เมื่อโหลดไฟฟ้าส่วนใหญ่หรือทั้งหมดเป็นชนิด Linear load เช่น มอเตอร์เหนี่ยวนำ รูปคลื่นแรงดันโหลดและกระแสโหลดจะเป็นคลื่นรูปซายน์ ค่าความเพี้ยนฮาร์โมนิกส์รวมของแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าจะมีค่าน้อยมาก ทำให้เพาเวอร์แฟกเตอร์ที่วัดได้เป็นค่า Displacement Power Factor (DPF)
Displacement Power Factor (DPF)
= กำลังไฟฟ้าแท้จริง (Active Power)
= Vrms1 I rms1 Cos Æ1
= Cos Æ1
แต่ในปัจจุบันมีโหลดชนิด Non-linear ซึ่งสร้างกระแสฮาร์โมนิกส์ในปริมาณสูงติดตั้งอยู่ในระบบไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ค่าความเพี้ยนฮาร์โมนิกส์รวมของกระแสไฟฟ้ามีค่าสูง กระแสฮาร์โมนิกส์จะทำให้กำลังไฟฟ้าปรากฏมากกว่ากำลังไฟฟ้าแท้จริงเป็นจำนวนมาก ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ที่วัดได้จะเป็นค่า Distortion power factor และผลรวมของ Displacement Power Factor และ Distortion power factor จะเท่ากับ ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์รวม (Total Power Factor : TPF)
กำลังไฟฟ้าปรากฏทั้งหมด (Total apparent power) = Vrms Irms
โดย Vrms = √ (Vrms1 + Vrms2 + Vrms3 +
.)
Irms = √(Irms1 + I rms2 + Irms3 +
)
ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์รวม = Active Power
ในกรณีที่ ค่าความเพี้ยนฮาร์โมนิคส์รวมของแรงดันไฟฟ้าในระบบไฟฟ้ามีค่าต่ำ
กำลังไฟฟ้าแอกทีฟ = Vrms1 Irms1 Cos Y1 และ Vrms = Vrms1
ดังนั้น
Vrms1 Irms
= Irms1 Cos Æ1
โดย Irms1 คือตัวประกอบความเพี้ยน (Distortion Factor)
ฮาร์โมนิคส์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เพาเวอร์แฟกเตอร์รวมของระบบไฟฟ้ามีค่าต่ำลง (ระหว่าง 0.60 ถึง 0.70) ในขณะที่ค่า DPF จะมีค่าสูง (ระหว่าง 0.90 ถึง 0.95) ดังนั้น เมื่อต้องการปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์จึงต้องพิจารณาค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์รวมของระบบไฟฟ้า
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที