การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติโดยจำแนกตามระดับการศึกษาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ ระดับอุดมศึกษาและระดับอาชีวศึกษา โดยการศึกษาระดับอุดมศึกษาจะอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ในขณะที่การอาชีวศึกษา (Vocational Education) จะอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ การศึกษาสถานภาพปัจจุบันทางด้านการศึกษาทั้ง 2 ระดับดังกล่าว ในที่นี้แบ่งออกเป็น 3 ด้านคือ ด้านบุคลากร ด้านหลักสูตรการเรียนการสอน และด้านกิจกรรม โดยมีรายละเอียดดังนี้
บุคลากรทางการศึกษาถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนานักเรียน นักศึกษาให้มีทั้งความรู้และทักษะพร้อมที่จะทำงานในสถานประกอบการต่างๆ ในการพัฒนาบุคลากรทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัตินั้นจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรทางการศึกษาที่มีความรู้ทางศาสตร์ต่างๆ ประกอบไปด้วยศาสตร์ทางด้านไฟฟ้า เครื่องกล คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ วัดคุมหรือเครื่องมือวัด เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการศึกษาความพร้อมของบุคลากรทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ จึงได้มีการสำรวจข้อมูลบุคลากรในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวโดยจำแนกตามระดับการศึกษาเป็น 2 ระดับดังต่อไปนี้
การศึกษาในระดับอุดมศึกษาจะครอบคลุมระดับปริญญาตรีไปจนถึงระดับปริญญาเอกซึ่งมหาวิทยาลัยที่ทำการเปิดสอนมีทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและของเอกชน จากการศึกษาข้อมูลบุคลากรแยกตามสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล เมคคาทรอนิกส์ และเครื่องมือวัด ของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังตารางที่ 1 แสดงให้เห็นว่าบุคลากรในสาขาเมคคาทรอนิกส์ และเครื่องมือวัดมีอยู่จำนวนน้อยเมื่อเทียบกับสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิศวกรรมเครื่องกล นอกจากนี้สาขาเมคคาทรอนิกส์ และเครื่องมือวัด มีการเปิดสอนอยู่เพียงบางมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ตารางที่ 1 จำนวนบุคลากรคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ แยกตามสาขา
สำหรับจำนวนบุคลากรในระดับอาชีวศึกษาจะมีลักษณะที่คล้ายกับในระดับอุดมศึกษาคือ จะมีจำนวนบุคลากรส่วนใหญ่อยู่ในสาขาหลักคือเครื่องกลและไฟฟ้า ดังแสดงตารางที่ 2
ตารางที่ 2 จำนวนข้าราชการครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ปีการศึกษา 2549
สาขาวิชา |
ต่ำกว่า ป.ตรี |
ป.ตรี |
ป.โท |
ป.เอก |
รวม |
เครื่องกล |
28 |
1064 |
320 |
1 |
1413 |
ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ |
1 |
245 |
90 |
1 |
337 |
ไฟฟ้ากำลัง |
45 |
918 |
286 |
1,249 |
|
อิเล็กทรอนิกส์ |
44 |
510 |
184 |
2 |
740 |
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ |
7 |
10 |
17 |
||
เมคคาทรอนิกส์ |
3 |
3 |
6 |
||
เครื่องมือวัดและควบคุม |
12 |
4 |
16 |
ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
การศึกษาทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์เป็นลักษณะการบูรณาการความรู้ทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์หลายสาขาเข้าด้วยกัน ในการจัดการเรียนการสอนทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์แบบดั้งเดิม ( Classical Robotics) โดยประกอบไปด้วย คณิตศาสตร์และจลนศาสตร์สำหรับการสร้างหุ่นยนต์ การกำหนดเส้นทางการเคลื่อนที่ (Path Planning) พลศาสตร์และการควบคุมหุ่นยนต์ รวมถึงการโปรแกรมหุ่นยนต์แขนกลสำหรับงานประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ในการศึกษาระบบหุ่นยนต์ในปัจจุบันสามารถแบ่งองค์ประกอบเป็น การรับรู้ (Perception) การประมวลผล (Processing) และการกระทำ (Action) โดยในส่วนของการรับรู้นี้ครอบคลุมเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ ระบบตรวจจับภาพและเสียงพูด (Vision and Speech Sensing) และการประมวลผลหมายรวมถึงการรู้จำ (Recognition) ขบวนการการตัดสินใจ (Decision-Making) ระบบอัจฉริยะ (Intelligent System) เป็นต้น สำหรับการกระทำนั้นจะอาศัยหลักการของระบบเครื่องกลไฟฟ้า (Electromechanical System) และระบบขับเคลื่อนทางกลต่างๆ เช่น ไฮดรอลิกส์และนิวเมติกส์ นอกจากนี้ยังครอบคลุมระบบควบคุมชนิดต่างๆด้วย
หลักสูตรการศึกษาที่มีลักษณะสหวิทยาการเช่นเดียวกับวิทยาการหุ่นยนต์คือหลักสูตรทางด้านเมคคาทรอนิกส์ซึ่งเป็นหลักสูตรสมัยใหม่ ที่มุ่งเน้นผลิตบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการออกแบบ บำรุงรักษา เครื่องจักรกลสมัยใหม่ในระบบกระบวนการผลิตรวมถึงหุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติ รูปที่ 3-1 แสดงศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเมคคาทรอนิกส์ ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับวิทยาการหุ่นยนต์คือ ระบบควบคุม (Control Systems) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Systems) ระบบเครื่องกล (Mechanical Systems) และคอมพิวเตอร์ โดยเมคคาทรอนิกส์สามารถประยุกต์ใช้งานในหลากหลายเช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ การแพทย์ การทหาร เป็นต้น
ที่มา : Mechatronics, Wikipedia
รูปที่ 1 Aerial Venn Diagram แสดงศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเมคคาทรอนิกส์
ประเทศไทยมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เปิดสอนทั้งทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และเมคคาทรอนิกส์ โดยจำแนกเป็นระดับอุดมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาดังนี้
จากข้อมูล สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาที่ทำการเปิดสอนสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ วิศวกรรมวัดคุม และวิศวกรรมควบคุม สามารถผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถทางศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการหุ่นยนต์ที่จบในปีการศึกษา 2548 มีจำนวน 25 มหาวิทยาลัย ดังนี้
เมื่อแยกตามระดับการศึกษาในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก และแยกตามสาขาที่ทำการเปิดสอน มหาวิทยาลัยเหล่านี้สามารถผลิตบัณฑิตสู่สถานประกอบการในปีการศึกษา 2548 มีจำนวนตามที่แสดงไว้ในรูปที่ 3-2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสาขาที่มีผู้จบการศึกษาในทุกระดับในปีการศึกษา 2548 มีเพียงสาขาไฟฟ้า เครื่องกลและคอมพิวเตอร์ ส่วนสาขาเมคคาทรอนิกส์มีผู้สำเร็จการศึกษาเฉพาะระดับปริญญาตรี
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
รูปที่ 1 จำนวนผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา 2548 คณะวิศวกรรมศาสตร์ แยกตามสาขา
ในจำนวนมหาวิทยาลัยข้างต้น มีมหาวิทยาลัยที่ทำการเปิดสอนวิทยาการหุ่นยนต์หรือเมคคาทรอนิกส์ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายมหาวิทยาลัย เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษาเป็นระดับปริญญาตรีกับระดับสูงกว่าปริญญาตรีหรือระดับบัณฑิตศึกษา จะมีหลักสูตรและสาขาดังต่อไปนี้
หลักสูตรการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาแบ่งออกเป็นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนีบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) โดยภาพรวมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ 412 แห่ง จำแนกตามประเภทของสถานศึกษาได้ดังนี้
โดยประเภทวิชาที่ทำการเปิดสอนประกอบด้วย 8 ประเภท คือ
สำหรับหลักสูตรที่มีลักษณะเช่นเดียวกันกับวิทยาการหุ่นยนต์นั้น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ทำการเปิดสอนในปัจจุบันโดยกำหนดไว้ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2546 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาเมคคาทรอนิกส? ซึ่งได้ทำการเปิดสอนอยู่ทั้งหมด 15 วิทยาลัย ดังนี้
ดังนั้นเมื่อทำการเปรียบเทียบจำนวนนักเรียนนักศึกษาเข้าใหม่ในปีการศึกษา 2550 จึงพบว่านักเรียนในสาขาเมคคาทรอนิกส์มีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับสาขาเครื่องกลและไฟฟ้าดังแสดงในตารางที่ 3-3
ตารางที่ 1 การรับนักเรียนนักศึกษาเข้าใหม่ ปีการศึกษา 2550
สาขา |
จำนวน |
เครื่องกล |
48755 |
ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ |
41083 |
เครื่องมือกลและซ่อมบำรุง |
14607 |
ไฟฟ้ากำลัง |
10463 |
อิเล็กทรอนิกส์ |
7651 |
เมคคาทรอนิกส์ |
465 |
เครื่องมือวัดและควบคุม |
128 |
ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ในการเรียนการสอนระบบอัตโนมัติในเมืองไทยนั้น อาจจะแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง ดังกล่าวต่อไปนี้
เนื่องด้วยระบบอัตโนมัติเป็นลักษณะของสหวิทยาการ ซึ่งกลุ่มเนื้อหาสาระวิชาที่จำเป็นต้องใช้จะประกอบด้วย
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ แบ่งออกเป็นการจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ การจัดชมรม การอบรม และการร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการจัดตั้งบริษัทที่ได้รับการบ่มเพาะจากสถานศึกษา โดยกิจกรรมต่างๆมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กิจกรรมทางด้านการจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ในปัจจุบันจัดขึ้นโดยหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคการศึกษามีผู้ให้ความสนใจในหลายระดับ ทั้งในระดับมัธยม ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษาดังแสดงในรูปที่ 3-3 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจำนวนการจัดการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึงจำนวนผู้ที่ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นโดยดูจากจำนวนทีมผู้เข้าแข่งขันที่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในหลายการแข่งขัน
รูปที่ 2 จำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ในปี พ.ศ. ต่างๆ
โดยการแข่งขัน ส.ส.ท. ชิงแชมป์ประเทศไทยและหุ่นยนต์อาชีวศึกษา เป็นการแข่งขันเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยคนและทำงานเองโดยอัตโนมัติเพื่อบรรลุภาระกิจที่กำหนดเช่นการหยิบวางเรียงกล่องเพื่อทำบิงโก แล้วจะมีการแข่งขันร่วมกันระหว่างอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาเพื่อหาผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันระดับนานาชาติในการแข่งขัน ABU Robot Contest
ส่วนการแข่งขัน PLC Robot Competition เป็นการแข่งขันเพื่อสร้างระบบอัตโนมัติโดยใช้ PLC เป็นตัวควบคุมเช่น การแข่งขันตีกอล์ฟ หรือการปาลูกดอกโดยใช้ PLC เป็นต้น
ส่วนการแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชนกรังปรีซ์และหุ่นยนต์ยุวชนอาชีวะ เป็นการแข่งขันระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่มีการอบรมการสร้างและเขียนโปรแกรมก่อนการแข่งขัน
การแข่งขัน Robocup เป็นการแข่งขันที่พัฒนาหุ่นยนต์เคลื่อนที่แบบใช้ล้อเพื่อเลี้ยงลูกบอลและทำประตูฝ่ายตรงข้าม การแข่งขันประเภทนี้ต้องอาศัยความรู้ในเรื่องของคอมพิวเตอร์วิชั่นในการหาตำแหน่งของตัวหุ่นยนต์และลูกบอล และใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการวางแผนการบุกและรับ ผู้ชนะเลิศจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับนานาชาติ
การแข่งขัน Rescue Robot เป็นการแข่งขันการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยคนร่วมกับข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ในการสำรวจตำแหน่ง อุณหภูมิ เสียงและการเคลื่อนไหวของหุ่นตัวแทนเหยื่อ ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ผู้ชนะเลิศจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับนานาชาติ
การแข่งขัน Intelligent Vehicle เป็นการแข่งขันพัฒนารถอัจฉริยะที่สามารถเคลื่อนที่จากจุดเริ่มต้นไปสู่จุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องมีคนเข้าไปควบคุมหรือเกี่ยวข้อง
นอกจากกิจกรรมการแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับชาติแล้ว เด็กไทยยังได้เข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติในหลายรายการแสดงในรูปที่ 4 ดังนี้
ที่มา : ชมรมนักประดิษฐ์วิศวกรรม, ทีมหุ่นยนต์ Independent คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1
รูปที่ 4 นักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับนานาชาติ
ตารางที่ 4 แสดงให้เห็นว่าผู้ชนะการแข่งขันในระดับประเทศมีศักยภาพที่สามารถชนะเลิศการแข่งขันในระดับนานาชาติโดยมีจำนวนการได้รางวัล
ตารางที่ 2 รางวัลที่ได้รับในการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติในปี พ.ศ. ต่างๆ
หมายเหตุ : 1 คือ ชนะเลิศ และ 2 คือ รองชนะเลิศ
จากการเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ของนักเรียนนักศึกษาที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการจัดกิจกรรมชมรมที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งพบว่าชมรมที่จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันหุ่นยนต์ของประเทศไทยที่มาจากหลากหลายสถาบัน ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยซึ่งแยกตามสถาบันต่างๆ ดังนี้
สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยเป็นอีกองค์กรหนึ่งที่มีกิจกรรมทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์ โดยสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2543 โดยกลุ่มอาจารย์ นักวิจัย และบุคลากรจากภาคอุตสาหกรรมที่มีความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์ ซึ่งทางสมาคมมีกิจกรรมการจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ และกิจกรรมการประชุมทางวิชาการในทุกๆปี ปัจจุบัน ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์เป็นนายกสมาคมฯ
กิจกรรมด้านการอบรมมีส่วนสำคัญต่อการเผยแพร่ความรู้ทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ในปัจจุบันประเทศไทยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงานที่มีความพร้อมในการจัดกิจกรรมด้านการอบรมทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งสรุปไว้ในตารางที่ 5 ดังนี้
ตารางที่ 3 หน่วยงานที่จัดอบรมทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
ลำดับ |
ชื่อสถาบัน |
สาขาที่เปิดอบรม |
|
Automation |
Robotics |
||
1 |
สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ |
/ |
� |
2 |
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ( มจธ.) |
/ |
/ |
3 |
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ |
/ |
� |
ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( STRC) |
/ |
/ |
|
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศษ ( TFIC) |
/ |
/ |
|
สำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อุตสาหกรรม ( ITDI) |
/ |
/ |
|
4 |
ศูนย์ฝึกอบรมระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ |
/ |
� |
5 |
ศูนย์ฝึกอบรมเนคเทค (NECTEC) |
/ |
� |
6 |
สถาบันส่งเสริมเทคโนโลยี ( สสท.) |
/ |
� |
7 |
บริษัท HPC GROUP |
/ |
� |
8 |
OMRON |
/ |
� |
9 |
Scada Automation Co.,Ltd. |
/ |
� |
10 |
Siemens Training Center Bangkok |
/ |
� |
11 |
ศูนย์ฝึกอบรม เบรนนิคส์ เทคโนโลยี |
/ |
� |
12 |
EDA Instruments & Systems |
/ |
� |
13 |
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 12 สงขลา |
/ |
� |
14 |
สถบันสอนสร้างหุ่นยนต์สำหรับเด็ก |
� |
/ |
15 |
ThinkWell Robotic and Computer Center |
� |
/ |
16 |
ศูนย์เทคโนโลยีไฮเทค จ.อยุธยา |
/ |
� |
บริษัทที่ตั้งขึ้นจากกลุ่มวิจัยหรือจากศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างองค์กรของรัฐกับภาคเอกชนที่มีเป้าหมายในการพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบันมีตัวอย่างการจัดตั้งบริษัทที่แยกตัวจากศูนย์บ่มเพาะจากสถานศึกษาอยู่หลายบริษัท ดังแสดงในตารางที่ 6
ตารางที่ 4 ตัวอย่างบริษัทที่ได้รับการบ่มเพาะจากสถานศึกษา
บริษัท |
ผลิตภัณฑ์บริการ |
หมวดหมู่ |
เวอธ อินโนเวชั่น จำกัด |
ซ่อมบำรุงรักษาโปรเจคเตอร์ ให้กับระบบ Multimedia ในรถไฟฟ้าใต้ดิน |
บริษัทภายใต้โครงการบ่มเพาะธุรกิจของ สกอ. ในสังกัด |
ระบบบริการรับส่งสินค้า เอกสาร พัสดุต่างๆ |
� |
|
จอภาพ LED True Color Display |
� |
|
นะโม จำกัด |
การส่งข้อมูลไร้สาย สามารถให้บริการ แก้ไขปัญหา |
ทำการวิจัยพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
มิกซ์เอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด |
วางระบบการทำงานอัตโนมัติ |
� |
พัฒนาและผลิตเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติ สำหรับภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม |
� |
|
สมาร์ท เอ็มเบ็ดเด็ด เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม จำกัด |
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทางการเกษตรและเกษตรกรรม |
� |
ระบบสมองกลฝังตัว (Embedded System) |
� |
|
ระบบจักรกลอิเล็กทรอนิกส์ (Mechatronics) |
� |
|
ระบบควบคุมผ่านเครือข่าย (Network-based control) |
� |
|
เอ็กทรีมพลัส จำกัด |
ระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ (Intelligent Sensor) และ |
� |
Interactive FogScreen |
� |
|
NetSync MultiScreen Display System |
� |
|
Optical Interactive Touch Screen |
� |
|
Dilad Transparent Projection |
� |
ที่มา : รายงานการศึกษาและจัดทำสถานภาพและแนวโน้มของระบบอัตโนมัติในประเทศไทย อาจารย์ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา
จากการศึกษาสภาพปัจจุบันด้านการศึกษาของวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติด้านบุคลากร พบว่าในบุคลากรระดับอุดมศึกษาทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะกระจายอยู่ตามสาขาต่างๆเช่น วิศวกรรมไฟฟ้าหรือวิศวกรรมเครื่องกล และมีจำนวนบุคลากรน้อยกว่าสาขาหลักอย่างวิศวกรรมไฟฟ้าหรือวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับบุคลากรระดับอาชีวศึกษา นอกจากนี้ผลงานตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยจากฐานข้อมูล Science Citation Index ค.ศ. 1995-2004 ดังแสดงในรูปที่ 5 สอดคล้องกับจำนวนบุคลากรทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในระดับอุดมศึกษาที่มีจำนวนน้อย และมีข้อสังเกตว่าจำนวนบุคลากรและจำนวนผลงานตีพิมพ์สวนทางกับจำนวนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องเร่งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านของวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นให้ทันพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
ที่มา : ผลงานตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยในฐานข้อมูล Science Citation Index ค.ศ. 1995-2004
รูปที่ 3 ผลงานตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สำหรับแนวโน้มทางด้านหลักสูตรการเรียนการสอน จากโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดประเด็นเชิงนโยบายอุดมศึกษา สำหรับการจัดทำแผนพัฒนาอุดมศึกษาระยะยาว ในประเด็นเรื่องการยกระดับคุณภาพศึกษาในระบบให้สอดคล้องกับความต้องการของสาขาเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ได้กำหนดแนวทางไว้โดยการศึกษาในระดับอุดมศึกษาควรเน้น สหกิจศึกษา ( Corporate Education) ให้มากที่สุดโดยอาศัยความร่วมมือกับผู้ประกอบการ ในประเด็นเรื่องพัฒนาหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมโดยการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยควรเพิ่มเนื้อหาภาคปฏิบัติจากสถานการณ์จริง (Practice School)
จากสภาพปัจจุบัน การสอนนักศึกษาไม่มีการแทรกปรัชญาหรือแนวคิดทางด้านธุรกิจ ส่วนมากนักศึกษาจะถูกอบรมและสั่งสอนมาเพื่อเป็นลูกจ้าง ดังนั้นภาครัฐควรมีการสนับสนุนนโยบายการศึกษา ให้มีหลักสูตรเพื่อการเป็นผู้ประกอบการผนวกกับการวิจัย นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาและอาจารย์ทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ยังมีศักยภาพในการรับนักศึกษาได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ดังจะเห็นได้จากทั้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ยังมีนักศึกษาเข้ามาศึกษาในแต่ละแห่งได้ไม่เต็มศักยภาพตามที่แต่ละสถาบันการศึกษาสามารถรองรับได้อย่างเต็มที่ ซึ่งปัญหาคือจะต้องมีทุนการศึกษาที่เจาะจงมอบให้เพื่อการศึกษาในสาขาวิชานี้ ซึ่งถ้านักศึกษามีความสนใจในด้านนี้อยู่แล้ว เมื่อได้รับการกระตุ้นจะสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้มีผลต่อการตัดสินใจในการศึกษาต่อด้านนี้เป็นอย่างมาก
การอาชีวศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ด้วยปัจจัยด้านความต้องการแรงงานที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ จากผลการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการวางแผนการจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนตามความต้องการของประเทศ โดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สป. ชี้ให้เห็นว่าความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตามแนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในช่วงแผนฯ 10 คือ “ เพิ่มจำนวนนักเรียนสายอาชีพให้ใกล้เคียงสายสามัญ เพิ่มกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับ ปวช. ปวส.” และจากผลการศึกษาความต้องการกำลังคนของกลุ่มอุตสาหกรรม โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ยังแสดงให้เห็นว่า การผลิตและพัฒนากำลังคนตามความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ สถานประกอบการที่ใช้กำลังแรงงานเป็นหลัก มีโครงสร้างอัตราส่วนการใช้กำลังคนใน ระดับสูง : ระดับกลาง : ระดับต่ำ เป็นอัตราส่วนประมาณ 10 : 20 : 70 ซึ่งส่งผลต่อปัญหาการขาดแคลนกำลังคนระดับกลางหรือระดับปฏิบัติการทั้งปวช. และปวส. นอกจากนี้จากการศึกษาใน แรงงานในปัจจุบันและคาดการณ์ไปในอนาคตดังแสดงในรูปที่ 6 พบว่า ช่างฝีมือระดับกลางมีแนวโน้มไม่พอต่อความต้องการของกําลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและบริการ และสวนกระแสความต้องการแรงงานในอนาคตที่ต้องการแรงงานระดับกลางที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องดังแสดงในรูปที่ 7
ที่มา : อาชีวศึกษากับแนวทางพัฒนาฝีมือแรงงาน ประชากรและสังคม 2548, สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
รูปที่ 4 ร้อยละของผู้เข้าเรียนในระดับมัธยมปลาย อาชีวศึกษา อนุปริญญาและปริญญาตรี
ที่มา : อาชีวศึกษากับแนวทางพัฒนาฝีมือแรงงาน ประชากรและสังคม 2548, สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
รูปที่ 5 จํานวนผู้ทํางานภาคอุตสาหกรรมและบริการ จําแนกตามระดับการศึกษา
นอกจากนี้ จากผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันประจำปี 2549 ของสถาบันนานาชาติเพื่อการจัดการ (Institute for Management Development: IMD) พบว่าประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงด้านการศึกษาโดยรวม ตามหลังประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยควรเร่งพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้มีความสามารถต่อการแข่งขันทัดเทียมนานาประเทศได้
จากข้อเสนอแนวทางการผลิตและพัฒนากำลังคนของกลุ่มอุตสาหกรรม ได้นำเสนอไว้หลายประการคือ ควรทบทวนหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ( Practice School) และความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยี รวมทั้งให้สอดคล้องความต้องการของผู้ใช้กำลังคน (Demand Side) ส่งเสริมให้สถาบันเทคโนโลยีที่เปิดสอนในระดับอุดมศึกษาในภูมิภาคต่างๆ เปิด “ โรงเรียนสาธิตวิชาชีพ” เร่งรัดให้มีระบบมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ ( TVQ ) ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพ ที่ได้มีการกำหนดหลักสูตรมาตรฐานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติระดับอาชีวศึกษา (Vocational Technical Education Framework Manufacturing, Engineering, and Technology Cluster Robotics and Automation Technology) เมื่อทำการเปรียบเทียบหลักสูตรมาตรฐานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติระดับอาชีวศึกษาของมลรัฐแมซซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กับหลักสูตรเมคาทรอนิกส์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึษา พ.ศ. 2546 พบว่ามีความใกล้เคียงกัน ยกเว้นยังขาดเนื้อหาของเทคโนโลยีที่ใช้ในปัจจุบันคือ การส่งข้อมูลทางท่อนำแสง (Fiber Optics) และเทคโนโลยีภาพ (Vision) ที่ใช้ในการวัดและตรวจสอบชิ้นงานในระบบอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง
จากโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดประเด็นเชิงนโยบายอุดมศึกษา สำหรับการจัดทำแผนพัฒนาอุดมศึกษาระยะยาว ในประเด็นเรื่องการเพิ่มจำนวนและคุณภาพสายอาชีวศึกษาโดยเฉพาะสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กำหนดแนวทางไว้โดยให้เน้นภาคปฏิบัติจริง (ทวิภาคี) และพัฒนาระบบมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานฝีมือแรงงาน ยกระดับมามาตรฐานวิชาชีพให้เป็นระดับสากล นอกจากนี้ ควรปรับปรุงและเพิ่มสาระการเรียนการสอนทักษะทางอาชีพที่ปฏิบัติได้จริง ( Competency-based)
แนวโน้มของกิจกรรมทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมีสูงขึ้นโดยเฉพาะการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับชาติมีกลุ่มผู้ให้ความสนใจเพิ่มขึ้น และเด็กไทยสามารถก้าวเข้าสู่การแข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติได้ ซึ่งหากมีการส่งเสริมให้เด็กไทยที่ได้ชนะการแข่งขันให้สามารถพัฒนาต่อยอดความรู้และทักษะ ให้ตรงสาขาทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคลากรทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และของประเทศต่อไป
ด้านการอบรมบุคลากรทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัตินั้น ประเทศไทยมีหน่วยงานที่รองรับกิจกรรมทางด้านการอบรมซึ่งกระจายตามหน่วยงานของรัฐและเอกชน แต่มีข้อสังเกตว่าจะรวมตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร ทำให้การเข้าถึงวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติตามภูมิภาคเป็นไปได้ยาก
�
![]() |
รู้จักผู้เขียน ภายหลังจบการศึกษา ดร. ชิต ได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี และเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม หรือที่คนทั่วไป รู้จักในนาม “ฟีโบ้ (FIBO)” เป็นหน่วยงานหนึ่งในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี เพื่อทำงานวิจัยพื้นฐาน และประยุกต์ด้าน เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ตลอดจนให้คำปรึกษาหน่วยงานรัฐบาล เอกชน และบริษัทข้ามชาติ (Multi-national companies) ในประเทศไทยด้านการ ลงทุนทางเทคโนโลยี การใช้งานเทคโนโลยีอัตโนมัติชั้นสูง และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมี ประสิทธิภาพ |
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที