ทำเนียบเพื่อนรัก
ฉันไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะๆ ฉันไม่ชอบที่ที่มีเสียงดัง
ฉันไม่ชอบให้ใครตำหนิและขัดใจ ฉันไม่ชอบสังสรรค์แบบเป็นกลุ่ม
ฉันชอบที่จะไปไหนกันสองคน ฉันชอบที่เงียบๆโล่งๆอากาศถ่ายเทได้ดี
ฉันไม่ชอบให้ใครก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
ฉันจะเล่าให้ฟังเองโดยไม่ปิดบังเมื่อถึงเวลา ฉันมีความจริงใจให้ทุกคน
ฉันชอบแสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องต่างๆ มีคนจำนวนมากที่ชอบคุยและอยากคุยกับฉัน เพื่อให้ฉันแสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องของเขา รวมทั้งให้ชี้แนะว่าเขาควรทำหรือตัดสินใจอย่างไรต่อเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา ฉันเบื่อบางคนเหมือนกันที่ชอบโทรมาหาฉันเพื่อที่จะพูดคุยแต่เรื่องของตัวเองแล้วก็ถามความคิดเห็นและให้ฉันวิเคราะห์วิจารณ์ ชี้แนะ ฉันมีเพื่อนมากด้วยเหตุผลที่ว่าฉันชอบไปสองคนซึ่งมันทำให้สนิทกันได้เร็วและลึกซึ้งจากการได้พูดคุยเรื่องส่วนตัวของกันและกัน ฉันค่อนข้างที่จะเป็นคนเลือกคบคน...
ตอนเรียนป.โท ฉันได้รู้จักเพื่อนสองคน
คนหนึ่งสนิทมากเพราะเราคุยกันถูกคอ-สนุก และ เขาก็ปลื้มฉันมากในเรื่องที่ฉันเป็นคนที่รักษาเวลาได้ดี ในขณะเดียวกัน เพื่อนอีกคนที่ฉันรู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกพบเพราะเขามีรูปร่างและบุคคลิกที่ดูดี ฉันกลับเริ่มที่จะไม่ชอบเพราะเขาชอบที่จะถามฉันถึงเรื่องส่วนตัวต่างๆ และดูเหมือนว่าเขาไม่ค่อยรู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด เมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะ ฉันกับเพื่อนคนแรกก็เริ่มผิดใจกันเพียงแค่ ฉันไม่บอกเขาว่าฉันได้เกรดอะไรในวิชานั้นและต่อมาฉันก็ชอบตำหนิเขาในเรื่องต่างๆ จนกระทั่งจากคนเคยปลื้มก็ไม่ถูกปลื้มแล้ว และ ฉันเองก็เริ่มหมั่นไส้ที่เขาไม่ค่อยรักษาเวลาและชอบทำตัวยุ่งเสมอๆ ในที่สุดความสัมพันธ์ก็เป็นเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนอีกคน ฉันเริ่มสงสัย ทำไมเขาจะต้องมานัดเราสองคนไปถ่ายรูปรับปริญญาในสตูดิโอ เขาบอกว่า เพื่อนเป็นที่ระลึกสำหรับเราสามคน ฉันรู้สึกเฉยๆแต่ก็ไปให้เพราะท่าทางเขาอยากได้ภาพ "เราสามคน" มาก พวกเราถ่ายกันหลายเทค หลังจากที่ได้ภาพเขายังอัดภาพเล็ก "เราสามคน" มาให้เป็นขนาดพกพา และตัวเขาเองก็พกพา ฉันรู้สึกเฉยๆ...หลังจากเรียนจบเขายังเป็นคนนำกลุ่มที่จะนัดทานข้าวเป็นระยะๆเพื่อรักษาความสัมพันธ์และมิตรภาพเอาไว้ ยิ่งเขาแสดงออกถึงความรักและความอยากมีมิตรภาพที่ดีมากเท่าไร ฉันยิ่งเห็นความแตกต่างในตัวเขากับเพื่อนคนแรกมากขึ้นทุกที ในขณะที่อีกคนพยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์แต่อีกคนก็ไม่เคยมาทันเวลาและมักจะทำตัวยุ่งเสมอ เช่น ถ้านัดทานข้าว1ทุ่ม เขาจะมาถึง2ทุ่มครึ่ง เมื่อมาถึงเขาก็จะขอเวลาไปโทรศัพท์เป็นระยะๆ หรือ ถ้านัดกันที่ห้างสรรพสินค้า เขาก็จะไปจ่ายค่าอะไรต่อมิอะไรจนเสร็จแล้วค่อยมา ฉันรู้สึกว่า เขาไม่มีเวลาให้เพื่อน ในขณะที่อีกคนพยายามที่จะแบ่งเวลาเพื่อมาพบเพื่อน เขาเสียสละที่จะรอ ฉันรู้ว่าเขาก็มีเวลาน้อยและยุ่งไม่ต่างกันหรอกสองคนนี้ ฉันทนไม่ได้ ก็เลยบอกไปว่า...ให้เขามีเวลาก่อนแล้วเราค่อยไปกับเขาดีไหม? ระยะนี้เราก็นัดกันสองคนก่อนแล้วกัน เพื่อนคนแรกเลยถูกตัดออกจากทำเนียบเพื่อนด้วย ไม่มีเวลาให้เพื่อน ไม่เห็นความสำคัญของเพื่อน ชอบมาช้า ไม่ยอมปรับปรุงตัว ไม่รู้ตัว มีอยู่วันหนึ่ง เขาไปเจอเราสองคนที่ร้านสุกี้MK เขามาทีหลังขณะที่เพื่อนของเขาทานไปได้ระยะหนึ่งแล้ว โต๊ะนั่งติดกัน เกิดการประจันหน้านิดหน่อย ฉันทำเก๊กไม่สนใจ ประโยคแรกที่เขาทักทายคือ..."มาสองคนด้วย" เพื่อนอีกคนก็เลยบอกว่า...พอดีเลิกงานโทรคุยกันว่างก็เลยมา เลยไม่ได้โทรไปชวน เอาไว้คราวหน้านัดกันนะ...ทำตัวให้ว่างหน่อยแล้วกัน
ฉันเริ่มเห็น...ความรัก ความเสียสละ และ การให้ความสำคัญต่อเพื่อนของเพื่อนคนที่สองนี้ ยิ่งนานวัน ยิ่งได้รู้ว่าเขาใส่ใจในรายละเอียด เขาใส่ใจในอารมณ์และความรู้สึกของเพื่อน เขามีน้ำใจต่อเพื่อน เขาไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เขาใส่ใจจนกระทั่งรู้ว่า...เมื่อไหร่ฉันต้องการเพื่อน...เขาไม่เคยตำหนิฉัน เขาไม่ได้ยอมรับทุกอย่างที่เป็นฉัน และ เขาพยายามชี้แนะให้ฉันเปลี่ยนและปรับตัวเองให้ในทางที่ดีขึ้นเช่น ชี้แนะให้รู้ว่า รักเป็นอะไร อภัยเป็นอย่างไร
เพื่อนที่ฉันรักคือ...เพื่อนที่เข้าใจฉัน รับรู้อารมณ์และความรู้สึกว่าฉันต้องการอะไร..มีเวลาให้กัน...ใส่ใจและห่วงใยกัน...
ฉันได้เรียนรู้ว่า...ฉันควรรู้จักที่จะให้บ้างไม่ใช่รอรับเพียงฝ่ายเดียว
และ เพื่อนคนนี้ก็ขึ้น "ทำเนียบเพื่อนรักของฉัน" อีกหนึ่งคน...
Welcome to be my best freind!.
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที