ยาล้างไต บำรุงไตจริงหรือ....
มื่อรับประทานอาหาร น้ำ และยาเข้าไป หรือพูดง่ายๆว่า
เมื่อเรากินอะไรเข้าไปก็ตาม
ร่างกายก็จะมีระบบกำจัดสารพิษที่ได้รับออกโดย 2 ทาง
ได้แก่
1. ทางตับ
2. ทางไต
เราจะมาว่ากันด้วยยาล้างไต
ไต ประกอบด้วยหน่วยเล็กๆ เยอะแยะ ติ๊ต่างว่ามันเป็นเม็ดถั่วเขียวจิ๋ว มีท่อเล็กๆในถั่วจิ๋วแต่ละเม็ด ท่อพวกนี้จะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำเล็กๆ ซับน้ำบางส่วนกลับเข้าร่างกาย ปล่อยให้สารบางอย่างกรองสู่ฉิ๊งฉ่อง บางอย่างก็ไหลผ่านฟองน้ำได้ บางอย่างก็ผ่านไม่ได้
จะสังเกตว่า บางครั้งปัสสาวะมีสีขุ่น แต่บางครั้งก็ใส นั่นขึ้นอยู่กับว่าเราทานอะไรเข้าไป กับการทำงานของไต
ยกตัวอย่างคนที่หน่วยไตไม่ปกติ เมื่อปัสสาวะขุ่นขาวข้นมากๆ หมายความว่าไตมีปัญหาแล้ว เพราะตะกอนขาวขุ่นๆที่ว่า อาจจะเป็นโปรตีน
ซึ่งปกติ โปรตีนจะไม่ถูกกรองผ่านฟองน้ำนั่นเอง หรือหากมีมดมาตอมปัสสาวะ ก็หมายความว่ามีน้ำตาลอยู่ในปัสสาวะ ซึ่งเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของโรคเบาหวาน
คราวนี้ก็มาดูกัน ว่า เจ้ายาล้างไตที่ว่านี่ มันคืออะไร
คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด คิดว่าอาการปวดบริเวณเอวทั้งสองข้าง ต้องเป็น "โรคไต"
ที่จริงหากไม่ได้เป็นโรคไตแต่กำเนิด ดูแลสุขภาพให้ดี ไม่อั้นปัสสาวะบ่อยๆ ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำ โรคไตก็จะไม่มาย่างกราย
ทว่า ก็มีคนที่หากินกับจุดนี้ หลอกขายยา ด้วยคำว่า "ยาล้างไต"
ไอ้เจ้า ยาล้างไตนี่... ชาวบ้านชอบนักละ
เวลาทานไปแล้ว ปัสสาวะจะเป็นสีๆ สีแดง สีส้ม สีน้ำเงิน
มีแบ่งอีกนะคะ ว่าสีส้มล้างไต สีน้ำเงินล้างท้อง
แถมบางคน หาซื้อยาล้างไต ไปรับประทานเดือนละ 1-2 ครั้ง สอบถามได้ความว่า กินเพื่อล้างไต ไตจะได้สะอาด แล้วก็ไม่เป็นโรคไตด้วย... เอาล่ะสิ ยิ่งยุ่งใหญ่
แล้วไอ้ยาล้างไตที่ว่า คือยาอะไรกันแน่...
ยาล้างไต ส่วนใหญ่ ที่ขายทั่วๆไปตามร้านขายยาก็มีหลายตัวค่ะ มาดูผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 กัน
ทานแล้วปัสสาวะสีส้ม สีแดง คือ ยา rifampicin ที่ใส่ในขวดแก้ว ขวดเล็กๆ ขวดละ 3 เม็ด ซึ่งนั่นก็คือ ยาปฎิชีวะนะ ที่ใช้รักษาวัณโรคนั่นเองค่ะ
เจ้าตัวนี้ เป็นที่นิยมกันมาก
แล้วทานเข้าไปไม่มีอันตรายอะไรหรือ?
มีสิคะ มีผลเสียเยอะซะด้วย เนื่องจากว่ามันเป็นยาที่สงวนไว้ใช้ในการรักษาวัณโรค แต่เมื่อถูกขายเป็นว่าเล่น ยังกับลูกอม ก็ทำให้เชื้อวัณโรคมีปัญหาดื้อยา เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศก็ว่าได้ค่ะ
ถ้านานๆ ทาน ปีละครั้ง ก็คงไม่อันตรายมาก แต่ว่าปัญหาดื้อยานี่ รุนแรงค่ะ เหมือนเป็นการบ่มเพาะเชื้อโรคให้แข็งแรง ฉีดวัคซีนให้เชื้อโรคทีละนิดๆนั่นเอง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะสามารถต้านทานต่อยาได้ แต่สำหรับคนที่ทานพวกประจำ ยาทุกตัวมีผลข้างเคียงค่ะ แต่จะมาก น้อย ก็มีปัจจัยอีกหลายปัจจัยเช่นกัน แถมบางคนไปซื้อหามาทาน ตามความเชื่อ หรือคำบอกเล่าของคนข้างบ้าน
ถ้าเกิดมีอาการแพ้ยาขึ้นมา ถ้าเกิดแพ้ยาแบบรุนแรง (steven's johnson syndrome)� โอ้โห คราวนี้ ได้เป็นโรคไตของแท้แน่นอน
ผู้เข้าประกวดหมายเลขสอง
ยา phenazopyridine เมื่อทานไปจะปัสสาวะเป็นสีส้ม-แดง
ตัวนี้ไม่ใช่ยาปฎิชีวะนะ เป็นยาแก้ปวดค่ะ เพราะฉะนั้น จึงสามารถใช้รักษาอาการปวดได้ค่ะ แต่.... อย่างที่บอกว่า ใช้แก้ปวดได้ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าผู้อ่านมีญาติๆ คุณลุง คุณป้า คุณปู่ ย่า ตา ยาย หรือว่า แม้กระทั่งคนข้างบ้าน กำลังจะไปหาซื้อยาล้างไตมารับประทานเป็นประจำ เพราะเชื่อว่า ทานยาล้างไต แล้วไตแข็งแรง หายปวดบริเวณเอว ก็ได้โปรดอธิบายให้ด้วยค่ะ
ไม่มี ยาตัวไหน ล้างไตได้นะคะ ที่ทานยาแล้วหายปวดบริเวณเอว เพราะว่า มันคือ.... ยาแก้ปวดธรรมด๊า ธรรมดาเองค่ะ ทานเฉพาะเวลาปวดได้ แต่ไม่ใช่ทานเป็นประจำ
และถ้าหากมีอาการเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ดีที่สุดค่ะ ไม่ใช่ว่า 365 วัน ปวดเอวซะทั้ง 365 วัน แล้วก็หาซื้อยาล้างไตสารพัดมารับประทานเอง นั่นแหละค่ะ จะก่อให้เกิดโรคไต
ผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 ยาจับฉ่าย
ที่บอกจับฉ่ายเพราะว่า ไม่นิยมใช้เท่าสองตัวแรกด้านบนค่ะ
ยากลุ่มนี้มีอยู่หลายตัว แต่สรุปรวมๆ คือว่า ล้วนเป็นยาที่ทานแล้วปัสสาวะมีสีแล้วโดนเอามาแอบอ้าง ว่าเป็นยาล้างไต
มีทั้งปัสสาวะสีเขียว สีน้ำเงิน สีแดง จะสีรุ้งหรือสีอะไรก็แล้วแต่ค่ะ สีที่ออกมา ก็อย่างที่บอกว่า มันเป็นสีที่เกิดจากตัวยา ไม่ใช่สีที่เคลือบเม็ดยานะคะ บางทีเม็ดสีเหลืองอ๋อย ทานเข้าไป อาจปัสสาวะสีเขียว.... ยาเม็ดสีขาว ทานไปอาจปัสสาวะสีส้ม
สรุปว่า อยากให้ไตแข็งแรง อย่ากินยาล้างไตค่ะ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
