CXO.Asia

ผู้เขียน : CXO.Asia

อัพเดท: 12 ต.ค. 2006 18.57 น. บทความนี้มีผู้ชม: 4487 ครั้ง

ลองพิจารณา ว่าปัญหาพื้นฐาน ของชาติเรา คืออะไรกันแน่
จะเห็นว่า อย่างแรก ที่มองเห็นคือ โดยธรรมชาติ เราไม่เน้นการปฎิบัติ เราไม่เน้นคุณภาพ และเราไม่เน้นความต่อเนื่อง เป็นประจำ

ลองพิจารณา เข้าไปลึกอีกหน่อย ถึงสาเหตุ ถึงรากแก้ว ถึงแก่นของเรา
จะเห็นว่า อย่างแรก ที่มองเห็นคือ โดยธรรมชาติ เราอยู่กันแบบสบายๆ แบบในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
ไม่มีแรงผลักดันให้วางแผน เพื่อเอาชีวิตรอด เช่นฤดูหนาวอันโหดร้าย ยาวนาน แบบตะวันตก
ไม่มีแรงผลักดันให้เราอดตาย เราจึงไม่เดือดร้อนมาก
แต่ในความเป็นจริง ในน้ำเรา ทำลายล้างปูปลา ส่วนในนา เราไม่มีคนอยากจะปลูกข้าว

จะเห็นว่า อย่างสอง ที่มองเห็นคือ โดยธรรมชาติ ถ้าความเดือดร้อนไม่ มาถึงตัวเราจริงๆ เราย่อมไม่สนใจ ใส่ใจ
คล้ายๆ กับถ้าไปไหม้บ้านคนอื่น จนเกือบถึงบ้านเราแล้ว เราก็ยังไม่สนใจ ถ้ามันยังไม่ไหม้บ้านเรา
คล้ายๆ กับ กบที่โดนต้ม แล้วค่อยๆ เร่งความร้อน ที่เคยชินกับความร้อน และตายในที่สุด
เป็นความเฉื่อยชา เกียจคร้าน หมกหมุ่นแต่กับตัวเอง ที่เคยชิน และฝังรากลึกเข้าไปใน ดีเอ็นเอ ของเรา


ตอนที่ ๑

ภาคแรก (ย่อ)

ตั้งแต่บทที่ ๑ ถึง ๑๒ เป็นภาคแรก

เราเิริ่มค้นหา ถามคำถามพื้นฐาน พยายามตอบคำถามพื้นฐาน

เพื่อค้นหา ชุดกุญแจพื้นฐานของเรา หาชุดกุญแจที่เหมาะสม หาใบไม้เพียงหยิบมือที่เหมาะสม กับตัวเรา

 

หากสรุปให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย จดจำง่าย เชื่อมโยงได้ง่าย

เราก็จะได้ กุญแจ ๓ เหลี่ยม ๒ ดอก คือ

๑ ความกล้าหาญ ความซื่อตรง สติปัญญา ที่บริบรูณ์ เพื่อไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง

๒ กาย วาจา ใจ ที่ดี เข้มแข็ง บริบรูณ์ เพื่อเป็นเรือแห่งชีวิต ที่ดี แข็งแรง เปี่ยมพลัง สามารถฟันฝ่าคลื่นลม พายุ มรสุมต่างๆได้

 

เมื่อเรา มีเรือที่พร้อม และมีทิศทางที่ถูกต้องครบแล้ว

เราก็พร้อม ที่จะเดินทางเพื่อค้นหา ผจญภัย เรียนรู้ ต่อไปได้

 

เราจะสร้างประภาคารสีขาวสูง แข็งแรง โดดเด่น เห็นแต่ไกล ไว้ตรงจุดเริ่ม ก่อนเดินทาง สู่ภาคสอง

หากว่าเราหลงทาง หวาดกลัว ไม่แน่ใจ เราจะได้กลับมามอง กลับมาพักเหนื่อย หรือกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่

ขอขานนามว่า “ประภาคารที่ ของภาคแรก ละกัน

 

ก่อนออกเดินทาง ประภาคารขอมอบสิ่งนี้ให้

มีอาวุธประจำตัว เพื่อใช้ไขความลับ เบื้องต้น ของสิ่งต่างๆ คือ กุญแจ ๓ เหลี่ยม ๒ ดอก

มีเคล็ดประจำตัว เพื่อใช้ไขความลับ เบื้องหน้า ของสิ่งต่างๆ ว่า ความคิด ความรู้ ภูมิปัญญาใด

ที่เป็นของจริงแท้ ย่อมทน ย่อมเต็มใจ ย่อมเปิดกว้าง ต่อการพิสูจน์ โต้แย้ง ไม่ขึ้นกับสถานที่ บุคคล ยุคสมัยและเวลา

 

ภาคสอง (ย่อ)

บทที่ ๑ (ย่อ) ความสำคัญของยุคสื่อสารข้อมูล ที่ไร้พรมแดน รวดเร็วขนาดที่เป็นรองแค่ความเร็วแสง

ข้อมูลที่เป็นคุณ มากมายในยุคนี้ ตกผลึกเป็นความรู้ ความรู้มากมายในยุคนี้ เหนี่ยวนำความรู้ใหม่ สร้างเทคโนโลยีใหม่ ขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วน้องๆแสง

ข้อมูลที่เป็นโทษ มากมายในยุคนี้ ตกผลึกเป็น ศรัธทาในทางที่ผิด ความงมงาย ความมัวเมา เป็นโทษอย่างมากมาย เป็นเงาตามตัวเรา อย่างรวดเร็วน้องๆแสง  เช่นกัน

 

บทที่ ๒ (ย่อ) การดื่มกิน เคี้ยวกลืน ย่อย ถ่ายเท ข้อมูล ความคิด ความรู้ ความเชื่อ ศรัทธา เทคโนโลยี ในเบื้องหน้า

อันดับแรก การเลือกของที่มีคุณ หลีกเลี่ยงของที่มีโทษ

อันดับสอง การดื่มกิน ลองพิจารณาดูว่า ตอนนี้เราบริโภคด้วยสติ ถูกวิธี ถูกต้อง ด้วยสติปัญญาหรือไม่

จุดที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การบริโภคปราศจากสติ  ตามๆกันไป ไร้สติ มัวเมางมงาย เป็นแฟชั่น เป็นเปลือก แค่ความโก้เก๋ ภายนอก

โทษที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ เมื่อมัวเมา ไร้สติ ชีวิตย่อมมืดมัว ต่ำลงเรื่อยๆ  มัวเมา งมงายกับสิ่งนั้น ไม่สามารถหาทางออกด้วยตัวเองได้

อันดับสาม เคี้ยว กลืน ย่อย ลองพิจารณาดูว่า สิ่งที่บริโภคเข้าไป เราย่อยมัน ได้หรือไม่

จุดที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ  เราต้องย่อย ให้เป็นสิ่งที่ง่าย ต่อการเข้าใจ และสามารถ ถ่ายทอด สิ่งที่เราย่อยได้  เป็นตัวตรวจสอบ ขั้นสุดท้าย

อันดับสี่ การถ่ายเท เราไม่ควรเก็บ ของเสีย ภาระ ต่างๆ ไว้ในตัวนานเกินไป

 

วันนี้เราจะขอเน้นภาคปฎิบัติ เพื่อให้เกิดผลจริง สามารถจับต้องได้

 

การล่องเรือ ณ วันนี้

 

บทที่ ๓ (ภาคปฎิบัติ) การปฎิรูปการเมือง เศรษฐกิจ และการศึกษา (โดยการปฎิบัติเน้นคุณภาพ เข้มแข็งต่อเนื่องยาวนานพอ)

 

อันดับแรก ที่อยากเน้น คือ การเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา ไม่สามารถมาเดี่ยวๆได้

ต้องไปด้วยกัน ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เป็นสามเหลี่ยมที่เหนี่ยวนำซึ่งกันและกัน

 

ลองพิจารณาดูว่า การเมืองเป็นเรื่อง ของทิศทาง การนำชาติ ดังพวงมาลัยรถเรา

เศรษฐกิจเป็นดุจพลังงานขับเคลื่อน ของชาติ เป็นเหมือนน้ำมัน

การศึกษาเป็นดุจคุณภาพ ของชาติ เป็นเหมือน เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพ เป็นคุณภาพของตัวรถทั้งหมด

 

จะเห็นว่า ถ้าการเมืองอ่อนแอ การนำชาติก็อ่อนแอ ทิศทางย่อม ไม่แม่นยำ ไม่ถูกต้อง ที่เลวสุดคือ หลงทาง พังทลาย

จะเห็นว่า ถ้าการเศรษกิจอ่อนแอ การขับเคลื่อนชาติก็อ่อนแรง อ่อนแอ ทำอะไรก็ไม่เป็นผล ไม่สำเร็จได้

จะเห็นว่า ถ้าการศึกษาอ่อนแอ คนที่เป็นเหมือนเครื่องยนต์ ย่อมอ่อนแอ ครอบครัว สังคม ชาติที่เป็นดังตัวรถ ย่ิอมอ่อนแอ

ขับไปไม่เท่าไหร่ก็ ชำรุด เสีย แตกหัก ได้ง่าย

 

อันดับสอง ความสำเร็จของการปฎิบัติ = (การปฎิบัติเน้นคุณภาพ เข้มแข็งต่อเนื่องยาวนานพอ) X (สติปัญญา กล้าหาญ ซื่อตรง กาย วาจา ใจ)

 

สถานการณ์ของชาติในตอนนี้ ดุจดังเราขับรถ หลงทาง พาชาติ ไปติดหลุ่ม กลางบึงอันกว้างใหญ่ สุดลูกหูลูกตา

การปฎิบัติสั้นๆ ย่อมเหนื่อยเปล่า ไม่เกิดผลที่แท้จริง

ถ้ากล้าหาญ ซื่อตรง ต่อตัวเองพอ จะเห็นว่า การสร้างชาติที่มีคุณภาพ ไม่อาจสร้างแค่ข้ามคืน อาจใช้เวลาช่วงหนึ่งของ คนรุ่นเรา

และเกิดผลสำเร็จอย่างแท้จริง เป็นมรดกอันมีค่าสูงสุด สำหรับคนรุ่นต่อไป อาจใช้เวลา ๑๐ ถึง ๒๐ ปี

 

เราได้พูดถึง สติปัญญา กล้าหาญ ซื่อตรง กาย วาจา ใจ เป็นชุดกุญแจพื้นฐาน เบื้องต้นไปแล้ว

เราจะพูดถึง การปฎิบัติเน้นคุณภาพ เข้มแข็งต่อเนื่องยาวนานพอ ในฐานะกุจแจ สำหรับ การสร้างชาติที่มีคุณภาพ ต่อไป

 

อันดับสาม ปัญหาพื้นฐาน ด้านคุณภาพ การปฎิบัติ ความต่อเนื่อง

 

ลองพิจารณา ว่าปัญหาพื้นฐาน ของชาติเรา คืออะไรกันแน่

จะเห็นว่า อย่างแรก ที่มองเห็นคือ โดยธรรมชาติ เราไม่เน้นการปฎิบัติ เราไม่เน้นคุณภาพ และเราไม่เน้นความต่อเนื่อง เป็นประจำ

 

ลองพิจารณา เข้าไปลึกอีกหน่อย ถึงสาเหตุ ถึงรากแก้ว ถึงแก่นของเรา

จะเห็นว่า อย่างแรก ที่มองเห็นคือ โดยธรรมชาติ เราอยู่กันแบบสบายๆ แบบในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

ไม่มีแรงผลักดันให้วางแผน เพื่อเอาชีวิตรอด เช่นฤดูหนาวอันโหดร้าย ยาวนาน แบบตะวันตก

ไม่มีแรงผลักดันให้เราอดตาย เราจึงไม่เดือดร้อนมาก

แต่ในความเป็นจริง ในน้ำเรา ทำลายล้างปูปลา ส่วนในนา เราไม่มีคนอยากจะปลูกข้าว

 

จะเห็นว่า อย่างสอง ที่มองเห็นคือ โดยธรรมชาติ ถ้าความเดือดร้อนไม่ มาถึงตัวเราจริงๆ เราย่อมไม่สนใจ ใส่ใจ

คล้ายๆ กับถ้าไปไหม้บ้านคนอื่น จนเกือบถึงบ้านเราแล้ว เราก็ยังไม่สนใจ ถ้ามันยังไม่ไหม้บ้านเรา

คล้ายๆ กับ กบที่โดนต้ม แล้วค่อยๆ เร่งความร้อน ที่เคยชินกับความร้อน และตายในที่สุด

เป็นความเฉื่อยชา เกียจคร้าน หมกหมุ่นแต่กับตัวเอง ที่เคยชิน และฝังรากลึกเข้าไปใน ดีเอ็นเอ ของเรา

 

อันดับสี่ ทางแก้

 

เงื่อนไขแรก ถ้าเราเจ็บป่วย แล้วเราไม่รู้ ไม่ยอมรับ ความจริง ว่าเราเจ็บป่วย เราย่อมไม่ต้องการรักษา

เพราะเราตั้งมั่น อยู่ว่า เราสบายดี

 

เงื่อนไขแรก เช่นกัน หากชาติเราเจ็บป่วย กำลังติดหล่ม กำลังจม กำลังโดนไฟไหม้ หากเรา ไม่รู้ ไม่ยอมรับ

ความจริงที่เกิดขึ้น เพราะเราตั้งมั่น อยู่ว่า เราสบายดี ไม่เดือดร้อน อะไร บ้านเราไฟยังไหม้ไม่ถึงเลย

เราย่อมไม่อยากเปลี่ยน ตัวเราเอง แก้ไข รักษา ชาติเราเอง แม้แต่นิดเดียว

 

เงื่อนไขสอง คือ ดอกบัวยังมีหลายแบบ ในดิน เหนือดิน เหนือน้ำ บัวบาน

คนในชาติ ย่อมมีหลายแบบ เช่นกัน

ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ฐานะ อายุ เพศ การศึกษา ระดับสมอง หรือความฉลาดโดยตรง

แต่ขึ้นอยู่กับความยึดมั่น ถือมั่น หมกมุ่น ในตัวเอง ในความสบาย ความเคยชิน ความเชื่อ ศรัทธา ของตัวเอง อย่างล้นพ้น

 

เหล่าบัวบาน คือผู้ที่ยึดมั่น ถือมั่น หมกมุ่น ในตัวเองมากน้อย

สามารถมอง หันหน้าออกไป จากความหมกมุ่น ในตัวเองได้

ยึดมั่น ถือมั่น ในความสบาย ความเคยชิน ความเชื่อ ศรัทธา น้อย มีสติและหมั่นตรวจสอบ

และประกอบด้วยพื้นฐาน สติปัญญา กล้าหาญ ซื่อตรง กาย วาจา ใจ ที่ดี

 

หากเริ่ม หรือ ดึงดัน จาก ๓ แบบแรก ย่อมใช้พลังมาก และความสำเร็จหริบหรี่ แทบมองไม่เห็น

หากเริ่ม จากแบบ ๔ คือ บัวบาน ย่อมเริ่มอย่า่งมีคุณภาพ ใช้พลังงานอย่างเหมาะสม ที่มีโอกาส สำเร็จ มากที่ีสุด ในยุคของคนรุ่นเรา

 

เงื่อนไขสาม คือ ต้องทำให้ คนที่เป็นบัวบานทั้งหลาย มีสติ รู้ตัว ตื่นตัว ให้มากที่สุด

ให้เข้าใจสถานะการณ์ เข้าใจว่าชาติเรากำลังวิกฤต หลงทาง ติดหล่ม ไฟไหม้อยู่

 

เพื่อที่ว่าบัวบาน เหล่านั้น จะได้เป็นตัวอย่าง จะช่วยเหนี่ยวนำบัวบานอื่นๆ ไปเรื่อย

และช่วยกันเหนี่ยวบัวอื่นๆ ได้ในระดับเหมาะสม ต่อไป

 

พรุ่งนี้ เรา่จะลอง ล่องเรือต่อไป เพื่อดูว่า บัวบานทั้งหลาย จะช่วยกัน เหนี่ยวนำ เบ่งบานพร้อมกันๆได้ อย่างไร

 

วันนี้ขอให้ทุกท่าน มีสติ มีกำลังกาย กำลังใจ ที่ดีในการทั้งปวง ขอให้โชคดี


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที