GIT Information Center

ผู้เขียน : GIT Information Center

อัพเดท: 08 ส.ค. 2019 15.43 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1098 ครั้ง

จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่ลดการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างการซื้อเพชรและเครื่องประดับเพชร แต่ผู้ค้าเพชรกลับไม่กังวลเพราะพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปนั้นกำลังก่อให้เกิดพื้นที่ใหม่ในการเติบโตในธุรกิจนี้ ผู้ซื้อเริ่มกลับมามองหาสินค้าที่หลากหลายโดยเฉพาะสินค้าที่ผสมผสานนวัตกรรมมีความแปลกใหม่สามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ซื้อที่มีความประหยัดมัธยัสถ์ยังคงยินดีที่จะซื้ออัญมณีคุณภาพสูงสุดเพื่อการลงทุน แนวโน้มการค้าเพชรปัจจุบันเป็นอย่างไร สินค้าแบบไหนที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อติดตามได้ในบทความนี้
หรืออ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ https://infocenter.git.or.th


ผู้ค้าเพชรยังมีหวังท่ามกลางความท้าทาย Diamond Dealers Upbeat Amid Challenges

จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่นอกจากจะไม่ซื้อเพชรเพื่อการสะสมแล้วยังซื้อสินค้าด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะในการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างเพชรและเครื่องประดับเพชร แต่ผู้ค้าเพชรกลับไม่กังวลเพราะพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปตลอดเวลานั้นกำลังก่อให้เกิดพื้นที่ใหม่ในการเติบโตในธุรกิจนี้
 
ผู้ค้าเพชรในตลาดโลกยังไม่ละทิ้งความหวัง เพราะผู้ซื้อกำลังเริ่มกลับมามองหาสินค้าที่หลากหลาย จากการสัมภาษณ์ผู้ค้าเพชรโดย JNA ภายในงาน March Hong Kong Fair 2019 ลูกค้าเริ่มกลับมาเติมคลังสินค้าอย่างจริงจังหลังเทศกาลวันหยุดยาว โดยมีตลาดจีนช่วยผลักดันการเติบโตในอุตสาหกรรมเพชร
 
ผู้ค้าเพชรกล่าวว่า มีความต้องการเพชรกลมน้ำหนักต่ำกว่า 1 กะรัต ความใส SI ไปจนถึง 10 กะรัต คุณภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามผู้ซื้อใส่ใจเรื่องต้นทุนมากขึ้น
 
ความงดงามเหนือกาลเวลา
 
Davide Scarselli จาก Scarselli บริษัทผู้จัดหาเพชรและเครื่องประดับในนิวยอร์กเปิดเผยว่า ในปัจจุบันเพชรยังเป็นอัญมณีที่งดงามไร้คู่แข่ง และทุกวันนี้ผู้ซื้อที่มีความประหยัดมัธยัสถ์ ยังคงยินดีที่จะซื้ออัญมณีคุณภาพสูงสุดเพื่อการลงทุน
 
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน ผู้ค้าส่วนใหญ่เข้าชมงานแสดงสินค้าพร้อมกับความต้องการที่จำเพาะเจาะจงจากลูกค้าแทนที่จะซื้อเพื่อเก็บในคลังสินค้าสำหรับขายต่อ หรือการปิดข้อตกลงในงานแสดงสินค้า
 
นี่คือเทรนด์การซื้อในปัจจุบัน โดยเฉพาะการซื้อสินค้ามูลค่าสูง จากมุมมองของผู้ซื้อนั้น การทำเช่นนี้ได้ประสิทธิภาพมากกว่า โดย Davide กล่าวว่า “เราย่อมอยากปิดดีลให้ได้ทันทีอยู่แล้ว แต่เราก็อยากให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จและพึงพอใจ”
 
เขายังชี้ให้เห็นกระแสความสนใจเพชรแฟนซีสีเหลืองคุณภาพสูงสุด โดยเฉพาะเพชรแฟนซีสีเหลือง น้ำหนัก 10 กะรัตขึ้นไป และที่ถามหากันมาก คือ เพชรสีชมพูและสีน้ำเงิน


        
        Ring with a 28-carat fancy vivid yellow diamond by Scarselli       Yellow diamond and diamond necklace by Scarselli                      


Davide เผยว่า ผู้ซื้อส่วนใหญ่ที่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพดีขนาดใหญ่มักเป็นผู้ซื้อจากจีนและฮ่องกง ขณะเดียวกันผู้ซื้อจากยุโรป รัสเซีย และญี่ปุ่นพากันถามหาสินค้าขนาดเล็กกว่า แต่คุณภาพระดับสูงมาก”
 
เขายังได้อ้างถึงความต้องการเพชรและเครื่องประดับเพชรที่มีอย่างล้นหลามต่อเนื่องในตลาดและความพร้อมของผู้ซื้อในการลงทุนกับสินค้ามูลค่าสูงอีกด้วย
 
Davide ตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้คนยังยินดีที่จะซื้อเพชรและเครื่องประดับเพชรหรูหราราคาสูงเพื่อการลงทุน ความคิดแบบนี้โดยเฉพาะในเอเชียกำลังทำให้มีการซื้อสินค้าที่มีมูลค่า สามารถนำไปขายต่อหรือแลกเปลี่ยนได้ในอนาคต”
 
นวัตกรรม
 
บริษัทเพชรตั้งใจนำเสนอสินค้าที่มีความแปลกใหม่เพื่อล่อใจลูกค้าที่เข้าใจสินค้า Ghanshyam Dholakia ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร Hari Krishna Exports Pvt. Ltd. (HK Impex) ประเทศอินเดีย กล่าวว่า ตลาดต้องการสิ่งที่แตกต่างในขณะที่ธุรกิจเพชรกำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความชอบของลูกค้า
 
Dholakia กล่าวว่า HK Impex เปิดตัว “Allove” รูปแบบการเจียระไนเพชรของบริษัทที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วในงาน March Hong Kong Fair 2019 และมีเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มที่อาจเป็นผู้ซื้อ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว
 
เพชรเจียระไนแบบ Allove มี 81 เหลี่ยม โดยมองเห็นหัวใจและลูกศรถึง 10 รูป แตกต่างจากเพชรรูปกลมที่มี 57 เหลี่ยมและหัวใจและลูกศร 8 รูป เพชร Allove มีไฟและประกายระยิบระยับชัดเจน เขากล่าวเสริมว่า การเปิดตัวสินค้าใหม่และไม่เหมือนใครในตลาดสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
          


                               An Allove diamond with 81 facets by Hari Krishna Exports Pvt Ltd


ปัจจุบันสินค้าที่ขายดีที่สุดของ HK Impex คือเพชรรูปกลมน้ำหนัก 0.30-0.50 กะรัต ระดับความใส VS และ SI ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามในจีน เพชรเจียระไนแบบแฟนซี เช่น รูปไข่และหยดน้ำ ได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าชาวจีนและเอเชียตะวันออก
 
เพชร 1 ถึง 2 กะรัต รวมถึงเพชรเจียระไนแบบแฟนซีที่มีระดับความใส VVS และ VS ยังขายดีต่อเนื่อง ผู้ซื้อชาวอเมริกันต้องการเพชร PK หรือ pique และ SI ที่เจียระไนรูปแฟนซีในทุกขนาด ขณะที่ผู้ซื้อในอเมริกาเหนือชอบเพชร VVS มากกว่า โดยตลาดหลักของบริษัทแห่งนี้ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน อินเดีย และยุโรป
 
แม้ว่าจะมีผลผลิตที่ได้จากเหมืองลดน้อยลง Dholakiya ยังคงมองเห็นอนาคตที่สดใสของธุรกิจเพชร โดยอ้างถึงกระแสตอบรับแง่บวกของผู้ซื้อ
 
เขาเสริมว่า “เราหวังว่านี่แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการที่สูงขึ้น บริษัทของเราเน้นไปที่ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และการเสนอแผนการตั้งราคารูปแบบเดียวกัน รวมถึงคุณภาพของบริการหลังการขายเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับลูกค้า”
 
ความต้องการที่มั่นคง
 
Mishael Vardi จาก VMK Diamonds ประเทศอิสราเอล กล่าวว่า ขณะที่ผู้ซื้อพากันเร่งซื้อสินค้าเพื่อเติมคลังสินค้าหลังพ้นช่วงการขายเดือนธันวาคม-มกราคมที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังคงซื้อสินค้าอย่างระมัดระวัง
 
เพชรสีแฟนซีเป็นสินค้าหลักของบริษัท แต่บริษัทก็พอจะมีเพชรสีขาวขายอยู่บ้างแม้จะไม่มากนัก เพื่อเป็นเพชรเสริมหรือจับคู่เติมเต็มเครื่องประดับตามความต้องการของลูกค้า
 
Vardi กล่าวว่า “ผู้ซื้อกำลังหาสินค้าใหม่ในราคาพิเศษ พวกเขาสนใจเพชรสีชมพู ฟ้า และเขียว ซึ่งเป็นสินค้าที่เราเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษ ตลาดหลักของเรา คือ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย และญี่ปุ่น นอกจากนั้น ยังมีลูกค้าในยุโรปและสหรัฐฯ ด้วย”
 
สินค้าที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดคือ เพชรสีชมพู ตามด้วยเพชรสีฟ้า ลูกค้าจำนวนหนึ่งเฝ้ารอเพชรสีชมพูโทนสดใสหรือเข้มจัดที่มีมูลค่าสูง เช่น เพชร 1 กะรัตขึ้นไปที่มีความใสระดับ VS หรือ VVS

                              
                                                                                   F
ancy-vivid-pink diamond by Harry Winston
 
Vardi อธิบายต่อไปว่า “เพชรสีชมพูน้ำหนักระหว่าง 0.70 กะรัต และ 2 กะรัต ได้รับความนิยมสูงสุด ราคาต่อกะรัตขึ้นอยู่กับความอิ่มตัวของสีและความใสของเพชร สำหรับเพชรน้ำหนักต่ำกว่าหนึ่งกะรัต ราคาเฉลี่ยต่อกะรัตอยู่ที่ 7,000 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่น้ำหนักหนึ่งกะรัตขึ้นไป มีราคาอยู่ที่ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ”
 
สำหรับลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องราคา VMK เสนอสินค้าเป็นกลุ่มราคาโดยเป็นเพชรในขนาดเล็กกว่าและมีระดับความใสต่ำกว่า
 
Shahaf Maroodi จาก Ofer Mizrahi Diamonds ในอิสราเอล บอกตรงกันกับ Scarselli ว่าผู้ซื้อรู้สึกว่าการซื้อของเติมคลังสินค้ายากขึ้นเพราะราคาที่ตึงตัวในอุตสาหกรรมเพชร
 
เขาเสริมว่า ราคาเพชรเจียระไนแล้วลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะที่ราคาเพชรยังไม่เจียระไนขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ค้าส่งประสบปัญหาในการซื้อสินค้าเข้าคลัง
 
สินค้าที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดของบริษัทคือสินค้าที่มีใบรับรองโดย Gemological Institute of America (GIA) แต่สินค้าตั้งแต่ 0.10 กะรัตขึ้นไปที่ไม่มีใบรับรองก็ขายได้ดีเช่นกัน
 
Maroodi เสริมว่า “เราเสนอสินค้าหลากหลายโดยเป็นเหมือนร้านค้าที่ครบวงจร สินค้า GIA น้ำหนัก 1 กะรัตขึ้นไป ที่มีสีระดับ K, L และ M ขายได้ดีกว่าเนื่องจากเพชรเหล่านี้มีมูลค่า”
 
เพชร 1 กะรัตขึ้นไปมีราคาลดลงโดยอยู่ในระดับประมาณ 2,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ เพชร 3 กะรัต ในระดับ SI มีราคาขายประมาณ 20,000-25,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเฉลี่ย 7,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกะรัต
 
เพชรขนาด 3 กะรัต ที่มีคุณภาพดีกว่ามีราคา 50,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 15,000-20,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกะรัต
 

ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สิงหาคม 2562

------------------------------------------
ที่มา: “Diamond Dealers Upbeat Amid Challenges” by Bernardette Sto. Domingo. JNA. (May/June 2019: pp. 53-56).


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที