มานพ

ผู้เขียน : มานพ

อัพเดท: 15 ส.ค. 2009 10.07 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1902575 ครั้ง

การเดินทางของมนุษย์จะต้องมีแผนที่ การสร้างตึก สร้างบ้าน จะต้องมีพิมพ์เขียว การทำธุรกิจเช่นกันจะต้องมีแผน แผนที่ว่านี้คือแผนธุรกิจ เพื่อความสำเร็จและขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน หรือเวลาที่ท่านต้องการหุ้นส่วน เพื่อให้เขาเหล่านั้นเชื่อว่าการทำธุรกิจของท่านมีความน่าเชื่อถือเพียงใด มิใช่พูดแค่ลมปาก แต่เป็นจริงได้ ที่สำคัญชาวบ้าน ที่จะทำธุรกิจ ไม่มีรู้ความสามารถที่จะเขียนแผนธุรกิจได้ เพราะจะต้องอาศัยพื้นฐานความรู้ความเชียวชาญในระดับหนึ่ง จึงจะสามารถเขียนขึ้นมาได้ บทความนี้ จะเขียนขึ้นอย่างง่าย ๆ สำหรับคนที่จะทำธุรกิจแต่ไม่มีพื้นฐานความรู้ ขาดความเชี่ยวชาญ ในการทำจัดทำแผนธุรกิจ และไม่เชียวชาญในการประกอบการธุรกิจ


Five Force Model Analysis

การวิเคราะห์แรงผลัดดันทั้ง  5   ที่มีต่อธุรกิจ
       ในการดำเนินธุรกิจทุกประเภท  มีอีกการวิเคราะห์ที่ผู้ประกอบการจะต้องแสดงในแผนธุรกิจ  การเขียนแผนธุรกิจส่วนมากมองข้ามเรื่องนี้ไป  เพราะไปเน้นเรื่อง  การวิเคราะห์  SWOT  กันมาก  ที่จริงแล้วการแข่งขันเป็นเรื่องของการตลาด  การแข่งขันจึงเป็นแกนกลางที่เป็นลักษณะเด่นชัดของธุรกิจ ซึ่งเป็นตัวชี้เป็นชี้ตาย  แก่ผู้ประกอบการ 
        แรงผลักดันทั้ง  5  มี
  1.การแข่งขันในปัจจุบัน
  2.อำนาจต่อรองจากลูกค้า
  3.อำนาจต่อรองจากผู้ส่งมอบ
  4.ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน
  5.ภัยคุกคามจากคู่แข่งรายใหม่
          จะเห็นว่าทั้ง  5  ปัจจัยมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ  หากผู้ประกอบการเพี่ยงพล้ำเสียที  เกิดถูกปัจจัยใด  เข้าโจมตีจะเกิดปัญหาต่อการดำเนินกิจการ  กล่าวคือ   
          1.  การแข่งขันในปัจจุบัน  เรื่องที่จะต้องเป็นปัญหาของนักการตลาดทุกสมัยและเรื่องของการแข่งขันนี้เอง  แผนธุรกิจที่ผู้ประกอบการเขียนจะต้องแสดงจำนวนส่วนครองตลาด  หรือ  จำนวนลูกค้าที่เป็นลูกค้าเรามีร้อยละเท่าใดของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจประเภทเดียวกับเรา   สมมุติว่า  เราขาย  รถจักรยาน   พิจารณาลูกค้าทั้งหมดที่อยู่ในอาณาบริเวณที่สามารถมาซื้อรถจักรยานกับร้านค้าเราและคู่แข่งว่ามีกี่ราย  เราเรียกส่วนนี้ว่าขนาดตลาด  และส่วนของลูกค้าส่วนที่เป็นลูกค้าที่มาอุดหนุนกิจการของเราอยู่เป็นประจำลูกค้าส่วนนี้เป็นของเราเรียกว่า  ส่วนครองตลาด  นั่นเอง
          2.  อำนาจต่อรองจากลูกค้า  ลูกค้าที่ว่านี้เป็นแรงผลักดันที่มีผลในระยะยาว  เพราะลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการกับเราจะต่อรองเพื่อจะซื้อสินค้าในราคาถูก  โดยการซื้อเป็นจำนวนมากเพื่อขอราคาต่ำ  เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนเวลานำสินค้าที่ซื้อมาจากเราขายต่อให้ลูกค้ารายย่อยอีกที  และสามารถขายได้ถูกกว่าคู่แข่ง  ขออนุญาติยกตัวอย่าง  ห้างค้าปลีกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่าง  ห้าง   TESCO   Lotus   หรือโมเดลเทรด  หรือที่เรียกว่าห้างค้าปลีกรายใหญ่อื่น  ๆ  มักใช้วิธีการนี้  เพื่อขอซื้อราคาถูก  และลดกระหน่ำ ซ้ำโชว์ห่วยจนล้มหายตายจากมารายหลายแล้วมาหลายรายแล้ว  จะเห็นได้ว่า    การที่ลูกค้าขอซื้อสินค้าจำนวนมากจากเรา  และมีการขอต่อรองว่าจะซื้อกับเราตลอดไป  การต่อรองเช่นนี้จะสามารถ  สร้างอำนาจต่อรองได้อย่างดี  จนบางครั้งเราอาจลดเท่าทุนพอดีเพื่อเราสามารถผลิตได้จำนวนมาก  เพื่อสร้าง  Economic  of  Scales    ความประหยัดอันเนื่องมาจากขนาด  กล่าวคือเราผลิตครั้งละมากมาก  และขายได้ทั้งหมด  เราสามารถลดค่าวัตถุดิบเพื่อผลิตสามารถต่อรองหรือรับซื้อวัตถุดิบในราคาถูกเพื่อการผลิตให้  TESCO   Lotus   หรือโมเดลเทรด  หรือที่เรียกว่าห้างค้าปลีกรายใหญ่อื่น  ๆ  ไปขายประชาชนอีกที  หรือเขาอาจจ้างเราผลิตโยใช้ตราเขาเองเลย   ตามที่เห็น  ปลากระป๋อง  ข้าวสาร  ถั่วอบกระทิ    ปากกา  และเครื่องใช้  ตรา  TESCO   นี่ละ  คืออำนาจต่อรองจากลูกค้าแต่ผู้ประกอบการจะต้องมี  ระบบการผลิตที่มีคุณภาพตามที่ห้างคุณภาพ อย่างโมเดลเทรด  ทีกล่าวมานี้ยอมรับได้  และเป็นผู้ประกอบการผลิตรายใหญ่พอ  
ส่วนอีกสามข้อโปรดติดตามตอนต่อไป                

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที