ชนิตพล

ผู้เขียน : ชนิตพล

อัพเดท: 18 ม.ค. 2014 06.10 น. บทความนี้มีผู้ชม: 990465 ครั้ง

"ประสบการณ์ยิ่งมากยิ่งมีคุณค่าควรรู้และยิ่งมีค่ามากที่สุดเมื่อถูกถ่ายทอดออกมาจากใจ"


วันที่ 28 การบริหาร..ความสุขบนโลกของจักรวาล(1)

 

การอบรมภาค2……อาจารย์/ศิษย์…ถามตอบ (วันที่28-วันที่30)

ตอนที่ 105

วันที่ 28

การบริหาร..ความสุขบนโลกของจักรวาล(1)

 

วันที่ 28 :  เป็นการทบทวนหลักทางด้านความคิดเริ่มที่……“คิดให้เป็น”…..และ…..“คิดให้ได้”…..เพื่อสร้าง reliability…and…happiness in workplace….by….CHO!

ศิษย์โดม : ท่านอาจารย์ครับ!.....ต่อไปนี้ผมจะต้องมีคำถามมากมายถาม…..ท่านอาจารย์จนกว่าจะสิ้นสุดการอบรมในครั้งนี้…ผ่านมาแล้ว  27 วันกับเนื้อหากว่า 100 ตอน….เหลืออีก 3 วัน ก็ครบตามหลักสูตร 30 วันของความสำเร็จของผู้บริหารองค์กร…กับความเป็นเลิศของการบริหารองค์กร….การที่เราคิดที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง….เราควรเริ่มต้นที่จุดใดครับ?.....จะเริ่มที่การทำงานของจิตหรือที่สมองจัดกระบวนความคิดครับ!......

อาจารย์ดอน : โดมเข้าใจคำว่า….“ คนเราต้องคิดให้เป็นและคิดให้ได้ ”....มากน้อยเพียงใด…นั่นจึงจะเข้าใจคำว่า…..“ ความราบรื่นและความสุขในการทำงาน ”…..เป็นความถูกต้องที้ยั่งยื่นของ องค์การ/องค์กร !........การที่จะทำอะไรสักสิ่งหนึ่ง…ก็ต้องเริ่มที่การคิดก่อน!

ศิษย์โดม :  ……“คิดอย่างไรครับ!

อาจารย์ดอน :……“คิดให้เป็น”…..และ….“คิดให้ได้”

ศิษย์โดม :  ……“มันเกี่ยวข้องกันอย่างไรครับ! และสัมพันธ์กับ……..“ ความราบรื่นและความสุขในการทำงาน ”…..ตามที่ท่านอาจารย์กล่าวมาอย่างไรครับ!

อาจารย์ดอน : ……“ความสุขของโดมคืออะไร”…..การที่ได้ไปเดิน shopping ย่านซ็องเซลีเซ….หรือเดินทอดน่องย่าน…เดอะ บันด์ และไปทานอาหารจีนที่ Wujiang Street Food ในมหานครเซี่ยงไฮ้……หรือไปเดินเล่นที่ห้างล็อตเต้ ย่านเมียงดง กรุงโซล ….หรือจะซดชายสี่หมี่เกี้ยวข้างเซเว่นหน้าบ้าน….!    

ศิษย์โดม :  ……“ มันขึ้นกับเวลาขณะนั้นครับ!”…ว่าเราต้องการ…ทำอะไร…อยู่ในอารมณ์ไหน…สถานภาพและความพร้อมของสภาวะแวดล้อม…ด้วยครับ!

อาจารย์ดอน :  ความสัมพันธ์ของความสุขและความราบรื่นในการทำงานอยู่ที่…การคิดให้เป็นที่ว่า……ความสุขของเราคืออะไร….ความสุขในการทำงานคืออะไร….และความราบรื่นในการทำงาน มีนิยามว่าอย่างไร……และการมีชีวิตอยู่ร่วมกันในองค์กรต้องมี….กรอบ ของระบบ ที่สามารถแปลงออกมาเป็นรูปแบบของ…template…ที่นำไปปฏิบัติงานได้จริง….โดยมีวิธีการที่จะทำภายในกรอบให้ได้

ศิษย์โดม :  ท่านอาจารย์กำลังหมายถึง…กรอบของระบบที่เป็นข้อกำหนด…กฎ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติ ขององค์กร….ซึ่งเกี่ยวข้องกับ template  

อาจารย์ดอน :  ใช้เพื่อให้เข้าใกล้ระบบ paperless มากที่สุดก็ควรมีฟอร์มเอกสารในการทำงาน สือสาร  ควบคุม รายงาน รวบรวม ตรวจสอบ ประเมินผล……พร้อมทั้งปรับปรุงและพัฒนา

ศิษย์โดม :  นั่นคือเราก็ต้องมีหลาย….template….หลายฟอร์มหลายชุดซิ….ไม่ยุ่งยากมากไปกว่าเดิมหรือครับ!

อาจารย์ดอน :  ใช่จะกี่ชุดก็ตาม…..ให้เป็นไปตามประเภทของงาน สายการบังคับบัญชาของแต่ละส่วนต่ละแผนก…ซึ่งจะใช้ฟอร์ม มากน้อยต่างกันไป เพื่อความสะดวกและคร่องตัว….สุดท้ายก็จัดมารวมกันอยู่ใน summary sheet และในที่สุดก็จะเข้าสู่ระบบ e-filing ต่อไป

ศิษย์โดม : e-filing….จะช่วยอะไรเราได้ครับ!.....ข้อมูลจะไม่รั่วไหลออกนอกระบบหรือครับ!”

อาจารย์ดอน :   e-filing…..ในที่นี้หมายถึงระบบปฏิบัติการที่ใช้เก็บและแจกจ่ายข้อมูลจากส่วนกลาง…ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานทุกวันอยู่แล้ว….ส่วนข้อมูลที่เป็น….confidential….มีการเก็บแยกโดยเฉพาะ ซึ่งใช้ในระดับนโยบาย ไม่เกี่ยวกับระดับปฏิบัติการ โดยจุดประสงค์หลักคือ….การเก็บไฟล์เอกสารผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต…..เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วเมื่อต้องการหยิบมาใช้……ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทุกหน่วยงานในสังกัดสามารถเรียกดูได้…..เพื่อใช้ในการทำงานเป็น team work ที่มี unity สูงมาก !

ศิษย์โดม :  ครับ! ท่านอาจารย์ กำลังจะบอกว่า…องค์กรแห่งความสุข….นั้น! จะต้องเริ่มจากคิดให้เป็นก่อนว่าเราจะใช้กฏ ระบบ ระเบียบ วิธีปฏิบัติ อะไร เพื่อใช้เป็นวัฒนธรรมของแต่ละองค์กรซึ่งน่าจะป็นความสุขตามวิถีไทยๆ……พร้อมทั้งเสริมด้วยเทคโนโลยีเพื่อลดขั้นตอนการทำงาน….และมีระบบสื่อสารรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ แม่นยำ ไม่อุ้ยอ้าย เชื่อถือได้…..และทุกคนในองค์กรยอมรับพร้อมที่จะปฏิบัติ

อาจารย์ดอน : ใช่โดม !....การทำ brainstorming  บาง policy เพื่อเสริมให้เกิด reliability เป็นสิ่งจำเป็นมาก นอกจากนั้นแล้ว ก็ต้องมีระบบ การตรวจสอบ เตือนเฝ้าระวัง เชิงปฏิบัติการด้วย….ซึ่งผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ในการปรับแต่งให้เข้ากับวัฒนธรรมของตน…เพื่อสร้างเป็นรูปแบบในการบริหารงานขององค์กร

ศิษย์โดม :  การ brainstorming กำหนดหัวข้อตาม….define – generating - developing…ภายใต้กฎของการ brainstorming…..ที่สำคัญต้องไม่จำกัดกรอบความคิด!

อาจารย์ดอน : ใช่โดม !....สรรพสิ่งทั้งหลายในธรรมชาติ มีทั้งระบบเล็ก ระบบกลางและระบบใหญ่  และไม่ว่าจะป็นระบบใดก็ตามล้วนแล้วแต่…..มีโครงสร้างเป็นระบบเดียวกัน….จะเล็กขนาดอะตอม หรือใหญ่เท่าระบบสุริยจักรวาลก็ตาม…มีโครงสร้างเป็นระบบที่สอดคล้องกัน…อะตอมของเซลล์ในร่างกายมนุษย์กับโลกและจักรวาล…มีความลงตัวของ….โครงสร้างระบบที่สอดคล้องกัน….ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดัดแปลงให้เกิดความแตกต่างไปจากธรรมชาติที่มีอยู่เดิม…..มนุษย์มีหน้าที่ใช้ทุกอนูของร่างกาย….ให้สอดคล้องกับระบบที่โตเป็นลำดับๆไปจนในที่สุด….ก็เข้ากับธรรมชาติและใหญ่พอที่เข้าและสอดคล้องกับโลกและจักรวาลได้….!

ศิษย์โดม :  ตัวผมก็เปรียบเสมือนระบบหนึ่งของโลกและจักรวาลใช่ไหมครับ…!....และจะเกิดอะไรขึ้น ครับ!....ถ้าปรับตัวให้เข้ากับโลกและจักรวาล ช้าเกินไป หรือไม่ทัน….ประมาณว่า ตกกระแส ครับ!

อาจารย์ดอน : …..ตัวอย่างการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ทัน…ก็คราวที่เกิดอุทกภัยปีที่ผ่านมาไง! …..ถ้าเราไม่สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับระบบที่ใหญ่กว่าตนเองได้…โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของโลกและจักรวาล…..เราก็จะถูกทำลาย….เพราะความขัดแย้งกับวิถีแห่งธรรมชาตินั่นเอง ดังนั้น ยิ่งคุณถูกจำกัดกรอบด้วยระบบย่อยเท่าไร คุณก็ยิ่งจะถูกทำลายได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เช่น ระบบย่อยที่เรียกว่าสังคมย่อย ประเทศ หรือแม้แต่ศาสนา เหล่านี้ ล้วนเป็นระบบย่อยที่มีความขัดแย้งบางประการกับระบบธรรมชาติ (ระบบใหญ่) ดังนั้น….ระบบย่อยเหล่านี้จึงมีอายุไข!...เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว…..ล้วนต้องถูกทำลายลงไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้…….มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง…..การทำตัวให้สอดคล้องกับระบบย่อย…จะทำให้คุณได้รับผลผลิตหลายประการจากระบบย่อยนั้น เช่น การยอมว่าเรามีอาชีพเป็นข้าราชการ…. จึงมีเงินเดือน….มีรัฐสวัสดิการ...แต่ว่าจะมีอายุจำกัด (อายุราชการ)……หากคุณปรับตัวเข้ากับระบบย่อยโดยไม่ยึดมั่น โดยเข้าใจระบบใหญ่ (โลกและจักรวาล) เมื่อใด….ที่ระบบย่อยขัดแย้งกับจักรวาลมากๆ คุณสามารถถอนตัวออกมาได้ทัน คุณจะไม่ถูกทำลาย และสามารถปรับตัวไปสู่ระบบอื่นๆ ที่ยังสอดคล้องกับจักรวาลและยังไม่ถูกทำลายได้ ดังนั้น ในการมองให้เห็นโลกและจักรวาล…..เข้าใจวิถีของธรรมชาติ…..และมีการปรับตัวให้เข้ากับระบบย่อย โดยไม่ยึดติดระบบย่อย เตรียมพร้อมตัวเองอยู่ตลอดที่จะถูกเปลี่ยนแปลงโดยระบบใหญ่ รู้เท่าทันระบบใหญ่ และสามารถปรับตัวออกจากระบบย่อยที่ขัดแย้งกับธรรมชาติ (ระบบใหญ่) ได้…..จึงเป็น "พฤติกรรมการดำรงชีวิต" ที่สังเกตและพบเห็นได้ จากผู้ที่มีความสอดคล้อง และปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ (ระบบใหญ่ ) ทั่วไป…………..เอาล่ะตอนนี้ขอจบใว้เท่านี่ก่อนและฝากการบ้านไปทำดังนี้……..ให้ทุกคนเตรียมตัวหาคำตอบมาว่า…..1. ข้อกำหนดและขั้นตอนในการทำ brainstorming เพื่อให้ทุกคนไม่รู้สึกอึดอัด…..2. ให้เตรียมหลักการของ…การคิดให้เป็นมาด้วย!  

////////////////////////////////////////

15/1/2555

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที