คุณ สะอาด

ผู้เขียน : คุณ สะอาด

อัพเดท: 20 มี.ค. 2024 22.27 น. บทความนี้มีผู้ชม: 199 ครั้ง

Digital Marketing การทำการตลาดออนไลน์โดยใช้การผลิตคอนเทนต์หรือบทความที่มีประโยชน์และน่าสนใจ


เว็บไซต์ E-Commerce คืออะไร ? เว็บอีคอมเมิร์ชที่ดีต้องเป็นแบบไหน ก่อนจ้างทำเว็บไซต์ขายของไม่อ่านไม่ได้ !

เว็บไซต์ E-Commerce

ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์กำลังเติบโต การมีเว็บไซต์ e-commerce เป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายสินค้าที่สร้างยอดขายให้คุณได้มากมายมหาศาลเว็บไซต์ e-commerce คืออะไร และเว็บไซต์ e-commerce ที่ดีเป็นแบบไหน หากคุณอยากจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ e-commerce คุณจะต้องรู้อะไรบ้าง ทั้งหมดนี้เรามีคำตอบ

เว็บ E-Commerce คืออะไร

เว็บ E-Commerce คือ เว็บไซต์ขายของออนไลน์ มีไว้สำหรับการซื้อ-ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ภายในเว็บไซต์จะแสดงข้อมูลของสินค้า รายละเอียดสินค้า รวมถึงข้อมูลของแบรนด์ หากลูกค้าสนใจสามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ได้ หรืออธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ เว็บไซต์ e-commerce เปรียบเสมือนหน้าร้านของคุณ ร้านขายสินค้าที่อยู่ในโลกออนไลน์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากมีโอกาสที่ลูกค้าจะสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งลูกค้าในประเทศรวมถึงลูกค้าต่างประเทศ แบบไร้พรมแดน เพราะแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถ shopping online ได้แล้ว

ประเภทของเว็บไซต์ E-Commerce

เว็บ E-Commerce B2C ( Business to Customer )

- เว็บ E-Commerce B2B ( Business to Business )

- เว็บ E-Commerce B2G ( Business to Government )

- เว็บ E-Commerce G2G ( Government to Government )

- เว็บ E-Commerce C2C ( Customer to Customer )

- เว็บ E-Commerce G2C ( Government to Customer )

เว็บ E-Commerce เหมาะกับธุรกิจแบบไหน

เว็บไซต์ e-commerce เหมาะกับทุกๆ ธุรกิจที่ต้องการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำธุรกิจแบบ Business to customer หรือ B2C จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ e-commerce ไว้เพื่อขายสินค้าหรือคนที่อยากทำแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง เช่น แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือแบรนด์ Skincare แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เป็นต้น การมีเว็บไซต์ e-commerce จะทำให้สินค้าของคุณมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทำไมถึงควรทำเว็บไซต์ E-Commerce เมื่อขายของออนไลน์

1.ไม่ต้องเปิดหน้าร้านแบบสมัยก่อน

การทำธุรกิจในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน สามารถทำเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเพื่อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ หรือคนที่มีหน้าร้านก็สามารถสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ควบคู่กันไปด้วยได้ อย่างเช่น ร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น นอกจากนั้นเว็บ e-commerce ยังช่วยให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย  

2.ช่วยเพิ่มโอกาสทางการขายได้มากขึ้น

เว็บไซต์ e-commerce สามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมาก ดังนั้นจึง ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น มีโอกาสที่คุณจะปิดการขายได้รวดเร็ว ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนหรือมุมไหนของโลก หากมีอินเตอร์เน็ตก็สามารถช้อปสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ แถมยังสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย

3.ง่ายต่อการทำการตลาดออนไลน์

ในอดีตหากต้องการทำการตลาดเราอาจใช้วิธีแจกใบปลิวซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างเว็บไซต์เพื่อให้ง่ายต่อการทำการตลาดออนไลน์ได้ คุณสามารถเก็บข้อมูลของคนที่เข้ามายังเว็บไซต์ e-commerce จากนั้นนำข้อมูลไปวิเคราะห์หรือใช้ประโยชน์สำหรับทำการตลาดออนไลน์ได้หลากหลายกลยุทธ์เลยทีเดียว

4.ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

มีเว็บไซต์ e-commerce ขายสินค้าออนไลน์ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงานเฝ้าร้าน หรือค่าตกแต่งร้าน เป็นต้น คุณสามารถเอานำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปลงทุนในด้านอื่นๆ แทน อย่างเช่น การทำการตลาดออนไลน์หรือการทำ seo เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกการค้นหา

5.โฟกัสลูกค้าได้ทุกจุดมากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์ e-commerce ทำให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เมื่อลูกค้ามีข้อสงสัยสามารถส่งข้อความหาคุณได้เลยทันทีหรือติดต่อทางร้านได้โดยตรง ทีมงานขายไม่ต้องทำงานหนักเพราะสามารถโฟกัสลูกค้าที่เกิดปัญหาจริงๆ ได้ตรงจุดมากขึ้น

Check List เว็บไซต์ E-Commerce ที่ดี ต้องเป็นแบบไหน

1.หน้าเว็บ E-Commerce ต้องดูดี สวยงาม

เว็บไซต์ e-commer ที่ดีหน้าเว็บไซต์จะต้องดูดีสวยงาม นอกจากนั้นเว็บไซต์จะต้องมีระบบการใช้งานที่ง่าย ไม่ทำให้ลูกค้าเกิดการสับสนเมื่อใช้งานเว็บไซต์

2.มีข้อมูลสินค้าชัดเจน ครบถ้วน

เว็บไซต์จำเป็นต้องมีข้อมูลของสินค้าอย่างครบถ้วน ละเอียด ชัดเจนทุกรายการ ลูกค้าอ่านแล้วเข้าใจง่าย นอกจากนั้นภาพสินค้าจะต้องคมชัดสวยงามสามารถกระตุ้นยอดขายได้ดี

3.มีระบบจัดการหลังบ้านที่ใช้งานง่าย

เว็บไซต์ควรมีระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่าย ที่ได้รับความนิยมคือ WooCommerce  ปลั๊กอินที่ติดตั้งผ่านระบบ wordpress ได้สะดวก ช่วยให้ลงข้อมูลสินค้าได้เร็ว มีระบบแจ้งเตือนเมื่อลูกค้าสั่งซื้อและยังมีฟังก์ชันเสริมต่างๆ อีกมากมาย เช่น ระบบแจ้งการชำระเงิน แจ้งเตือนออเดอร์ผ่าน Line Notify ฯลฯ

4.ขั้นตอนสั่งซื้อต้องชัดเจน ใช้งานง่าย

เว็บไซต์ e-commerce ที่ดีจะต้องมีขั้นตอนการสั่งซื้อที่ชัดเจนเข้าใจง่าย ลูกค้ากดสั่งซื้อได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน หรืออาจมีคำแนะนำให้ลูกค้าได้ศึกษาก่อนสั่งซื้อ ป้องกันการสับสน

5.มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย

ที่สำคัญเลยจะต้องมีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย รองรับการชำระเงินหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์ การเก็บเงินปลายทาง ชำระผ่านบัตรเครดิต-บัตรเดบิตหรือชำระผ่าน QR Code, Internet Banking ฯลฯ

6.ต้องรองรับการทำการตลาดออนไลน์

ไม่ว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณจะถูกออกแบบมาได้ดีแค่ไหนแต่ถ้าเว็บไม่รองรับการทำการตลาดออนไลน์ ก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้น เว็บไซต์ e-commerce ที่ดีจะต้องรองรับการทำการตลาดออนไลน์ด้วย

เว็บ E-Commerce ระบบ WooCommerce

หนึ่งใน plugin ที่สำคัญสำหรับเว็บไซต์ e-commerce ก็คือ WooCommerce ติดตั้งได้ง่ายๆ ผ่านระบบ wordpress สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้แบบฟรีๆ ไม่เสียตังค์หรือถ้าต้องการฟังก์ชันที่ Advance มากขึ้นสามารถใช้งานในเวอร์ชั่นพรีเมี่ยมได้

???? พิกัด Download Plugin WooCommerce : ??https://th.wordpress.org/plugins/woocommerce/

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนจ้างทำเว็บ E-Commerce 

ก่อนจ้างทำเว็บอีคอมเมิร์ซต้องวางแผนให้ดีว่าจะขายสินค้าอะไรบ้าง สินค้ามีกี่หมวดหมู่ ขายราคาเท่าไหร่

- เมื่อรู้แล้วว่าจะขายสินค้าอะไรต่อไปต้องเตรียมข้อมูลของสินค้ารวมถึงภาพประกอบที่คมชัด มีหลายภาพหลายๆ มุมเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น

- ผู้ว่าจ้างควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์ไว้บ้าง เอาไว้พูดคุยกับคนรับทำเว็บจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร สื่อสารกันเข้าใจมากขึ้น

- ก่อนจ้างทำเว็บ e-commerce ควรศึกษาให้ดีว่าสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่ บางคนทำเว็บไซต์ออกมาดีมี Traffic เยอะแต่ปรากฏว่ายอดขายน้อยเนื่องจากสินค้าไม่เป็นที่ต้องการของตลาด

- เว็บไซต์ e-commerce เป็นเพียงหนึ่งช่องทางในการขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งไม่ควรคาดหวังยอดขายทั้งหมดว่าจะมาจากเว็บไซต์เพียงช่องทางเดียว

ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการอีคอมเมิร์ช ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง

เว็บ E-Commerce ต่างประเทศ

เว็บ E-Commerce ในประเทศไทย

สร้างเว็บไซต์ E-Commerce เอง หรือ จ้างคนอื่นทำดีกว่ากัน

การสร้างเว็บไซต์ e-commerce หากคุณมีเวลาศึกษาหาข้อมูล เรียนรู้ และลองลงมือทำ คุณสามารถสร้างมันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แต่การขายของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่ายไหนจะต้องแพ็คของ ขายของ ตอบแชท ไปส่งของ อาจมีการบริหารจัดการระบบภายในซึ่งวุ่นวายพอสมควร ทำให้หลายคนไม่มีเวลามานั่งศึกษาขั้นตอนการทำเว็บไซต์ e-commerce ดังนั้นทางที่ดีควรจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ e-commerce ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจะดีกว่าคุณไม่ต้องเหนื่อยทำเองทั้งหมดแต่ได้เว็บไซต์ e-commerce ที่มีคุณภาพ

ทำเว็บ E-Commerce ราคา เท่าไหร่ 

โดยปกติค่าบริการในการทำเว็บไซต์ e-commerce เริ่มต้นที่ 15,999 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นการใช้งานว่า Advance แค่ไหน ผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ e-commerce อาจมีแผนให้คุณเลือกหลากหลายเพื่อให้คุณมีเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น เช่น

·        E-Commerce แผน A ราคาเริ่ม 15,999 บาท

·        E-Commerce แผน B ราคาเริ่ม 29,999 บาท

·        E-Commerce แผน C ราคาเริ่ม 49,999 บาท

เว็บไซต์ e-commerce เว็บไซต์สำหรับซื้อขายสินค้าออนไลน์ คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ e-commerce เพื่อขายสินค้าออนไลน์ต่อยอดให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นได้ง่ายๆ หากคุณไม่มีเวลาสามารถจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ e-commerce ที่เชื่อถือได้และมีประสบการณ์ รับรองว่าได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพ สร้างยอดขายจนเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://mingketar.co.th/what-ecommerce/ 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที