ตอนที่ 1 บทบาทของผู้บริหาร
ผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำจะทำให้ผู้ตามปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเต็มใจถือเป็นเพราะบุคลิกลักษณะพิเศษประการหนึ่ง คือผู้บริหารที่มีภาวะผู้น้ำจะไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่ว่าที่มาของผู้ตามหรือเพื่อนร่วมงานจะเป็นอย่างไร ไม่แยกเขาแยกเรา ดังคำกล่าวของ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่ว่า ไม่ว่าแมวสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้เป็นใช้ได้ ความลำบากใจของผู้บริหารจึงอยู่ที่จะกำกับดูแลให้คนของตนเองไม่ไปรังแกคนอื่น โดยอ้างอำนาจนายได้อย่างไร ผู้บริหารที่ไม่มีภาวะผู้นำนอกจากไม่กำกับดูแลแล้วยังไม่ท้ายอีกต่างหาก
ในทางปฎิบัติที่เป็นจริง การที่ผู้บริหารไม่ไว้ใจคนในองค์กรที่มีอยู่เท่ากับผู้บริหารไม่ไว้ใจผู้อื่น สิ่งที่ได้คือคนอื่นก็ไม่ไว้วางใจผู้บริหารเป็นการตอบแทนเช่นกัน ตามหลักกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาหรือหลักฟิสิกส์ คือปฏิกิริยา Action เท่ากับ Reaction ความคิดไม่ไว้วางใจใครจึงเป็นจุดเริ่มของการขาดภาวะความเป็นผู้นำแต่นี้เป็นต้นไป
การจะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จผู้บริหารต้องมีภาวะผู้นำ ซึ่งปฏิเสธมิได้เช่นกันว่าผู้บริหารในเมืองไทยโดยเฉพาะในองค์กรของรัฐ ผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำในความหมายของสากลหาได้ยาก อย่างไรก็ดี การศึกษาเรียนรู้ภาวะผู้นำอาจช่วยให้ผู้บริหารฉุกคิดได้เช่นกันว่า ถ้าตนเองได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจะต้องเข้าใจปัจจัยพื้นฐานของความมีภาวะผู้นำ อย่างน้อยเป็นการเตือนสติหรือชี้นำแนวทางในการบริหารจัดการองค์กรไปในทิศทางที่พึงปรารถนาขององค์กร โดยทั่วไปผู้บริหารควรมีลักษณะบทบาทต่อไปนี้
1. วางเงื่อนไขและจัดการคนในกลุ่ม ฝ่ายงาน ส่วนงาน ให้ปฎิบัติตาม
2. สร้างวิธีคิด วิธีสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
3. ชอบแก้ไขปัญหา อาสาแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางพฤตินัย นิตินัยและ / หรือการปฏิบัติงาน
4. กำหนดทิศทางขององค์กร กำหนดวัตถุประสงค์ของฝ่ายงานส่วนงานที่สอดคล้องกับทิศทางขององค์กร
5. เป็นผู้จัดการทรัพยากรขององค์กรในการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรให้บรรลุเป้าหมาย
6. กำหนดงาน กิจกรรมกระบวนการปฏิบัติที่ดีที่สุด (Optimal Mean)
7. มีบทบาทต่อการตัดสินใจขององค์กร
8. กำกับให้มีการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง การติดตามประเมินผลและเข้าไปแก้ปัญหาเมื่อเกิดปัญหาในการปฏิบัติงาน
9. มีทักษะและความช่ำชองในการปฏิบัติงาน ดังนั้น ต้องมีความรู้ในศาสตร์บริหาร
10. คิดและปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่องและแสวงหาโอกาสที่จะพัฒนางานขององค์กร ฝ่ายงาน ส่วนงาน หรือหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ
11. จูงใจและกระตุ้นส่งเสริมพนักงานให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
12. เป็นผู้นำในการทำงานให้ผู้อื่นได้เอาแบบอย่างและร่วมกันทำงานอย่างมีประสิทธิผล
13. สามารถประสานงาน ประสานแผนและประสานงานกับองค์กรอื่นได้ดี
14. มีคุณธรรมของผู้บริหาร คือมีพรหมวิหารสี่ ได้แก่ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ลักษณะบทบาททั้ง 14 บทบาท เป็นปัจจัยบ่งชี้ภาวะผู้นำได้เป็นอย่างดี และมิได้หมายความว่าผู้นำจะมีลักษณะบทบาทอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น อาจมีหลายลักษณะบทบาทผสมผสานมากน้อยขึ้นอยู่กับผู้นำแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังหมายถึงระดับของภาวะผู้นำที่ดีอาจจะประกอบด้วยบุคลิกลักษณะหลายบทบาทอยู่ในตัวคนๆ เดียวในลัษณะของความเข้มข้นต่างกันด้วย กล่าวคือมิได้หมายความว่าผู้บริหารมีบทบาทครบทั้ง 14 บทบาทจะเป็นผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำเหมือนกัน ยังต้องดูองค์ประกอบหรือปัจจัยอื่นที่ก่อให้เกิดบทบาทดังกล่าวข้างต้นอาจมีไม่เท่ากัน
ภาวะผู้นำและการบริหารจัดการ
ภาวะผู้นำและการบริหารจัดการ (Leadership & Management) ดังที่กล่าวข้างต้น จะเกิดสิ่งที่ตามมาจากภาวะผู้นำ คือประโยชน์ที่องค์กรต้งการให้ผู้นำใช้ภาวะผู้นำ ผลักดันให้กิจกรรมการบริหารจัดการองค์กรพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน สิ่งนั้นคือ
<... กรุณาอ่านต่อ ตอนที่ 2 ครับ>
ขอขอบคุณ : บทความดี ๆ จาก วารสาร For Quality
*บทความนี้ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่จากสำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักพิมพ์ ส.ส.ท.
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : ตอนที่ 1 บทบาทของผู้บริหาร