รอยแดงจากสิวบนใบหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ใครหลาย ๆ คนกังวลเลยค่ะ เมื่อเราเป็นสิวและรักษาสิวจนหายแล้ว แต่รอยแดงบนหน้าก็ยังอยู่ เพราะรอยแดงนั้นเกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ส่งผลให้เกิดรอยแดง รอยดำ รอยหลุมสิวตามมา และการรักษารอยสิวต่างๆก็อาจต้องใช้เวลาและความอดทนในการรักษาอีกด้วย ในบทความนี้เราเลยมาบอกวิธีรักษารอยแดงจากสิวอย่างถูกวิธีกันค่ะ
รอยแดงจากสิว เกิดจากอะไร?
รอยแดงจากสิว เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เนื่องจากต่อมผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้อุดตันในรูขุมขน เกิดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ผิวอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบนั่นเอง
รอยแดงจากสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. การใช้ครีมลดรอยสิว
การใช้ครีมลดรอยสิวเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษารอยสิวที่เหมาะกับสภาพผิว ที่ช่วยเร่งการฟื้นตัวของผิวและลดความเสี่ยงของปัญหาสิวและควรมีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี กรด AHA กรด BHA หรือ Azelaic acid เป็นต้น
การทำเลเซอร์ลดรอยแดงสิว เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจะเป็นการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ยิงไปยังบริเวณที่มีรอยแดง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูผิว ผลลัพธ์ที่ได้ คือ รอยแดงค่อย ๆ จางลง ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ และสีผิวสม่ำเสมอ แต่อาจมาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
การทาครีมกันแดดจะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รอยแดงสิวเข้มขึ้น และฝังลึก ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นประจำ จะช่วยให้รอยแดงสิวจางลงเร็วขึ้น และป้องกันการเกิดรอยใหม่อีกด้วย
หากรอยแดงมีอาการอักเสบ หรือบวมแดงและรักษาเองไม่หาย ควรปรึกษแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาให้ถูกต้องตามลักษณะของแต่ละบุคคล
เพียงเท่านี้ผิวหน้าของเราก็กลับเนียนใสได้แล้วค่ะ แต่ทุกคนอย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยนะคะ เพราะการล้างหน้าไม่สะอาดแทบจะเป็นสาเหตุหลักเลยที่ทำให้ผิวของเราเกิดสิวขึ้นได้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที