แม้ว่าดิฉันจะผ่านวัยที่เรียกว่า วัยรุ่น มาแล้วและกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว แต่อย่างไรก็ตาม ดิฉันก็ยังขอเกาะกระแสวัยรุ่นกับเขาก่อน ด้วยเพราะหน้าที่หนึ่งคือเป็นคุณครูสอนพิเศษให้กับเด็กนักเรียนมัธยมอยู่นั่นเอง
ทุกท่านคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันนี้ผู้ปกครองต่างก็ส่งบุตรหลานไปเรียนพิเศษโดยในแต่ละวันเด็กๆของเราต่างไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลยทีเดียว บางรายก็เกรงว่าถ้าเด็กว่างจะเอาเวลาที่ว่างนั้นไปเล่นเกม หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เสียการเรียน ซึ่งสำหรับคนวัยเกือบ 30 อย่างดิฉัน ก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันค่ะว่าเคยผ่านประสบการณ์การเรียนพิเศษอย่างหนักมาแล้ว
แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า เด็กไทยของเราในปัจจุบันมีวิธีการคลายเครียดระหว่างวัน หรือช่วงรอเรียนพิเศษอย่างไร แน่นอนค่ะ ดิฉันมักจะเห็นพวกเขาหยิบลูกบาศก์หลากสีแบบ 3 ´ 3 ´ 3 ช่อง ขนาดเหมาะมือออกมาจากกระเป๋าหนังสือ แล้วก็พยายามที่จะขยับหมุนลูกบาศก์ดังกล่าว ให้สีของแต่ละช่องแต่ละด้านเหมือนกันทั้ง 6 ด้าน มองแวบแรก ดิฉันรู้สึกได้เลยว่า แค่ลูกบาศก์ก้อนเดียวไม่น่าจะสนุกหรือให้สาระอะไร แต่ทำไมเด็กๆจึงตั้งใจกับการเล่นและมุ่งมั่นพยายามที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ จนบางครั้งถึงขนาดท้าชวนกันแข่งขันหมุนลูกบาศก์นี้
จึงเข้าไปซักถามได้ความว่า เจ้าสี่เหลี่ยมลูกบาศก์นี้มีชื่อเรียกค่ะว่า รูบิค และขอเด็กๆมาลองดู แต่แรกที่คิดว่า มันไม่น่าจะยากอะไร กลับต้องเปลี่ยนความคิดไปในทันที เพราะว่า มันไม่ใช่ง่ายๆเลย อาจเป็นเพราะดิฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆและไม่คิดว่าการเล่น รูบิค นี่จะต้องใช้หลักการอะไร
ดิฉันหันกลับไปมองหน้าเด็กนักเรียนของดิฉันอีกครั้งด้วยความฉงนว่า เด็กเหล่านี้ต้องใช้ทักษะและการฝึกหัดอย่างมากเลยทีเดียวกว่าจะเล่นได้แต่ละหน้า จนพาลคิดว่า เล่นจนเสียการเรียนหรือเปล่า แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีในการหมุน รูบิค นี้ บางคนบอกว่า ใช้จินตนาการ บางคนบอกว่า มีสูตรการเล่น
นั่นเอง จึงเป็นเหตุให้ดิฉันอยากจะขอชวนทุกท่านมาเกาะกระแสวัยรุ่นไทยไปกับของเล่น รูบิค เรามาทำความรู้จักของเล่นชิ้นนี้ เพื่อจะได้ In trend และเกาะติดกระแสของเล่นที่ไม่ไร้สาระของวัยรุ่นไทยกันค่ะ
ประวัติลูกบาศก์ของรูบิค นั้นถูกคิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1974 โดย เออร์โน รูบิค ประติมากร และ ศาสตราจารย์สถาปนิก ชาวฮังการี ผู้ซึ่งมีความสนใจในเรขาคณิต และ รูปทรงสามมิติ เออร์โนได้จดสิทธิบัตร HU170062 สิ่งประดิษฐ์ ในชื่อ "ลูกบาศก์มหัศจรรย์" (Magic Cube) ในปี ค.ศ. 1975 ที่ประเทศฮังการี แต่ไม่ได้ทำการจดสิทธิบัตรนานาชาติ ได้มีการผลิดชุดแรกเพื่อสำรวจตลาด ในปลายปี ค.ศ. 1977 โดยทำการจำหน่ายในร้านของเล่นในกรุงบูดาเปสต์
หลังจากนั้นลูกบาศก์ นี้ก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั่วทั้งประเทศฮังการี โดยการบอกเล่าปากต่อปาก วงการศึกษาในกลุ่มประเทศตะวันตก ก็เริ่มให้ความสนใจในลูกบาศก์นี้ ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1979 บริษัท ไอดีลทอยส์ (Ideal Toys) ได้ทำข้อตกลงเพื่อทำการจำหน่ายทั่วโลก และได้มีการเปิดตัวของลูกบาศก์นี้ในระดับนานาชาติที่ งานแสดงของเล่นที่กรุงลอนดอน นครนิวยอร์ก เมืองนูร์นแบร์ก และ กรุงปารีส ในช่วงต้นปีค.ศ. 1980 บริษัทไอดีลทอยส์ ได้เปลี่ยนชื่อของเล่นนี้เป็น "ลูกบาศก์ของรูบิค" (Rubik's Cube) และ ได้มีการส่งออกลูกบาศก์นี้จากประเทศฮังการีชุดแรกเพื่อการจำหน่าย ในเดือน พฤษภาคม ค.ศ. 1980
ชื่อ "ลูกบาศก์ของรูบิค" นั้นเป็นเครื่องหมายการค้า ของบริษัท "Seven Towns Limited" ดังนั้นบริษัทไอดีลทอยส์จึงลังเลที่จะผลิตของเล่นนี้ ในขณะนั้นจึงปรากฏของลอกเลียนแบบออกจำหน่าย ในปี ค.ศ. 1984 บริษัทไอดีลทอยส์ได้แพ้คดีการล่วงละเมิดสิทธิบัตรหมายเลข US3655201 ซึ่งฟ้องร้องโดย แลร์รี นิโคลส์ Larry Nichols ชาวญี่ปุ่นชื่อ อิชิกิ เทรุโตชิ (Terutoshi Ishigi) ได้ทำการจดสิทธิบัตรของเล่นที่มีลักษณะเกือบจะเหมือนกันกับลูกบาศก์ของรูบิค หมายเลข JP55-8192 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเวลาระหว่างที่สิทธิบัตรที่รูบิคขอนั้นกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ นายอิชิกิ จึงได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นการค้นพบซ้ำกัน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
