นับตั้งแต่การระบาดเป็นวงกว้างไปทั่วโลกของเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือ โรคเอดส์ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2524 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำให้เกิดการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการรักษาให้หายขาดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสาเหตุของเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของผู้ที่ติดเชื้อ จนส่งผลให้เกิดโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ มากมาย นำไปสู่การสูญเสียที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว สาเหตุเหล่านี้เองทำให้วงการแพทย์ทั่วโลก ต่างมองหาวิธีการต่าง ๆ ในการรักษาและการป้องกันให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ต่อการลดการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
เนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวีส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ และมีระยะการฟักตัวที่สังเกตอาการได้ยาก ซึ่งมีอาการเริ่มต้นคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดหัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ร่างกายอ่อนเพลีย มีผื่นตามร่างกาย ฯลฯ ทำให้การเฝ้าระวังและการป้องกันเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นหน่วยงานพัฒนาด้านการแพทย์จึงได้คิดค้นชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังทราบผลตรวจได้อย่างแม่นยำภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์ที่มุ่งเน้นให้บุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีได้ตรวจอย่างรวดเร็วมากขึ้น ทราบสถานะผลเลือดก่อนที่จะแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังคู่นอน และลดอัตราการลุกลามของโรคฉวยโอกาสได้มากขึ้น
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง
เริ่มต้นกันด้วยความเข้าใจที่ตรงกันก่อนที่จะเข้าสู่ประเด็นสำคัญอย่าง INSTI (อินสติ) ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ด้วยการตอบคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยว่า ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองคืออะไร มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับการตรวจในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และที่สำคัญคือชุดตรวจเอชไอวีในไทยแบบไหนได้มาตรฐาน บทความนี้จะให้ความกระจ่างมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองคืออะไร?
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV Self Test) คือ ชุดตรวจเอชไอวีที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีเบื้องต้น ซึ่งได้รับการทดสอบและปรับปรุงจนได้เป็นเครื่องมือที่มีความแม่นยำ สามารถใช้งานได้สะดวกง่ายดาย รวมไปถึงมีความปลอดภัยต่อผู้ตรวจและเป็นขยะที่สามารถทิ้งได้อย่างปลอดภัยด้วยเช่นเดียวกัน
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองมีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
แน่นอนว่าการตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดการแพร่เชื้อเอชไอวีได้ในระดับที่ดี เพราะสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงได้เข้าถึงการตรวจคัดกรองเบื้องต้นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นที่สงสัยของผู้คนส่วนใหญ่ว่า ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองจะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนว่า การตรวจเอชไอวีแบบคัดกรองเบื้องต้นในปัจจุบันที่ได้รับความนิยมคือ Rapid test
Rapid test : เป็นการตรวจเอชไอวีที่ได้ผลต่อเมื่อผู้ตรวจติดเชื้อตั้งแต่ 3 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อตรวจแอนติบอดีในร่างกาย โดยใช้การหยดเลือดหรือซีรั่มลงไปในชุดตรวจเอชไอวี การตรวจด้วยวิธีนี้สามารถทราบผลได้อย่างรวดเร็วในไม่กี่นาที ซึ่ง INSTI (อินสติ) ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นชุดตรวจที่เลือกใช้วิธีการนี้ในการวิเคราะห์ผล จึงมั่นใจได้ว่ามีความน่าเชื่อถือได้มาตรฐานอย่างแน่นอน
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง แบบไหนได้มาตรฐานในไทย?
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวง เรื่องชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง พ.ศ. 2562 นับว่าเป็นโอกาสที่ดีให้กับประชาชนได้เข้าถึงการตรวจเอชไอวีได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าส่งผลให้ผู้นำเข้าหรือผู้ผลิตชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง สามารถขอขึ้นทะเบียนเพื่อจัดจำหน่ายได้อย่างถูกต้องในประเทศไทย โดยชุดตรวจจะต้องผ่านมาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งได้ประเมินแล้วว่าเป็นรูปแบบที่ให้ผลได้เทียบเท่าการตรวจเอชไอวีที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ ตรวจจากเลือดหรือส่วนประกอบของเลือด และ ตรวจจากน้ำในช่องปาก จึงสรุปได้ว่า INSTI (อินสติ) ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นหนึ่งในชุดตรวจที่ได้มาตรฐานในไทย เนื่องจากเป็นชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองที่ใช้รูปแบบการตรวจเจาะเลือดบริเวณปลายนิ้วมือ อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกร่วมด้วย
INSTI (อินสติ) ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง : The world’s fastest HIV test.
INSTI (อินสติ) ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ที่สามารถทราบผลได้ใน 1 นาที นับว่าเป็นชุดตรวจที่มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงถึง 99% โดยได้รับการรับรองจาก Health Canada (กระทรวงสาธารณสุขประเทศแคนาดา) และผ่านมาตรฐานสากล WHO Pre-Qualified จากองค์กรอนามัยโลก รวมถึงได้รับมาตรฐาน CE (European Conformity) ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
จากผลการทดสอบของ “INSTI (อินสติ) ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง” พบว่าเป็นชุดตรวจที่ให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็วที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ โดยสามารถให้ผลได้ภายในเวลาเพียงแค่ 60 วินาทีเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับชุดตรวจเอชไอวีอื่น ๆ ในปัจจุบันอาจต้องรอผลตรวจนานกว่า 15-20 นาที และทราบผลได้เร็วกว่าถึง 2 สัปดาห์ ที่สำคัญคือได้ออกแบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการตรวจแอนติบอดีในร่างกายที่มีต่อเชื้อเอชไอวีโดยเลือดแค่หยดเดียว มาพร้อมคู่มือการใช้งานที่ทำตามได้ง่าย อธิบายหลักการอ่านค่าผลเลือดไว้อย่างละเอียด ถือว่าเป็นชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองที่ตอบโจทย์ความต้องการของบุคคลที่มีความเสี่ยงได้อย่างดี
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที