ณัชร

ผู้เขียน : ณัชร

อัพเดท: 22 พ.ค. 2007 03.30 น. บทความนี้มีผู้ชม: 11604 ครั้ง

ได้รับจากเซนเซวิชาศิลปป้องกันตัวแบบโบราณ เป็นสัญลักษณ์ว่ายอมรับเข้าเป็นลูกศิษย์ในสำนักแล้ว


ความผูกพันลึกซึ้งระหว่างศิษย์และอาจารย์ เริ่มจากวินาทีที่มอบดาบ

เป็นเวลามากกว่าสองปีแล้ว นับจากวันที่เซนเซเรียกฉันให้เข้าไปนั่งคุกเข่าตรงพื้นไม้ข้างหน้าหลังจากจบการเรียนดาบซามูไร แล้วท่านก็หันไปข้าง ๆ เพื่อหยิบดาบเล่มนี้มามอบให้ด้วยท่าที่เป็นทางการ

นั่นก็คือ หยิบสองมือ แนวนอน ตรงกลางดาบ แล้วยกขึ้นสูงเล็กน้อยประมาณศีรษะ เหมือนจะเป็นการแสดงความเคารพครูบาอาจารย์ในอดีต แล้วก็ยื่นออกมาให้ฉัน

ฉันจำได้ว่าตาโตมาก เพราะเซนเซไม่เคยบอกอะไรล่วงหน้า นี่เป็นการเรียนการสอนแบบเซนชนิดหนึ่ง คือฝึกสติให้พร้อมรับสถานการณ์ในปัจจุบันทันท่วงทีเสมอ

ฉันรับดาบเล่มแรกในชีวิตมาด้วยความเป็นทางการเหมือนกัน พยายามเลียนแบบท่าเซนเซ เพราะฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกันว่าเขาต้องทำกันยังไง ใช้สัญชาตญาณและความเคารพเอา

หลังจากนั้น เซนเซก็มอบถุงผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม พร้อมปักชื่อฉันสีเหลืองด้านบนอย่างเรียบร้อยมาให้ เป็นถุงใส่ดาบ คนญี่ปุ่นนี่ต้องยกให้เขาเรื่องหนึ่ง คือ ความประณีต เซนเซสอนให้ดูว่าต้องทำยังไงถึงจะรัดด้านบนให้แนบสนิท ดูรัดกุมแบบโบราณ ขลังดี ไม่ต้องใส่ถุงหนังสำหรับใส่ไม้ไดรฟ์กอล์ฟเหมือนฝรั่งเขาทำกัน

หลังจากนั้น เซนเซสอนเรื่องการดูแลดาบ เรื่องการชโลมน้ำมัน ฯลฯ เซนเซถามว่า มีอะไรสงสัยอยากถามอีกไหม ฉันเลยถามว่าดาบนี้ทำที่ไหน เพราะก่อนหน้านั้น เซนเซวัดความสูงตัวฉัน และวัดความยาวแขนไปนานแล้ว และให้ลองเหวี่ยงแขนกับดาบต่าง ๆ ดู
ขนาดที่เหมาะที่สุด จะต้องยาวให้เรี่ยพื้นพอดีในจังหวะฟันลง แต่ต้องไม่ถึงพื้น

ดาบซามูไรจะยาวกว่าดาบอื่น ๆ มาก จากที่ฉันสังเกตดู วงการฟันจะกว้างมาก จึงฝึกยาก เพราะจะต้องอาศัยความแม่นยำเป๊ะ ๆ ไม่งั้นมันไม่ได้ผล นั่นก็คือ ฟันลงพื้น หรือไม่ก็ฟันไม่ถึง เรียกว่าเหมือนวัดตัวสำหรับไม้เท้ากายสิทธิ์ของแฮรี่ พ้อตเต้อร์ ยังไงยังงั้นทีเดียว
 
คืนนั้น (วันที่ฉันถ่ายรูปรูปนี้) ฉันตื่นเต้นมาก เพราะพอเซนเซบอกว่าดาบสั่งตีจากเมือง Gifu จากญี่ปุ่น ฉันก็เลยไปค้นเวบดู เห็นเขามีชื่อเสียงเรื่องหาดทรายด้วย ฉันเลยหยิบฝักดาบขึ้นมาดู พบว่าเขาได้มีการนำจุดเด่นของเมืองมาตกแต่งอย่างละเอียดด้วย อย่างที่บอก คนญี่ปุ่นให้ความสนใจรายละเอียดปลีกย่อยของธรรมชาติมาก มันเป็นส่วนหนึ่งของเซนที่สำคัญเลยล่ะ ฉันว่านะ

ฉันเลยตั้งชื่อดาบของฉันว่า Gifu no Fushichoo หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า The Phoenix of Gifu ทั้งนี้เนื่องจากฉันวัดเอาจากความรู้สึกของฉันตอนที่ได้รับดาบ มีความรู้สึกว่ามันเติมพลังที่หายไปขึ้นมาใหม่ ฉันเลยตั้งชื่อเอาฤกษ์ เอาชัย ให้มันเป็นเหมือนสิ่งเติมพลังเมื่อฉันเหนื่อยล้า หรือ ท้อถอย แล้วหยิบมันมาฝึก

เพราะนกชนิดนี้มันจะฟื้นขึ้นมาใหม่จากกองขี้เถ้าได้ ในเทพนิยายน่ะนะ วันนั้นฉันเขียนในบล๊อกภาษาอังกฤษอันเก่าแก่ของฉันว่า Phoenix of Gifu, Welcome Home. ตอนนั้นฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมซามูไรโบราณเขาถึงผูกพันกับดาบของเขานัก ขนาดเซนเซมาขอจะเอาไปซ่อมให้ฉัน (เพราะฉันทำพัง!!) ฉันยังรู้สึกห่วงหาอาวรณ์มันจะแย่เลย

ตอนนี้เซนเซได้ทำพิธีมอบดาบเล่มใหม่ให้ฉันแล้ว  แต่ยังไงฉันก็ยังผูกพันกับเจ้านกฟีนิกซ์คู่ใจของฉันมากที่สุดอยู่ดี  เป็นความรู้สึกที่แปลกจริง ๆ นะ สำหรับซามูไร และดาบเล่มแรกในชีวิตของเขา

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที