ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านบทความของ ดร.เกศรา รักชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างองค์การแก่งการเรียนรู้ท่านหนึ่งของบ้านเรา ในเรื่อง เรียนรู้การเป็นมืออาชีพ Being Professional โดยเป็นกรณีศึกษาจากโปรแกรมการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ของ ปตท. ซึ่งได้ให้แนวคิดในข้อสำคัญว่าการที่จะเป็นพนักงานมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จในการทำงานจะต้องทำตัวหรือประพฤติปฏิบัติอย่างไร ทั้งในเรื่องงานและที่สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตตามปกติ ผู้เขียนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี น่าที่จะได้นำมาถ่ายทอดกันต่อ ๆ ไป แต่คงไม่ต้องถึงขนาดบอกต่อกันไป 20 คน จะเป็นอานิสงค์ให้ชีวิติคุณรุ่งเรืองสืบไป เพียงแต่ ต่างคนต่างทำ โดยจิตมุ่งมั่น ลำนึกรับผิดชอบที่ดี ก็เชื่อว่า ที่ทำงานของเราก็จะเป็น Healthy Workplace ในท้ายที่สุด นอกเหนือจากนี้ จากฐานคิดของโปรแกรมปฐมนิเทศพนักงานใหม่ของ ปตท. ยังสะท้อนให้เห็นถึงการที่องค์การสื่อสารวิสัยทัศน์ พันธกิจ ทิศทางขององค์การให้พนักงานได้ทราบตั้งแต่ต้นมือ รวมทั้งปลูกฝังวิธีคิดวิธีปฏิบัติที่จะนำมาซึ่งความเป็นพนักงานที่เก่ง สร้างสรรค์ เป็นคนดีและมีความสุขในการทำงาน โดยประเด็นที่สำคัญควบคู่กันไปก็คือที่เล็งมาที่ผู้บริหารให้ต้องมาพบปะสร้างสัมพันธ์กับพนักงานใหม่
ดร. เกศรา กล่าวไว้ว่า การจะเป็นมืออาชีพนั้น พนักงานใหม่ของ ปตท. ได้นำเสนอประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นข้อสรุปร่วมกัน รวม 40 ข้อ ดังนี้
1) พนักงานแต่ละคนต้องมีความฝันที่ชัดเจนในตัวเอง ฝันอยากเห็นตัวเองประสบความสำเร็จในอาชีพที่เลือกเข้ามา
2) พนักงานต้องมีใจรักในสิ่งที่ทำ รักในอาชีพของตนเอง มีความตั้งใจจริงที่จะทำอาชีพของตนเอง
3) มีจุดมุ่งหมาย เป้าหมายที่ชัดเจน ในการทำงานแต่ละวัน
4) วางแผนการทำงาน
5) ทำงานหนัก อดทน ทุ่มเท ขยัน
6) เตรียมตัวเอง เตรียมงานตัวเองให้พร้อมก่อนทำงานร่วมกับผู้อื่น
7) รับผิดชอบสูงต่อตนเอง และต่อทีม
8) แข่งขันกับตนเอง
9) ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
10) ทำงาน 150% ของที่วางแผนไว้
11) มีระเบียบวินัยและตรงต่อเวลา รู้จักรักษาเวลา
12) ใส่ใจในรายละเอียดของงาน
13) ใฝ่เรียนใฝ่รู้ หาความรู้เพิ่มเติม
14) เป็นคนน่ารัก ไม่หยิ่งไม่ถือตัว มีความเป็นกันเอง
15) มีความอ่อนน้อมถ่อมตน
16) เอาชนะใจตนเองโดยควบคุมอารมณ์ (Self Management)
17) มีความมั่นใจในตนเอง
18) เปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
19) ให้เกียรติ และรักษาสัญญากับตัวเองและผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
20) กล้าพูดในสิ่งที่เป็นความจริง ด้วยวิธีการที่เหมาะสม
21) มีความสม่ำเสมอในการหมั่นหาความรู้ ความเข้าใจในงาน ในธุรกิจขององค์กร
22) มีความมุ่งมั่น (Commitment)
23) รู้จักบริหารเวลา (Time Management)
24) มีสมาธิในการทำงาน
25) กำจัดจุดอ่อนตัวเอง และเรียนรู้จุดแข็งที่จะสร้างเสริมให้เด่นขึ้น
26) เรียนรู้จากการเป็น มืออาชีพ กับมืออาชีพ หาความรู้จากผู้ที่เก่งกว่า เพื่อพัฒนาตนเอง
27) หาประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ กับเพื่อนร่วมวิชาชีพต่างองค์กร
28) มีความคิดสร้างสรรค์ เปิดโลกทัศน์
29) มีรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย ไม่ยึดติด
30) กล้ายอมรับผิด จากการกระทำของตนเอง โดยไม่กล่าวโทษสถานการณ์ หรือบุคคลอื่น และนำเอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน
31) เตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ
32) ทำทุกบทบาทและหน้าที่ให้ดีที่สุด
33) มีต้นแบบ หรือ Role Model เพื่อจะได้มีแรงบันดาลใจ
34) Trust ในตัวผู้นำและเพื่อนร่วมงาน
35) มีการถ่ายทอด แบ่งปันความรู้ต่อเพื่อนร่วมงาน
36) Life Long Learning
37) พัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ (Continuous Improvement)
38) ยึดถือค่านิยมร่วมและวัฒนธรรมขององค์กร
39) ผนึกพลังประสานความต่าง (Synergy)
40) มีความภูมิใจในตัวเองและองค์กร
ผู้เขียนเชื่อว่า ส่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาซึ่งเป็นเรื่องที่นำมาสู่ความเป็นพนักงานทีดีขององค์การนั้น แท้จริงย่อมเป็นส่วนที่สร้างเสริมให้ชีวิตประจำวันของผู้ปฏิบัติตนตามวิถีดังกล่าวมีความสุขด้วย น่าจะได้ลองนำหลายเรื่องที่มีนี้ไปปฏิบัติหรือเป็นหลักคิดเพื่อสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์การของท่านนะครับ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที