช่วยเสริมศักยภาพของสมองของเราให้มีการพัฒนามากขึ้นมากกว่า แทนที่น่าจะฝ่อลงจากการคิดแต่ทางลบ และที่แน่แน่นั้น หากสมองมีศักยภาพสูงขึ้นแล้ว การที่เราต้องการเงินเดือนเท่าไร ตำแหน่งอะไร ในองค์กรไหน (องค์การอินเตอร์หรือองค์การแบบบ้านบ้าน) คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่คุณมีความพร้อม
ขอนำเสนอแนวทางการปฏิบัติง่ายๆ (ลองเอาไปใช้ดู ได้ผลดีแล้วบอกต่อ 20 คน เพื่อความก้าวหน้าและโชคดี)
1. ยิ้มสู้ กับปัญหา และยอมรับในความผิด หรือจากการประเมินวัดผล หรือคนรอบข้างที่แนะนำสิ่งเขาจะคล้ายๆ กับกระจกสะท้อนตัวเราเองได้เป็นอย่างดี
2. มองมุมใหม่ ปรับความคิดเพื่อพัฒนาตนเอง
3. เรียนรู้และหาทางพัฒนาตนเองจากความผิดหรือปัญหาที่เกิดขึ้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที