พอได้ยินคำว่า สหภาพ แน่นอนว่าหลายคนคิดทันทีถึงการ เรียกร้อง ประท้วง ปิดถนน เผา ปราบปราม บาดเจ็บ ฟ้องร้อง เงียบฯลฯ
ถ้ามีการจัดตั้งสหภาพขึ้น ณ ที่ใด ย่อมเป็นสิ่งบอกเหตุได้เช่นกันว่า ณ สถานที่แห่งนั้นอาจจะมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในการบริหารจัดการ หรืออาจจะมีแต่ก็ไม่เป็นที่มั่นใจได้ในระยะยาว จึงได้จัดตั้ง สหภาพ ขึ้นมาเป็นตัวถ่วงดุล
ในโลกนี้ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง มีดีมีชั่ว สหภาพก็มี สหภาพดี สหภาพชั่ว ได้เหมือนกัน สหภาพที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลกันระหว่างหมู่สมาชิกและอยู่กันอย่างสร้างสรรค์กับนายจ้าง ประเถทนี้ถือเป็น สหภาพดี ส่วน สหภาพชั่ว เป็นสหภาพที่ถูกยุแหย่จัดตั้งโดยหวังผลทางการเมืองเอะอะอะไรก็ ประท้วง เป็นสหภาพลักษณะไร้การศึกษา
เมื่อเร็วๆนี้ได้มีข่าวออกมาว่าข้าราชการจะจัดตั้ง สหภาพข้าราชการ นั่นก็ย่อมมีความเป็นไปได้ว่าในระบบราชการอาจยังไม่มีความเป็นธรรม หรือมีแต่ไม่เป็นที่แน่นอนมั่นใจว่าจะมั่นคงได้ยาวนานหรือไม่
สหภาพข้าราชการ หากไม่ถูกปรามจากรัฐบาลสมัคร ๑ เสียก่อน แม้นกำเนิดขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะเป็น สหภาพข้าราชการชั้นดี หรือ สหภาพข้าราชการชั้นเลว
จะดีหรือเลวก็ต้องดูว่าข้าราชการตั้งสหภาพมาเพื่อใคร เพื่อประชาชน แม้นมีสหภาพแล้วจะทำให้การบริหารราชการสามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง หรือ เพื่อตนเอง ถ้ามีสหภาพแล้วการเป็นข้าราชการแบบเช้าชามเย็นชามจะยังคงมั่นคงไม่มีใครมากล้าแตะไม่เว้นกระทั้งนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชาตน คำสั่งใดไม่ถูกใจเป็นต้องประท้วงหยุดงาน หรือเพื่อ ระบอบอำมาตยาธิปไตย อันมีข้าราชการเป็นใหญ่ในแผ่นดินกอบโกยกินบนภาษีราษฎรที่หยิบยื่นให้ด้วยความยากลำบากทั้งกายและใจ
แต่ดูเหมือน เพื่อตนเอง เพื่อระบอบอำมาตยาธิปไตย จะมีน้ำหนักมากกว่าเพราะเป็นลักษณะ รับไม้ จากการปฏิวัติ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ที่แฝงเร้นไว้ในรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ในมาตรตรา ๖๔ ความว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหภาพ สหพันธ์ สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร องค์การเอกชน องค์การพัฒนาเอกชน หรือหมู่คณะอื่น
ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐย่อมมีเสรีภาพในการรวมกลุ่มเช่นเดียว กับบุคคลทั่วไป แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน และความต่อเนื่องในการจัดทำบริการสาธารณะ ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ
การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งและวรรคสองจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อคุ้มครองประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน เพื่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันมิให้มีการผูกขาดตัดตอนในทางเศรษฐกิจ
จึงเป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ เริ่มมีอะไรที่พิสดารคาดไม่ถึงออกมาเป็นระยะ นี้หรือไม่ที่ระบอบ อำมาตยาธิปไตย ได้ว่างแผนกันไว้แล้วว่า รัฐอำมาตยาธิปไตย ต้องฟื้นคืนชีพโดยแบ่งกันตีแยกกันเดินแต่มีเป้าหมายเดียว ซึ่งก็เห็นอยู่แล้วว่าขณะนี้ได้แยกย้ายกันไปอยู่ทุกซอกทุกมุมอำนาจแล้ว
ยิ่งกรณีของ สหภาพข้าราชการ นี้ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่จะใช้ข้าราชการเป็นหนึ่งในยุทธวิธีที่จะไม่ฟังอำนาจนายกรัฐมนตรี นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นั่นคือ ประท้วง หยุดงาน และอีกสารพัดวิธีที่จะไม่ให้การบริหารบ้านเมืองของพรรครัฐบาลเป็นไปอย่างสะดวก เพราะอย่างไรเสียข้าราชการก็เป็นผู้นำนโยบายไปปฏิบัติ
การออกมาจุดกระแส สหภาพข้าราชการ จึงเป็นอีกมุขหนึ่งที่ยังมีอีกหลายๆมุขที่จะฟื้นระบอบอำมาตยาธิปไตย ข้าราชการคงรู้ดีว่าถ้าพรรคพลังประชาชน พรรคการเมืองอื่นๆที่จะมาปรับปรุงระบบข้าราชการยังแข็งแรงอยู่จะไม่มีวันเงยศีรษะได้
การจะไม่เกิด สหภาพข้าราชการ ก็เห็นจะมีทางเดียวคือพรรคการเมืองถูกยุบทุกพรรคเหลือพรรคเดียวที่เห็นดีเห็นงามกับการปฏิวัติรัฐประหาร
เมื่อพรรคการเมืองะอ่อนแอและตายไป กว่าจะเกิดใหม่กลุ่มข้าราชการก็สถาปนารัฐอำมาตยาธิปไตย ได้แข็งแรงแล้ว ระหว่างนั้นประชาชนพลเมืองชาวไทยก็คงเป็นได้แค่ ทาสข้าราชการ
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที