จันทร์เพ็ญ จันทนา

ผู้เขียน : จันทร์เพ็ญ จันทนา

อัพเดท: 10 เม.ย. 2007 19.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 10091 ครั้ง

เรื่องเล่านี้ จริงทุกอย่าง ยกเว้น...


อิ่มบุญ อุ่นหัวใจ ภาคจบ

20455_karn05.jpg


เด็กน้อยวัยสิบขวบเล่าว่า พ่อของเขาเป็นปอดบวมตายตั้งแต่เขายังเด็ก แม่เสียใจมาก ไม่นานก็ตัดสินใจผูกคอตายไปอีกคน เด็กชายเท่ลูกกำพร้าก็เลยต้องไปอยู่กับยายที่ซอยวัดจันทน์ในกรุงเทพฯ อยู่ได้ไม่นาน ยายซึ่งแก่มาก ก็ไม่สามารถเลี้ยงดูหลานได้ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก สถานที่ที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กๆ โดยไม่เรียกเก็บเงินแม้แต่บาทเดียว…จึงคือคำตอบ… เท่อยู่ที่นี่มา 3 ปีแล้ว

เมื่อถามถึงความใฝ่ฝัน แววตาของเท่เป็นประกาย "เท่จะเป็นตะหารน้ำ" นั่นคือคำตอบ "ถ้าเท่เป็นตะหารน้ำได้ ก็จะรับยายไปอยู่ด้วย ยายก็ดีใจที่มีหลานเป็นตะหาร แต่ตอนนี้เท่ไม่ได้เจอยายมาตั้งนานแล้ว"

ฟังแล้วผมอึ้งมาก คำพูดของเด็กกำพร้าสิบขวบสอนอะไรบางอย่าง ถ้ามีชีวิต ก็ต้องมีความฝัน ต้องมีความหวัง ยิ่งในวัยเด็ก วัยแห่งความคิดฝันและจินตนาการ ถ้ามีอะไรมาตัดขาดสิ่งนี้ไปจากเขา นั่นน่ากลัวที่สุด ถึงแม้ชีวิตจะไม่สวยงาม ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร แต่เท่ก็ยังยิ้มสดใส เมื่อพร่ำบอกเราถึง "ตะหารน้ำ" และ "ยาย" …กลับจากดูแปลงเกษตรฝีมือเด็กๆ ก็เริ่มมีการจับกลุ่มพูดคุยกันระหว่างพวกเราและเด็กๆ พี่แอนคนงามมีน้องๆ วัยกระเตาะมาเล่นด้วยหลายคน พี่โต้งกับพี่หมูก็ใช่ย่อย เห็นบอกว่าน้องๆ ผู้หญิงหลายคนก็มีแววว่าโตขึ้นแล้วจะสวย (ไม่ทิ้งลายจริงๆ) พี่เอ กับพี่แนน ไม่ต้องพูดถึง ขวัญใจชาวโรงเรียนหมู่บ้านเด็กเหมือนกัน

20455_karn07.jpg


ผมมองไปมองมา เลยตัดสินใจไปร่วมวงกับพี่เพ็ญและพี่แตน ฟังไปฟังมา ก็เลยรู้ว่าเด็กผู้ชายที่พี่สองคนกำลังคุยด้วยชื่อเท่ บนใบหน้าที่สดใส กลับมีแววตาหม่นเศร้า น้องเท่เล่าชีวิตตัวเองหน้าตาเฉยเหมือนกับว่าเรื่องราวที่น่าหดหู่ของเขา เคยถูกถ่ายทอดมาหลายครั้ง กับหลายๆ คนที่มาเยี่ยมเยียนแล้ว

ผมกลับมามองตัวเอง ตอนนี้ผมมีความฝันหรือความหวังอะไรสำหรับชีวิตของตัวเองบ้างไหม ผมมีความคิดที่ว่าจะได้เป็น ได้เจอสิ่งดีๆ อยู่บ้างหรือเปล่า ผมตอบตัวเอง ว่าก็ยังพอมี ก็มีชีวิต มันก็ต้องมีความหวังสิ

ผมคิดต่อ เท่หวังว่า วันที่เขาสำเร็จ เขาจะมียายอยู่เคียงข้าง เป็นหนึ่งเดียวที่เป็น "ครอบครัว" ในความรู้สึกของเขา ผมโชคดีกว่าเขาตั้งแยะ ผมมีสมาชิกในครอบครัวตั้งหลายคน เมื่อเช้าผมเพิ่งทะเลาะกับน้อง และเพิ่งถูกแม่บ่น แต่คนเหล่านี้ไม่ใช่หรือ ที่ผมอยากให้เขาอยู่เคียงข้าง ถ้าผมทำสิ่งดีๆ และได้รับสิ่งดีๆ ที่เป็นความสำเร็จของชีวิต…กลับไปวันนี้ ต้องทำดีกับทุกๆ คนให้มากขึ้นแล้วหละ พวกเรากับครอบครัวนี่ก็แปลกครับ จริงๆ ทั้งรักทั้งห่วงกัน แต่ไม่ค่อยแสดงออก เหมือนไม่ค่อยเห็นคุณค่ากันเองซักเท่าไหร่

20455_karn08.jpg


มัวคิดเพลิน ผมเกือบไม่ได้ยินเสียงสตาร์ทรถตู้ พี่หมูก็ไม่ยอมบอกว่ารถจะออกแล้ว ก่อนพี่โต้งจะปิดประตู ผมก็กระโดดขึ้นทัน เกือบไปแล้วไหมล่ะ เรื่องโดนประตูหนีบนี่ผมกลัวสุดชีวิตเลยครับ หนูกลัวแมว คางคกกลัวงู แต่ถ้าคุณลองไปถามเพื่อนๆ ผม รับรองได้ ว่าต้องตอบเป็นเสียงเดียวกัน พวกเรากลัวประตูหนีบครับ เพราะทั้งเจ็บ ทั้งศพไม่สวย…บรื๋อ… ถ้าคุณไม่เกิดเป็นจิ้งจกแบบผม ก็ไม่เข้าใจหรอกครับ!

จบแล้วจ้า...


ป.ล. เขียนเป็นเรื่องเล่า คล้ายๆ เรื่องสั้น แต่ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องจริงจ้า (ยกเว้นจิ้งจก) :)


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที