icykids

ผู้เขียน : icykids

อัพเดท: 07 พ.ค. 2008 15.49 น. บทความนี้มีผู้ชม: 22276 ครั้ง

ซีรีย์ "เสี้ยนทำธุรกิจ" จากคุณมิมิแพนด้า


บทที่ 2 ดำเนินการเปิดร้าน - ความลำบากของคนไม่เคย

ขอเชิญเพื่อนๆ  เข้าเล็คเชอร์  คลาสที่ 2 ได้เลยนะคะ
อย่าลืมจ่ายค่าเทอม  เป็น ความคิดเห็นสักหนึ่งจิ๊กเช่นเคยค่ะ

นี่คือที่มาของฉายานาม "มิมิแพนด้า" ค่ะ
มันคือสมุดที่ซื้อมาจดเกี่ยวกับร้านค่ะ

25369_mimipanda.jpg


บทที่ 2   ดำเนินการเปิดร้าน – ความลำบากของคนไม่เคย

กลางเดือน พฤษภาคม 2550 แรกเจอเจ้าของแฟรนไชส์ เรานัดกันที่ร้านต้นแบบของเขา เขาแต่งตัวเนี๊ยบมาก ยืนสูงสง่า เดินเยี้องย่างเข้ามาอย่างหมาป่าจ้องขม่ำลูกแกะเหมือนในฉากที่ จอร์จ (เพื่อนเกย์) เดินเยื้องย่างเข้ามาหา จูเลียโรเบิร์ต  ที่นั่งซึมอยู่ในฉากงานแต่งงาน my best friend wedding   พลางพูดว่า “บอนด์ ... เจมส์บอนด์”   
ว้ายยย ไปกันใหญ่แล้ว นี่คือหนังสือสาระ มิควรพล่ามแบบนี้ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าเขาให้เด็กตักโจ๊กมาให้ทาน ...อร่อย, คุณภาพดี.... นี่คือคุณภาพที่ตามหา

เริ่มแรกเราเสนอทำเลตลาดใกล้บ้านเรา เขาคอมเมนต์ว่าตลาดนั้นมีกำลังซื้อต่ำมาก (เป็นตลาดหน้ามหาลัย)ให้ขยับมาอีกหน่อย ( 8  กิโลเมตร แค่จิ๊บๆ สำหรับคนขับรถเอง) ทำเลนี้ดีมาก ๆ เดิมมีร้านแฟรนไชส์ของเขาอยู่ แต่ร้านนี้แอบเอาวัตถุดิบของตนเองมาผสม จึงยกเลิกสัญญาไปได้เพียงสองสัปดาห์ ร้านนี้ขายได้ถึง 4-5 แสนต่อเดือน   เป็นร้านที่มียอดขายอันดับสามของเขาเลยและบัดนี้  “คุณได้รับสิทธิ์นั้น  เดี๋ยวนี้” หากเราไปเปิดตรงนั้น แค่แชร์ยอดกันคนละครึ่งกับจ้าวเดิมกำไรก้อโอเคแล้ว ขายสองแสน หักต้นทุน 50% เช่า 15,000 แรง 15,000 โสหุ้ย 10,000 เหลือ 60,000สบาย เขาบอกว่า ลงทุนสัก120,000 น่าจะพอ ไปลองหาทำเลดูนะ คืนนั้น  เราเล่าให้สามีฟัง  และยังพึมพำว่า “เงินมันจะหาง่ายอย่างนี้เลยเหรอ???”

วันรุ่งขึ้น เราจึงขับรถมุ่งไปยังทำเล “สุขุมวิทร้อยเศษ”ทันที แล้วเดิน   เดินหาตึกห้องแถวที่เปิดให้เช่า  เดินจนค่ำ ปวดหัวไปหมด ตอนนั้นมีตึกเปิดเช่าเพียง 6 แห่ง  มีค่าเช่า 20,000-25,000 ไล่เลี่ยกัน จึงนัดหมายขอดูในตึก

วันรุ่งขึ้น เราก้อไปดูแต่ละตึก ตรรกะในการเลือกทำเลของเราคือหน้าร้านจอดรถได้ เราจะอธิบายถนนนี้ให้ฟัง คือ ถนนยาว 4 กิโลเมตร หัวถนนด้านสุขุมวิทมีตลาด 2 ฟากถนนเลย ขายของเยอะแยะ ปลายถนนด้านศรีนครินทร์มีฝูงร้านอาหารอีกกระจุกนึง ตลอดถนน มีอู่แท๊กซี่เยอะ  มีผับเลาท์ใหญ่น้อย  กระจัดกระจาย  และมีป.กุ้งเผาด้วย ถนนเส้นนี้ขนานบางนาตราด จึงใช้เป็นเส้นทางแวะกินก่อนออกชลบุรี

ตึกที่เข้าไปดู ส่วนมากจะว่างไว้นานแล้วโทรมมาก เราจึงเลือกตึกที่คิดว่า ซ่อมบำรุงน้อยที่สุด (เดาว่าสัก 30,000 คงพอ) เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 4 เมตร ลึก 12 เมตร มีด้านหน้าอีก 3 เมตร โดยให้เหตุผลแก่ตัวเองว่า ตึกนี้อยู่ตรงกึ่งกลางถนน (2 กม.จากสุขุมวิทและศรีนครินทร์) ถ้าไปขายรวมกับคนอื่นในตลาด จะต้องแย่งลูกค้ากัน จึงคิดว่าเปิดแยกจากคนอื่นมาดีกว่า (ซึ่งความคิดนี้เป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมากมาย จะอธิบายให้ฟังภายหลัง) และเราก้อเลือกตั้งร้านดักหน้าก่อนถึง”ร้านโจ๊กเมืองกรุง(นามสมมุติ)” ซึ่งเคยเป็นร้านแฟรนไชส์เดียวกันนี้ด้วย (ร้านที่เขาบอกว่า ขายได้ 4-5 แสนน่ะ)

ด้วยความใจร้อนเราจึงนัดทำสัญญากับเจ้าของตึก ในวันต่อมา ต่อรองราคา 16,000 ใน 3 เดือนแรก และ 18,000 ต่อมา โดยวางเงินประกันของเสียไว้ 3 เดือน และขอช่วง grace period 2 สัปดาห์ ซึ่งปลอดค่าเช่า ในการซ่อมตบแต่งร้าน สัญญานี้มีอายุ 2 ปี (ตอนแรกไม่เข้าใจความสำคัญของประโยคนี้) และเขียนบันทึกแนบท้ายสัญญาไว้ว่า “(1) ผู้เช่าได้วางเงินมัดจำเป็นเงินประกันแก่ผู้ให้แล้ว เป็นเงิน 50,000 บาท ณวันทำสัญญาโดยจะคืนให้แก่ผู้เช่าเมื่อเลิกสัญญาเช่าเต็มจำนวน” และ“(2) กรณีเลิกสัญญา ผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า ต้องแจ้งล่วงหน้า 2 เดือน”ด้วยความโชคดีจากลูกมั่วของตนเอง (ณ วันนั้นไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้) บันทึกแนบที่เขียนด้วยลายมือของเราเองนี้เป็นประโยชน์มาก เนื่องจาก...
โดยทั่วไป สัญญานี้มีอายุ 2 ปี หมายถึง หากเลิกเช่าก่อนครบสองปี ผู้เช่าจะไม่ได้รับเงินประกันคืน เมื่อเราคิดจะเลิกกิจการ เราจึงแจ้ง(เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ)ล่วงหน้า 2 เดือน ว่า จะเลิกสัญญา ณ วันที่XXXX ทำให้เราได้รับเงินประกัน 50,000 คืนครบจำนวน ขอบคุณพระเจ้าจริง ๆ เงินนี้มากพอจะไปแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นเล่นได้หนึ่งรอบพอดี

ต่อมา ก้อเรื่องหาผู้รับเหมามาซ่อมตกแต่งตึก...........
มองด้วยตา เราคิดว่างบประมาณคงไม่เกิน 30,000 บาท แต่หลังจากหาผู้รับเหมามาประเมินราคา 5 รายแล้ว ใช้งบ 80,000-120,000 บาท เราเลือกรายที่สนิทที่สุด และทำเท่าที่จำเป็นที่สุด ทำบันไดหน้าบ้าน(ปิดช่องตึกทรุด) 5,000 อันนี้ไม่อยากทำเลย แต่เจ้าของตึกขอร้อง ทาสีชั้นล่างและชั้นลอยด้วยสีเช็ดล้างได้ 23,000 เช็คและเดินระบบไฟฟ้า 13,000 (เรื่องนี้เราซีเรียส ไฟรั่วอาจตายได้) ซ่อมน้ำรั่ว  ฝ้าผุพัง  เดินน้ำประปา จิปาถะ (ผู้เช่าเดิม ถอดไปหมด ไม่มีลูกบิด, ประตู,ก๊อก โคมไฟ, มีแต่สายไฟรุงรังไปหมด ปล่อยปลายสายไฟไว้ด้วย) กำหนดเสร็จใน 7 วัน ซึ่งก้อตรงเวลาจริง ๆ รวมแล้วเสียเงินไป 65,000 บาท ค่าแฟรนไชส์และอุปกรณ์อีก 85,000 ซื้อพัดลม, ปั้มน้ำ,ซิงค์ล้างจาน,ที่วางจาน ฯลฯ  อีก 40,000 รวมเงินลงทุนรอบแรก   190,000 บาท เกินงบซะแล้วเรา

เรื่องนี้ขอเสริมว่า....  หากเพื่อนๆคนใด คิดจะค้าขาย แบบทำเอง(จ้างเด็กแค่ช่วยงาน) เพื่อนๆ ควรทดลองตลาด ด้วยการขายแบบแผงลอย หรือรถเข็นก่อน การลงทุนบนตึกของคนอื่น  เราถอดคืนไม่ได้ จึง ยากที่จะถอนทุนส่วนนี้คืนนะคะ

สิ่งที่กังวลต่อมา  คือ  พนักงาน
เมื่อคุณเปิดร้านใหม่ครั้งแรก ซึ่งคุณเองก้อไม่อยากบอกใครด้วย(เราเปิดร้านนี้ โดยบอกเพื่อนสนิทเพียง 5 คน ไม่บอกพ่อแม่พี่น้องด้วยซ้ำ) การจะหาพนักงาน ที่รับผิดชอบ ,ทำงานเป็น ,ไว้ใจได้(เพราะเราไม่อยู่เฝ้าร้าน) มันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ช่วงนั้น เราจะไปนั่งกินข้าวบนถนนนั้นทีละร้าน  แล้วสะกิดชวนเด็กในร้านให้มาทำกับเรา เราซีร๊อกซ์ ประกาศรับสมัครพนักงาน พร้อมอาหาร,ที่พักราว 200 ใบ เอาไปติดตามป้ายรถเมล์ ตู้โทรศัพท์ เสาไฟฟ้า เดินติดไปเรื่อยๆ กลางแดดอยู่สองวัน แต่เนื่องจากเขาไม่ให้ติด มีคนด่าตลอดทางติดแป๊ปนึง  ก้อมีคนดึงออก ท้ายสุด ก้อเหลือไม่กี่ใบ และหาคนไทยที่จะมาทำจริงไม่ได้เลย ท้อใจอย่างมากมาย

เมาท์เรื่องแย่ๆของการหาคนงานในช่วงนี้ให้ฟังนะ เช่น คนไทยหลายคน โทรมาสมัครงาน เราคุยเบื้องต้นแล้วนัดมาที่ร้าน เช่น นัดทุ่มนึง(นัดเผื่อหลายคนด้วยนะ) ทุกครั้ง เด็กพวกนี้ไม่มาเลย ปล่อยให้เราต้องมารอที่ร้าน เก้อ ในร้านที่ยังไม่มีพัดลม ยังไม่มีน้ำใช้ ปล่อยให้เรานั่งโดนยุงกัด  เหงื่อเยิ้ม ตัวเน่า เด็กสมัยนี้ไม่มีความรับผิดชอบและจิตสำนึกกันเลย คือถ้าไม่มา ก้อน่าจะบอกกัน จะได้ไม่เสียเวลา ลำบากมารอ(เราจึง อิน กับกระทู้จำพวกนี้ ที่นัดมาสัมภาษณ์ แต่ไม่มาไม่โทรบอก)

ซ้ำร้ายกว่านั้นโดนไอ้ตัวแสบมันแกล้งมันบอกว่าอยากมาทำงานมาก   แต่ไม่ชำนาญกรุงเทพฯขอให้เราไปเจอที่ร้านอาหารตามสั่งข้างหลังห้างฯ แถวนั้น เราตอนนั้น ยังไม่ประสีประสาก้อไปตามนัดนั่งรอเกือบชั่วโมง ก้อยังไม่มา โทรไปตาม ก้อไม่รับสาย ท้ายสุด รับสายขึ้นมา   บอกว่า “ฮัลโหล ฮัลโหล” แล้วสายตัดไป เรามองโลกในแง่ดีว่า อาจแบตหมดจึงนั่งรออีกสักครู่ อีก 20 นาที มันโทรมาพูดว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า โง่มานั่งรอ งี่เง่า” แล้ววางหู พร้อมปิดโทรศัพท์ไปเลย......(เคยอ่านเจอกระทู้ในสีลม  ที่มีคนขายตรง  โดนหลอกไปคอยเก้อแบบนี้ด้วย)
(ปล.  ผิดกับต่างด้าว เมื่อนัดหมาย เขาจะมารอก่อนเวลาด้วยค่ะ)

ใกล้วันเปิดแล้ว อีก 5 วัน ทำไงดี และแล้ว ก้อมีต่างด้าวลาวมาสมัครคนนึง เรารีบรับทันที ให้เข้าพักที่ตึกได้เลย เขาขอชวนเพื่อนมาได้ไหม เราโอเค วันรุ่งขึ้น ชวนมา 2 คน แล้ว 2 คนก้อชวนเพื่อนมาอีก และเพื่อนก้อชวนกันมาอีก เพียง 4 วัน เขาขยายตัวมาพักที่ตึกราว 20 คน  ต่างด้าวหญิงลาวล้วน เราจึงต้องบอกให้คนหลังๆไปซะ เหลือไว้ 6 คน โดยวางแผนจะใช้ 5 คน แบ่งเป็น 2กะ กะละ 2 คน บวกหัวหน้า 1 คน พวกนี้มาตัวเปล่า ทุกคนบอกไม่มีเงิน หิวข้าว เราต้องจ่ายค่าข้าวให้คนละ 50 บาท/วัน ปัญหานี้ติดตัวพนักงานทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาในร้านเลย ชีวิตพวกเขาไม่มีเงินเก็บ ยามพอมี ก้อไม่เคยวางแผนอนาคตตนเองเลย มือถือทำไมต้องใช้ ในเมื่อข้าวยังไม่มีจะกิน ระหว่างนั้นเราต้องส่งพวกเขาไปอบรมฝึกทำโจ๊ก 3 วัน และ ให้ทำความสะอาดร้าน  เตรียมเปิด

เนื่องด้วยแรงงานของเราเป็นต่างด้าวความกังวลก้อเกิดขึ้นต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทันทีสามีเรารีบติดต่อซื้อ กล้องวงจรปิด 5,900 บาท  หิ้วคอมพ์ไปวางที่ร้านเพื่อรองรับภาพไว้พร้อมสั่งทำตู้ไม้ที่บิวท์อิน สำหรับใส่ CPU  ล็อคตู้ ไม่ให้ใครเปิดได้ เสียอีก 2,000 โดยเราต้องรีบขอเบอร์โทรศัพท์บ้าน ,สมัครHi speed internet ทั้งที่บ้านและที่ร้าน เพื่อรองรับกล้องวงจรปิด ออนไลน์มาดูที่บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง เขาจะได้ดูเรา เวลาที่เราไปที่ร้านได้ตลอด ซึ่งสามารถเอาโน๊ตบุ๊คไปจิ้มดูผ่านเน็ตได้ทุกที่ คงเกรงว่าเราจะโดนจิ้มพุงชิงเงินไป ซึ่งทำให้เราดูแลร้านได้โดยไม่ต้องไปร้าน มีประโยชน์มากมาย เราก้อเลยเหมา true convergence โดยสมัคร true เบอร์บ้าน, true ไฮสปีด, true move พร้อม true vision จานแดงมาที่ร้านด้วย ค่าใช้จ่ายเริ่มบานปลายแล้ว ยังไม่ได้เปิดร้านเลย.........

โปรดติดตามตอนต่อไป......  บทที่ 3  ตื่นเต้นจัง   เมื่อเปิดร้านจริงจะเป็นยังไงหนอ

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของคุณ : มิมิแพนด้า 
http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/01/B6283496/B6283496.html
หมายเหตุทางเว็บไซต์ www.tpa.or.th ได้รับอนุญาติจากคุณมิมิแพนด้าในการนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทาน


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที