หุ่นยนต์นังแจ๋วทักทายผม สวัสดีค่ะ อยู่สองสามครั้ง จนผมตื่นจากภวังค์หายตะลึง รับคำและยื่นมือไปรับแก้วน้ำมา ขอบใจนะ หุ่นยนต์กระพริบตาถามผมจะให้เอากระเป๋าผมไปเก็บหรือไม่? ไม่ต้องจ๊ะ แต่ดูเหมือนหล่อนจะไม่เข้าใจเดินเขามาประชิดตัวผมเพื่อจะหยิบกระเป๋าให้ได้ทั้งนี้อาจเกิดจากโมดูลสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) เป็นประเภทยึดน้ำเสียงผู้สอนเป็นหลัก (Speaker Dependence) จนเพื่อนผมต้องย้ำว่า แจ๋วไม่ต้องแล้ว ผมเป็นคนหวงกระเป๋ามิใช่เพราะใช้ขนเงินหรือของมีค่า หากแต่เกรงว่าเอกสารข้อมูลที่เก็บไว้ในกระเป๋าจะสูญหายไปครับ
สัปดาห์ก่อนผมได้กล่าวถึงห้าวิทยาการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาหุ่นยนต์รับใช้:นังแจ๋ว วันนี้ขอให้รายละเอียดเกียวกับวิทยาการด้านปฏิสัมพันธ์เพิ่มเติม เพื่อดูว่าการพัฒนาจะก้าวไปถึงจินตนากรข้างต้นหรือไม่?
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหุ่นยนต์มีความเห็นว่าการทำความมักคุ้นกับหุ่นยนต์มิได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเช่นที่คนทั่วไปคิด นายโคลิน แองเกิล ซีอีโอของ บริษัทไอโรบอทที่เบอร์ลิงตัน มลรัฐแมสซาซูเซสต์ กล่าวว่า เจ้าของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุมบ้า กว่า 60 เปอร์เซนต์ รู้สึกใกล้ชิดกับหุ่นยนต์จนถึงกับตั้งชื่อให้ ชื่อที่ชอบตั้งกันมากคือ ชีเวส และ โรสซี่ ก็คงคล้ายๆกับนังแจ๋วของบ้านเรานะครับ สำหรับหุ่นยนต์ที่มีความฉลาดในระดับสูงสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ ผลการศึกษาพบว่าเพียงแค่หุ่นยนต์เลียนบุคลิกเล็กน้อยในการวางตัวตามรูปแบบของสังคมมนุษย์ ก็มีส่วนสำคัญทำให้มนุษย์ให้การยอมรับและสบายใจที่จะอยู่ร่วมกับหุ่นยนต์แล้วครับ แทนที่จะยื่นแข็งทื่ออย่างเดียว หากมีการเลิกคิ้วเมื่อตื่นเต้นหรือเอียงหัวนิดหน่อยขณะคิด หุ่นยนต์ตัวนั้นก็อาจจะชนะใจมนุษย์ที่คุยด้วยอยู่ข้างๆแล้วละครับ แม้แต่ตัวผมเองเมื่อคุยกับใครแล้วเขาไม่ยอมมองสบตาผม บางครั้งจะฉุกใจสงสัยคิดว่าเขาจริงใจหรือกำลัง อำ ผมอยู่หรือเปล่า? แน่นอนว่าเราสามารถบูรณาการบุคลิกจริงจังและจริงใจด้วยการ มองสบตาคู่สนทนา เข้าไปในหุ่นยนต์อย่างง่ายดาย เนื่องจากเทคโนโลยีเรื่องกล้องและภาพดิจิตอลก้าวไปใกล้มาก ลูกศิษย์ผมเพิ่งได้ออกแบบระบบ ตาดิจิตอล ทำให้หุ่นยนต์สามารถจับชิ้นงานที่มีความคลาดเคลื่อนละเอียดมากๆในขบวนการผลิตหัวอ่านฮาร์ดดิสค์ ดังนั้นตาหุ่นยนต์จึงจับจ้องถึง เรตินา ตาของมนุษย์คู่สนทนาได้อย่างไม่ลดละเลย ซึ่งก็จะสุดโต่งไปอีกทางเพราะอาจจะทำให้มนุษย์เกิดอาการกลัวขึ้นมาได้
อาซิโมรุ่นล่าสุดสามารถบันทึกข้อมูลหน้าตาของแขกผู้มาเยือนและจดจำไว้ในสมองดิจิตอลได้ถึง 200 คน การบันทึกนี้อาศัยการคำนวณระยะห่างตำแหน่งสำคัญบนใบหน้า (Feature) หุ่นยนต์ตัวอื่นๆตรวจสอบแม้กระทั่งสีผิว เมื่อปรากฏว่าหน้าตานี้ไม่มีอยู่ในฐานข้อมูล หุ่นยนต์ก็จะถามชื่อเก็บไว้ใช้ในการทักทายครั้งต่อไป
นายฮาร์ทวิก โฮลซาพฟีล นักวิทยาการคอมพิวเตอร์อีกท่านหนึ่งที่มหาวิทยาลัยคาร์ลซรูห์ ประเทศเยอรมันนี ได้เพิ่มเติมฟั่งชั่นการโต้ตอบพื้นฐานชื่อ Armar-3 เข้าในฮิวแมนนอยด์ ขั้นต่อไปที่ท้าทายสำหรับเขาคือการทำให้หุ่นยนต์เข้าใจคำสั่งมนุษย์ ขบวนการแปลความหมายเริ่มจากที่ระบบจับคำพูด (Speech Recognition) แล้วนำคำที่ความออกมาไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในสมองกล หากค้นหาหรือเทียบแล้วไม่เจอ หุ่นยนต์ก็จะถามซ้ำเพื่อความชัดเจน หากหาคำเจอ ขบวนการจะเข้าสู่แอลกอริทึมที่ได้เขียนไว้ล่วงหน้า เทคนิคที่ใช้นั้นต้องพยายามแตกย่อยแอคชั่นต่างๆลงสู่ระดับพื้นฐาน แล้วใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการประสานแอคชั่นนั้นๆให้สอดคล้องกับคำสั่งที่ได้รับมา
ผมเริ่มทำวิจัยเรื่องใช้หุ่นยนต์เพื่อรักษาผู้ป่วยเด็กออทิสติกส์และเพิ่งได้พบกับ ดร. ชิบาตา ผู้สร้างหุ่นยนต์พาโร (Paro) แม้จะไม่ใช่ฮิวแมนนอยด์ แต่พาโรสามารถตอบสนองอย่างซับซ้อนต่อการสัมผัสของมนุษย์ ดร. ชิบาตา ใช้แอลกอริทึ่มเรียนรู้ด้วยตนเองแบบ Reinforcement Learning ในการกำหนดแอคชั่นต่างๆของพาโร
การเปรียบเทียบคำที่นายฮาร์ทวิกทำอยู่นั้น ไม่น่าจะทำให้หุ่นยนต์พัฒนาการ ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ถึงขั้นสูงสุดได้ กลุ่มนักวิจัยที่มีเดียแลปแห่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งมลรัฐแมสซาซูเซสต์ หรือ เอ็มไอที นำโดยนายเดบ รอยกำลัง
ฝึกหุ่นยนต์ของพวกเขาที่ชื่อ ทริสค์ ให้ทราบความหมายของคำมากไปกว่าสิ่งที่ได้บันทึกไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่นขณะที่สอนคำว่า น้ำหนัก แก่สมองของทริสค์นั้น จะให้กลไกแขนขาในตัวทริสค์ทดลองยกน้ำหนักไปด้วย ทริสค์จึงรู้ซึ้งถึงความหมายของคำนี้จากประสบการณ์ตนเอง
อย่าเชื่ออะไร หากไม่ได้ปฏิบัติแล้วรู้เอง เป็นเงื่อนไขสำคัญในการสอนหุ่นยนต์ยุคใหม่ เช่นเดียวกันผมมักจะแนะนำลูกศิษย์นักสร้างหุ่นยนต์เสมอว่า:
เชื่อคำสั่งสอนของอาจารย์ต้องอาศัยศรัทธาครั้นตนได้ทดลองดูด้วยตนเองจนบรรลุผลจริงก็เชื่อตนนั่นแหละ เป็นตัวศรัทธาแท้ ถ้ายังอาศัยเชื่อแต่บุคคลอื่นรวมทั้งอาจารย์ก็ยังไม่นับว่าเป็น ศิษย์ฟีโบ้ อย่างแท้จริง
รู้จักผู้เขียน ภายหลังจบการศึกษา ดร. ชิต ได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี และเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม ฟีโบ้ (FIBO) เป็นหน่วยงานหนึ่งในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี เพื่อทำงานวิจัยพื้นฐาน และประยุกต์ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ตลอดจนให้คำปรึกษาหน่วยงานรัฐบาล เอกชน และบริษัทข้ามชาติ (Multi-national companies) ในประเทศไทยด้านการลงทุนทางเทคโนโลยี การใช้งานเทคโนโลยีอัตโนมัติชั้นสูง และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ |
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที