ชนิตพล

ผู้เขียน : ชนิตพล

อัพเดท: 18 ม.ค. 2014 06.10 น. บทความนี้มีผู้ชม: 990491 ครั้ง

"ประสบการณ์ยิ่งมากยิ่งมีคุณค่าควรรู้และยิ่งมีค่ามากที่สุดเมื่อถูกถ่ายทอดออกมาจากใจ"


วันที่ 7 ศาสตร์ของการบริหารงาน "การประยุกต์ใช้ ISO (-5-)"

ตอนที่ 22

วันที่ 7

ศาสตร์ของการบริหารงาน (Science of Management)

"การประยุกต์ใช้ ISO" (-5-)

 

              มาถึงวันที่ 7 แล้ว…เรียกได้ว่าครบ 1 สัปดาห์พอดี…..มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเราๆ ท่านๆอีกมากครับ!.......ขอให้เป็นตอนสบายๆอีกซัก 1 ตอน…..และต้องขอขอบคุณ TPA Writer ที่เปิดโอกาสให้แก่                 นักเขียนทั้งหลาย….ได้มีเวทีแสดงออกอีกทางหนึ่ง….ซึ่งนับเป็นแหล่งรวมของศาสตร์แขนงต่างๆ….ที่หลากหลายความคิด…หลากหลายเรื่องราว ……และเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจทั่วไปจริงๆ……..ยังมีเรื่องราวที่ผู้เขียนอยากจะแบ่งประสบการณ์และสิ่งที่ได้รู้มาอีกหลายๆเรื่อง…..แต่ก็ไม่ทราบว่าจะมีผู้อ่านสนใจเพียงใด …..ตัวอย่างของเรื่องเหล่านั้นเช่น…… “ รากเหง้าของคนสองถิ่น…(ไทย-จีน) ”….. “99+1 กลยุทธ์โลก”……  “ ผู้บริหารวิถีพุทธ…..2009”…… “ พลังงานทดแทนของโลก”……. “เอทานอลหรือไบโอดีเซลที่เป็นพระเอกเมื่อโลกวิกฤต”……“เข้าใจคนจึงเข้าใจศาสนา”……. “ พ่อบอกให้อดทน”……. “ นำหลักช่างมาประยุกต์ใช้ในบ้าน” …….. “Early Retire Bank”……และอีกหลายๆเรื่องซึ่งไม่ทราบว่าจะเริ่มเขียน…..ได้เมื่อไร?.....อย่างไรแล้วก็ต้องให้จบเรื่องนี้ก่อนครับ!     

               ในตอนที่ 22 นี้ขอให้ท่าน…….ย้อนไปในตอนที่ 11–21….ลองรวบรวมเนื้อหาเพื่อหาความ         สัมพันธ์และหน้าที่หลักของบุคคลากรในองค์กรที่มีต่อ….มาตรฐานระบบการบริหารคุณภาพ  ISO9001:2000  โดยใช้หลักพื้นฐาน 4 ข้อ ตามที่ได้กล่าวในตอนที่แล้ว คือ….ความต้องการของผู้ใช้ (Customer Requirement)….วางแผนใช้การจัดการที่ดี ( Management Planning)….กระบวนจัดการขององค์กรเพื่อควบคุมการให้บริการ/การผลิต (Process Control System)….และสินค้า/การบริการ ถูกใจผู้ใช้  (Customer Contentment)….แล้วสรุปเป็นchart ง่ายๆเน้นหน้าที่ / ความรับผิดชอบของผู้บริหารเป็นหลัก….โดยจัดเป็นกระบวนการของการจัดทำ…….มาตรฐานระบบการบริหารคุณภาพ  ISO9001:2000 ….ใน chart ควรประกอบด้วย…ขั้นตอนภาคปฏิบัติ…..การอบรม ISO….. ตั้งทีมงาน ISO…..วิเคราะห์สิ่งขาดในระบบ ISO.....เขียนเอกสารและปฏิบัติ ISO….ตรวจสอบและแก้ไข ISO. ช่วยกันทำ……น่าจะได้ chart ของ ISO9001:2000 ที่น่าสนใจไว้ใช้ในองค์กรของท่านหลายๆรูปแบบอย่างแน่นอน!.....ติดตามกันในวันที่ 8 ของตอนที่ 23 ครับ!                                                                                                                                                                                

           

หลักการของ ISO 9001:2000 ที่ใช้ในการเขียน Chart มีดังนี้:

ISO9001-2000 เป็นระบบการบริหารคุณภาพ/และการจัดการ

มุ่งเน้นการสร้างความพอใจ………….............. ..ให้ผู้ใช้

วางแผนให้ระบบเป็นกลไกลขับเคลื่อน……….. โดยอัตโนมัติ

มุ่งพัฒนาการปรับปรุงระบบภายใน………….....อย่างต่อเนื่อง

เป็นคู่มือและแนวทางการบริหารแบบง่ายๆ…….ใช้ได้จริงในทุกการผลิต


ปัจจัยที่มีผลต่อการประยุกต์ใช้:

ฝ่ายบริหาร………………………………………ต้องมีความแนวแน่และพร้อมเพรียงกัน

ทีมงาน…………………………………………..ร่วมมือ/ร่วมใจและพัฒนาเสริมสร้างความรู้

เขียนเอกสาร………………………………….…สะดวกง่าย…ไม่ยืดเยื้อ…ให้ใช้งานได้จริงๆ

ปฏิบัติ…………………………………………...ตามที่กำหนดได้จริง

บันทึก…………………………………………...ตามที่ได้ปฏิบัติงานจริง

วิเคราะห์………………………………………...ข้อมูลจากการปฏิบัติงานที่บันทึกไว้

แก้ไขและปรับปรุงป็นมาตรฐาน…………….…..เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

คิดอยู่เสมอว่า……………………………………ผู้ทำงานคือ…Auditor….ต้อง audit ทุกวัน 

 

บทส่งท้ายของตอนที่ 22:

             ในตอนที่16 ได้กล่าวถึง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) เมื่อย้อนดูแล้ว เขาเกิดในปี พ.. 2422 ซึ่งในปีต่อมา พ.. 2423  เป็นปีพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ซึ่งทรงมีพระปรีชาญาณมากในศาสตร์หลายแขนง…..ผู้เขียนจึงขออัญเชิญพระราชประวัติของพระองค์ท่าน  มาพอสังเขป…..เพราะอย่างน้อยความเจริญรุ่งเรืองและวิวัฒนาการของโลกก็สามารถสร้างศาสตร์…ที่หลากหลายให้แก่ มวลมนุษยชาติ ได้มากมาย…..อยู่เสมอมา!                                          

             พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2423 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว….และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ….มีพระนามว่า…..สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ…เมื่อพระชนมายุได้ 8 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาเป็น…สมเด็จเจ้าฟ้า กรมขุนเทพทวาราวดี  และเมื่อพระชนมายุได้ 11 พรรษา ได้เสด็จไปศึกษายังประเทศอังกฤษ ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) และศึกษาวิชาการทหารบก ที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิสต์(RMA Sandhurst) และเสด็จกลับประเทศไทยในปีพ.ศ. 2437 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชสยามมงกุฎราชกุมาร  ทรงเข้ารับราชการในกองทัพบก…. ดำรงพระยศพลเอก ในตำแหน่งจเรทัพบก และทรงบัญชาการทหารมหาดเล็ก….ทรงเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 6 ทรงพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว"…(ในช่วง พ.ศ. 2453-2468)

              พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับ เจ้าจอมสุวัทนา (คุณเครือแก้ว อภัยวงศ์) ในปี พ.ศ. 2467 หรือพระนางเจ้าสุวัทนา ทรงมีพระราชธิดา 1 พระองค์ คือ…สมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี   ทรงพระประชวรด้วยพระโรคพระโลหิตเป็นพิษในพระอุทรมาตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 และสวรรคต ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระชนมพรรษาได้ 46 พรรษาและดำรงสิริราชสมบัติได้เพียง 15 พรรษา….ทรงมีพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่า….เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนชาวไทยมากมาย…นานับปการ


พระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่า ใน
15 พรรษาที่ทรงครองราชย์

            ทรงสถาปนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทยในปี พ.ศ.2459….ทรงโปรดเกล้าให้จัดตั้งโรงเรียนเพาะช่าง…..ในปีพ.ศ.2464 ทรงตราพระราชบัญญัติประถมศึกษา………ทรงโปรดเกล้าให้จัดตั้งธนาคารออมสินขึ้น…..และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อหุ้นของ ธนาคารสยามกัมมาจล ทุนจำกัด (ธนาคารไทยพาณิชย์) …..ยกเลิกบ่อนการพนัน และ หวย ก.ข.และลดการค้าฝิ่น…..และให้ตราพระราชบัญญัติ นามสกุล พ.ศ. 2456  เพื่อให้คนไทยมีนามสกุลใช้…..ทรงริเริ่มตั้ง บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด….ทรงพยายามจัดเตรียมแสดงสินค้าไทย และทรงจัดตั้งสภาเผยแผ่พาณิชย์(สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ)…..ทรงให้มีการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ ….และทรงให้ข้าราชบริพารทดลองทำ การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยให้มีพรรคการเมือง และมีการเลือกตั้ง ทดลองในใช้เมืองจำลอง…ดุสิตธานี

              ทรงจัดตั้งกองเสือป่าใน พ.ศ. 2454  เพื่อฝึกอบรมข้าราชการให้มีระเบียบวินัย มีความสามัคคี มีน้ำใจมีความประพฤติตนดี…มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ….ทรงจัดตั้งกองลูกเสือ เพื่อฝึกเยาวชนให้มีความสามัคคี….มีความมานะอดทน เสียสละเพื่อส่วนรวม…..ทรงให้ตั้งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และวชิร พยาบาล…..ทรงเปิดสถานเสาวภา ในปีพ.ศ. 2465 เพื่อผลิตวัคซีนและเซรุ่ม…และทรงเปิดการประปากรุงเทพฯ ในปีพ.ศ. 2457…..ทรงรวมกรมรถไฟให้เป็น กรมรถไฟหลวง และเปิดกิจการเดินรถไฟสายกรุงเทพฯ- เชียงใหม่ และ……สายใต้ติดต่อกับมาเลเซีย……ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานพระราม 6…….ในปี พ.ศ. 2463 ทรงจัดตั้งกรมอากาศยาน มีการขนส่งไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศระหว่างกรุงเทพฯ - นครราชสีมา

             ในปี พ.ศ. 2457 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศไทยประกาศตนเป็นกลาง….และในปี พ.ศ. 2460  พระองค์ทรงประกาศสงครามกับเยอรมนี และออสเตรีย- ฮังการี  เพื่อรักษาสิทธิของประเทศ และเพื่อความเป็นธรรมของโลก…..ทรงส่งอาสาสมัครทหารไทยไปร่วมรบและไทยเป็นฝ่ายชนะสงคราม…..ทำให้ประเทศมหาอำนาจยอมให้มีการแก้ไข….สนธิสัญญาสิทธิสภาพนอกอาณาเขต….สนธิสัญญาจำกัดอำนาจการเก็บภาษีของประเทศไทย…..ไทยจึงพ้นจากสภาพการเสียเปรียบทางภาษี

Philosopher King

            พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า พระมหาธีรราชเจ้า…กษัตริย์นักปราชญ์…พระสารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป)เป็น
ผู้ที่คิดพระสมัญญาถวาย…..และรัฐบาลได้ประกาศให้วันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ท่าน เป็น "วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" ……เป็นวันที่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน…….

พระอัจฉริยะภาพทางด้านศิลปะ และวรรณกรรม…..ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯตราพระราชบัญญัติการพิมพ์ใน พ.. 2465…เรียกว่าพระราชบัญญัติสมุดเอกสารและหนังสือพิมพ์….ทรงตั้งกรมมหรสพ และโรงละครหลวง ขึ้น เพื่อฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและเพื่อส่งเสริมการแสดงละคร….ทรง ให้ออกแบบอาคารทรงไทย ใช้สร้างตึกอักษรศาสตร์ และอาคารเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย…..ทรงมีผลงานพระราชนิพนธ์ทั้งที่เป็นร้อยแก้ว และร้อยกรอง ในรูปสารคดี และนิยาย…มีบท ละครร้อง ละครลำ ละครพูด ทั้งที่เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทรงพระราชทาน….บทความให้หนังสือพิมพ์เป็นจำนวนมาก….ถือเป็นวรรณกรรม ที่มีคุณค่า ควรอ่าน ชื่นชมสืบทอดกันมา สมกับ….พระสมัญญานามว่า…..สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า…. และ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ก็ได้ยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์เป็น….ปราชญ์สยาม

ตัวอย่างพระราชนิพนธ์:  มัทนะพาธา  บทละครเรื่องรามเกียรติ์ จากฉบับของอินเดีย (รามายณะ) มาพระราชนิพนธ์  เป็นบ่อเกิดรามเกียรติ์  การเสด็จจากพระนคร  ความเป็นชาติโดยแท้จริง  เมืองไทยจงตื่นเถิด   รถสี่ล้อมั่นคงกว่ารถสองล้อมิใช่หรือ ? ประโยชน์แห่งถนนในหัวเมือง ลัทธิเอาอย่าง  โคลนติดล้อ เป็นต้น

/////////////////////////////////////////

15/6/2552


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที