แผนการตลาดเป็น สิ่งที่กำหนดการดำเนินการทางด้านตลาดของธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อมกล่าวได้ว่าเป็นการกำหนดความอยู่รอดและ อยู่ได้ตลอดจนเป็นแนวทางของความเจริญทางธุรกิจหากไม่มีแผนการตลาด ธุรกิจจะขาดแนวทางในการปฏิบัติทางการตลาดจะส่งผลกระทบด้านต่างๆ ตามมา เช่นผลกระทบด้านการเงิน การผลิต ระบบการจัดการธุรกิจ กล่าวคือเมื่อสินค้าขายไม่ได้ก็ขาดเงินมาหมุนเวียนในกิจการ การผลิตสินค้าก็ไม่สามารถทำต่อเนื่องได้เช่นกันการดำเนินธุรกิจจะไม่เป็นไปตามระบบ เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าแผนการตลาดเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ
แผนการตลาดเป็นส่วนที่สรุปใจความสำคัญ ๆ ของแผนธุรกิจทั้งหมด อีกทั้งแผนการตลาดยังเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจเป็นตัวสะท้อนถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจ เพื่อความเด่นชัดควรกำหนดแผนการตลาด ให้ละเอียดถี่ถ้วน นอกจากนั้นแล้วแผนการตลาดเป็นการอธิบายให้ผู้ที่มีส่วนได้เสีย ดังนั้นแผนการตลาดควรมี สินค้าหรือบริการ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จุดแข็ง โอกาส จุดอ่อนและอุปสรรคของธุรกิจขนาดย่อมที่กำลังจะทำ นโยบาย กลยุทธ์ กลวิธีที่ดำเนินสู่เป้าหมายทางการตลาด ตลอดจนการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดย่อมควรตระหนักและให้ความสำคัญของแผนการตลาดมากที่สุดเพราะ เป็นการหาลูกค้าเพื่อกิจการ การเขียนแผนการตลาดควรที่จะเขียนแบบตรงไปตรงมา ไม่คลุมเครือ บอกจุดแข็งจุดอ่อนอย่างชัดเจนและแผนสำรองหากเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น เพื่อแสดงความจริงใจแก่ผู้ร่วมลงทุนและการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
หลังจากเราได้ตัดสินใจว่าจะอยู่ในธุรกิจใดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเริ่มวิเคราะห์เกี่ยวกับการตลาด กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พฤติกรรมการบริโภคและแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต แผนการตลาดจะช่วยให้ทราบว่าลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใดที่จะซื้อสินค้าจากกิจการตลอดจนทราบปริมาณการซื้อ สรุปออกมาเป็นเป้าหมายทั้งนี้ควรกำหนดตัวเลขออกมาให้ชัดเจนอย่างมีหลักการ
ความสำเร็จทางการตลาดสามารถเริ่มจากผู้ประกอบการ ซึ่งจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ขาย การตลาด การขาย ลูกค้า และคู่แข่งขัน ก่อนที่จะทำการวางแผนการผลิต พิจารณาปริมาณการซื้อขึ้นกับฤดูกาลหรือไม่และที่สำคัญจะต้องทราบปริมาณของกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นลูกค้าของกิจการในอนาคต แหล่งที่สามารถให้ข้อมูลทางการตลาดนอกเหนือจากการทำวิจัยแล้ว ยังมีหน่วยงานราชการ และหน่วยงานอิสระ เช่น กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ หอการค้าจังหวัด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานวิจัยด้านการตลาดและการลงทุน สมาคมต่างๆ รวมถึงเอกสารในห้องสมุดของสถาบันการศึกษา เป็นต้น ข้อมูลการสำรวจประชากรสามารถแสดงตัวเลข อายุ อุปนิสัย สามารถทำการพยากรณ์กำลังการซื้อในแต่ละพื้นที่ได้
นอกจากนี้ตัวเลขการ นำเข้า-ส่งออกโดยกรมศุลกากร และกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ทำให้เราทราบถึงแนวโน้มของตลาดสินค้าต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม สำหรับหน่วยงานในระดับจังหวัด เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานจังหวัดเกษตรจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ก็เป็นแหล่งข้อมูลทางการตลาดที่สำคัญเช่นกัน
สำหรับในการเขียนแผนการตลาด มีหลายหน่วยงานที่แสดงรายละเอียดไว้แตกต่างกัน แต่ข้อมูลที่จำเป็นจะต้องมีในแผนการตลาด คือ
v สินค้าและบริการ (Products and Service) กล่าวถึงว่าการวางตำแหน่ง (Positioning) ของสินค้าหรือบริการว่าอยู่ตําแหน่งราคาใด จับตลาดเปาหมายลูกค้าระดับใด การสร้างภาพลักษณ์ที่มีระดับในใจของลูกค้า
v ทราบลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทั้งเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อธิบายถึงลักษณะทางการตลาด กลุ่มลูกค้าหลัก การวางแผนการเข้าถึงลูกค้า การสร้างความพึงพอใจ
v กำหนดขอบเขตธุรกิจหรือขอบเขตการตลาด (Market Size)
v การแบ่งส่วนตลาด (Market Segmentation)
v การกําหนด กลยุทธ กลวิธีทางการตลาดและกิจกรรมทางการตลาด
ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของธุรกิจ รวมถึงขีดความสามารถทางการแข่งขันของตัวผลิตภัณฑ์
และความได้เปรียบต่อคู่แข่งขัน ภาพรวมของตลาด ช่องทางการจัดจําหน่าย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที