เทคนิคเลือก ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ให้ได้คุณภาพ
วิกูล โพธิ์นาง
๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๑
www.oknation.net/blog/wikulponang
บทนำ
เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
ต่างพรรค ต่างกลุ่ม ต่างคน ส่งคนของตนเอง หรือตนเอง ลงรับการเลือกตั้ง กันหลากหลาย ทำจริงบ้าง เล่นบ้าง
เสนอนโยบาย ทั้งเป็นไปได้ ดูจะเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ ดังที่เคยได้พิสูจน์มาแล้วในอดีต อย่าให้ความผิดหวังซ้ำรอย จะสูญเสียเวลา
อย่าให้ผู้สมัคร ใช้เทคนิคการเมืองการตลาดมาจูงใจ ประหนึ่งนโยบายลูกกวาดหลอกเด็ก
การรณรงค์ให้เลือกคนดีก็เป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนตระหนักรู้ว่าจะเลือกใคร
แต่บางครั้งก็สับสนว่าใครดีกว่า หรือเหมาะสมกว่า
ประเด็น
จึงควรมีเครื่องมือ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ว่าจะเลือกผู้รับสมัครคนใดเป็นเป็นผู้ว่า กทม.คนใหม่
ในที่นี้ได้นำเครื่องมือคุณภาพ (QC. TOOL) ของกิจกรรมคิวซีซี มาประยุกต์ใช้
จึงขอเรียกเทคนิคนี้ว่า เทคนิคเลือก ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ให้ได้คุณภาพ
เนื้อเรื่อง
ก่อนใช้เทคนิค ต้องมีข้อมูลเป็นพื้นฐาน พอสังเขป
ข้อมูลแวดล้อม
- รู้จักตัวผู้สมัคร โดยตั้งคำถามประกอบ (ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร เพราะอะไร )
- รู้จักพรรคของผู้สมัคร (เป็นคนของพรรคใด กลุ่มใด ใครสนับสนุน หรือใครมีอิทธิพลต่อเขา)
- ศึกษานโยบาย ( จากแผ่นพับ การปราศรัย จากการวิเคราะห์ของสื่อมวลชน)
วิเคราะห์นโยบาย
- ความเป็นไปได้ ที่จะนำนโยบายสู่การปฏิบัติ (ตัวผู้สมัคร และกลุ่มทำงานมีความรู้ ประสบการณ์ พอหรือไม่ ผู้สนับสนุนมีทัศนคติต่อเรื่องนั้นๆอย่างจริงจังหรือเปล่า)
- ความถี่ ของปัญหาที่เกิดขึ้น ตามที่ผู้สมัครได้ตั้งนโยบายมาเพื่อแก้ไข (โดยคิดเป็นระยะเวลาที่เท่าๆกัน ให้ถือปัญหาที่เกิดขึ้นประจำวันเป็นหลักว่าในแต่ละวันเกิดบ่อยหรือไม่ ถ้านานๆ ปีสองปีเกิดครั้งก็ให้เป็นความสำคัญรองๆลงไป)
- ความรุนแรง ของปัญหา ให้พิจารณาว่าถ้าไม่ดำเนินการในนโยบายนั้นจะทำให้เราเดือดร้อนมากหรือไม่ ถ้าไม่ ให้เป็นความสำคัญรองๆของเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเราและชุมชนรวมถึงกรุงเทพมหานครฯ
- ภาวะผู้นำ ผู้สมัครคนนั้น มีพื้นฐานการดำเนินชีวิต ครอบครัวเป็นที่เชิดหน้าชูตาในทางที่ดีของสังคมเพียงไร สามารถประสานงานกับส่วนงานต่างๆได้หรือไม่ เป็นต้น
- ทุจริตการเลือกตั้ง หรือไม่ ถ้ามีการทุจริตแม้แต่เล็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ทุกข้อที่ว่ามาแม้ดีเพียงใด หากทุจริตก็ให้เป็นโมฆะ (แต่ถ้าทุกคนมีการซื้อเสียงหมดก็ใช้ การวิเคราะห์ปกติ) ในที่นี้ จะใช้แบบปกติโดยถือว่าทุกคนทุจริตแตกต่างกันไป
ตัดสินใจเลือก
โดยการนำ ตารางในการเลือกปัญหาของการดำเนินกิจกรรม คิวซีซี (QC. TOOL) มาประยุกต์ใช้ ดังนี้ ตามตารางที่ ๑
ตารางที่ ๑ (ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร) | ||||||||||||||||||||||
ผู้สมัคร |
ความเป็นไปได้ |
ความถี่ |
ความรุนแรง |
ภาวะผู้นำ |
ทุจริตเลือกตั้ง |
รวม |
ลำดับ | |||||||||||||||
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ | |||
ก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
๑๒๘ |
๒ |
ข |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
๓๖ |
๓ |
ค |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
๑๙๒ |
๑ |
ง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
๙ |
๔ |
อธิบายตาราง
๑. ให้ทำแนวตั้งก่อน โดยเริ่มจาก ความเป็นไปได้ พิจารณาว่า ผู้สมัคร แต่ละคน คนใดควรได้เท่าใดระหว่าง ๑ ๒ ๓ ๔ (น้อย, พอใช้, ดี, ดีมาก) อย่าให้คะแนนเท่ากัน หากคิดอย่างไรก็เท่ากันก็อนุโลมได้ ตามตารางที่ ๑.๑
ตารางที่ ๑.๑ (ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร) | ||||||||||||||||||||||||
ผู้สมัคร |
ความเป็นไปได้ |
|
|
|
|
|
| |||||||||||||||||
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| ||||
ก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
ข |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
ค |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
ง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
๒. ทำตามข้อ (๑.) ไปให้ครบทุกสิ่งที่นำมาพิจารณา (สามารถมีมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้อยู่ที่จะสนใจเรื่องอะไร)
๓. รวมคะแนนตามแนวนอน โดยวิธีการคูณ เพื่อให้คะแนนออกมาแตกต่างกันเห็นได้ชัดกว่าการบวก ตามตารางที่ ๑.๒
ตารางที่ ๑.๒ (ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร) | ||||||||||||||||||||||
ผู้สมัคร |
ความเป็นไปได้ |
ความถี่ |
ความรุนแรง |
ภาวะผู้นำ |
ทุจริตเลือกตั้ง |
รวม |
ลำดับ | |||||||||||||||
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ |
๑ |
๒ |
๓ |
๔ | |||
ก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
๑๒๘ |
๒ |
(จากตารางที่ ๑.๒ หาค่าได้โดย ๔ x ๒ x ๒ x ๒ x ๔ = ๑๒๘)
๔. ทำให้ครบทุกข้อ ทุกคน จากนั้นก็รวมคะแนน โดยให้ผู้ที่ได้ผลรวมสูงสุดเป็นลำดับแรก ( ๑ ) เรียงลำดับไป
๕. หากคะแนนเท่ากัน ก็ให้หาข้อมูลเพื่อตัดสินใจว่าจะให้ใครคะแนนมากกว่า อาจมองว่าใครมีข้อดีอะไรอีก
๖. เมื่อได้ผลแล้วก็นำผลนี้ไปเป็นพื้นฐานการตัดสินใจเลือก จากตารางที่ ๑ ผู้สมัครที่ควรเลือกคือ (ค.) เพราะได้คะแนนสูงสุด
สรุป
ด้วยวิธีการดังกล่าว จะทำให้มีหลักคิด เพื่อประกอบการพิจารณาเชิงสถิติ ให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ อันจะทำให้การเข้าร่วมทางการเมือง ดำเนินไปด้วย พุทธิปัญญาการเมือง เพิ่มยิ่งขึ้น แนวทางนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการเลือกตั้งทุกระดับ หรือใช้พิจารณาเกี่ยวกับบางเรื่องในชีวิตประจำวันได้
หนึ่งคะแนนของคุณ อาจทำให้คนดีที่เหมาะสมได้ดำรงตำแหน่ง หรือพลาดโอกาสได้
////////////////////////////
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที