จากกระแส ที่จะมีการจัดตั้ง สหภาพข้าราชการ มูลเหตุจูงใจ มาจากความกลัว กลัวการถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกโยกย้าย ที่ข้าราชการประจำเข้าใจว่า โยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม
ถ้าข้าราชการประจำกลัวนักการเมืองแล้ว ก็พอจะเห็นทางแก้ไข เพราะโดยธรรมชาติของนักการเมืองนั้น เกรงกลัวประชาชนมากกว่าใครๆในแง่ของการได้มาซึ่งคะแนนเสียง
อะไรที่เป็นเหตุให้กระทบกระเทือนต่อฐานเสียงนั่นคือ ประชาชน นักการเมืองจะไม่ทำ หรือถ้าจำเป็นต้องทำ ก็พยายามหาทางหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
เมื่อประชาชน คือหัวใจของนักการเมือง ข้าราชการประจำต้องกุมหัวใจของนักการเมืองให้ได้ ถ้าจะให้ดีนำหัวใจนั้นมาเป็นหัวใจของตนเองเสียเลย
โดยยึดประชาชนเป็นหัวใจ เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ ทำหน่วยราชการและตัวข้าราชการให้มีศักดิ์ศรี และอำนาจ เพื่อประชาชน
ศักดิ์ศรี คือปฏิบัติให้สมกับเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณในอันที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับอาณาประชาราษฎร์ ทั้งนี้ก็เพื่อสนองต่อพระปฐมบรมราชโองการ
ที่พระองค์ทรงตรัสว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
อำนาจของข้าราชการ นอกจากอำนาจตามหน้าที่ อีกอำนาจหนึ่งต้องได้มาจากประชาชน การจะได้มาซึ่งอำนาจนั้นๆ ข้าราชการต้องมีความกล้าหาญ ความกล้าหาญองอาจ เกิดขึ้นได้ด้วยศีล ๕ อันเป็นคุณธรรมพื้นฐานของฆราวาส
อำนาจจะยั่งยืนต้องมีเสน่ห์เป็นที่ยึดเหนี่ยวผูกใจประชาชน ก็ด้วยการปฏิบัติธรรมที่เรียกว่าคาถามหาเสน่ห์นั่นคือ สังคหวัตถุ ๔ ได้แก่ ทาน (การให้) ปิยะวาจา (พูดจาไพเราะ) อัตถจริยา (ทำตนให้เป็นประโยชน์) สมานัตตา (ทำตนเสมอต้นเสมอปลาย)
เมื่อมีศีล ๕ และสังคหวัตถุ ๔ นั่นย่อมทำให้เกิดความรักความศรัทธา ความไว้เนื้อเชื่อใจ จุดนี้เองที่เป็นแหล่งที่มาของอำนาจเหนืออำนาจ และเป็นอำนาจอันบริสุทธิ์นั่นคือ อำนาจประชาชน
พร้อมกันนี้ข้าราชการประจำต้องลบภาพเก่าๆที่ยังติดตาติดใจประชาชนอยู่เสมอที่มองว่าข้าราชการปฏิบัติงาน เช้าชามเย็นชาม ทำตัวประหนึ่งเจ้าขุนมูลนาย เข้าหายาก กว่าจะได้เข้าหาก็พิธีการเยอะเหลือหลาย ทำนองที่พี่น้องภาคอีสานเรียกว่า ก้มหัวกุมหำ
แทนที่จะเข้าหาประชาชนเพื่อไปรับใช้ กลับนั่งอยู่ที่หอคอยให้ประชาชนก้มกราบเข้าไปหาด้วยความยากลำบากยิ่ง
การเข้าหาประชาชนของข้าราชการประจำนั้น ถือว่าทำได้ง่ายกว่านักการเมือง เพราะมีทรัพยากรและเครือข่ายงานที่ครอบคลุมพอที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนอยู่แล้วเพียงแต่นำมาใช้ให้เกิดประประสิทธิภาพประสิทธิผลเท่านั้นเอง รับรองว่าจะเป็นที่รักศรัทธาของทุกคนอย่างถ้วนทั่วเช่นกัน
หรือจะแข่งกับนักการเมืองก็ไม่มีกติกาใดห้ามถ้าการดำเนินการนั้นไม่ไปรับใช้นักการเมืองฝ่ายใด ผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับประชาชนอย่างมหาศาล การเวลาและผลงานก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าใครมีความจริงใจได้ด้วย
เมื่อข้าราชการเข้าไปนั่งอยู่ใน หัวใจของประชาชน ไม่ต้องโฆษณาความดีนั้นก็จะทวนลมหอมหวนไปถึงตรอกซอกซอยอย่างถ้วนทั่ว บัดนั้นย่อมเป็นที่รักของประชาชนอย่างไม่ต้องสงสัย
ครั้นถึงคราวที่ต้องเผชิญกับความไม่เป็นธรรม ประชาชนจะเป็นผู้ปกป้องรักษาข้าราชการดีๆที่เขารักและศรัทธาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น นักการเมืองหน้าไหนก็ไม่อาจกล้ามาแตะต้องถ้าจะดำเนินการด้วยความไม่เป็นธรรม ประชาชนคือเกราะคุ้มกันอย่างดีเพราะนี้คือ พลังประชาชน ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน
ถ้าถือว่าประชาชนเป็นศูนย์อำนาจ ก็จงใช้อำนาจนั้นถ่วงดุลกับนัการเมือง จะดีและยั่งยืนกว่า สหภาพข้าราชการ หลายเท่านัก
อำนาจที่มาจากประชาชน ข้าราชการประจำจะสร้างและรักษาไว้ได้ง่ายกว่านักการเมือง เพราะวิถีชีวิตของทุกคนต้องติดต่อกับส่วนราชการ ข้าราชการประจำก็จะอยู่กับกับประชาชนในระยาวและต่อเนื่อง ผิดกับนักการเมืองที่มาแล้วจากไปไม่จีรังยั่งยืน
อย่าตั้งเลยครับ สหภาพข้าราชการ หรือชื่ออื่นใดก็แล้วแต่ที่มีความมุ่งหมายคล้ายๆกัน ตราบใดที่ยังเข้าไปนั่งในหัวใจประชาชนไม่ได้ เพราะจะทำให้ตายเร็วขึ้น จะไม่ตายเดี่ยวเสียด้วย เพราะเริ่มเห็นลางสังหรณ์แล้วว่า นี่คือ โศกนาฏกรรม ตายหมู่ข้าราชการ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที