จุลพงษ์

ผู้เขียน : จุลพงษ์

อัพเดท: 02 ต.ค. 2018 12.52 น. บทความนี้มีผู้ชม: 4165 ครั้ง

ในปัจจุบันที่อุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดกับเราได้ทุกเมื่อโดยไม่รู้ว่าจะเกิดตอนไหน ถึงแม้เราไม่ประมาท ไม่ขาดสติ ก็มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้อยู่ดี


ทำไมถึงต้องทำประกันรถยนต์

 

ทำไมเราถึงต้องทำประกันภัยรถยนต์

ในยุคปัจจุบันที่การจราจรในเมืองหลวงนั้นมีความวุ่นวาย มีการก็สร้างต่อเติมถนน หรือทำโครงการต่างๆมากมาย เราแทบหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน  ถึงแม้บางครั้งเราจะขับรถอย่างมีสติไม่ประมาทและระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้วก็ตามแต่ก็อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดกับเราได้ทุกเมื่อ ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์นั้นไม่ได้ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่หมายถึงการให้ความคุ้มครองหรือช่วยจ่ายค่าชดเชยเมื่อเราใช้รถยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดความเสียหายจากการใช้รถยนต์ของเรา ซึ่งไม่ได้หมายถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างรถยนต์กับรถยนต์อย่างเดียวบนท้องถนนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเหตุการณ์ที่รถยนต์เกือบทุกเหตุการณ์ เช่น การขับรถไปชนคนได้รับบาดเจ็บประกันก็จะช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้บาดเจ็บที่ และยังรวมไปถึงการเกิดเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย เช่น รถหายหรือโดนขโมย เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดไฟฟ้าลัดวงจรไฟไหม้ตัวรถ  หรือรถโดนน้ำท่วมจนเกิดความเสียหายกับรถยนต์ ซึ่งหากเรานั้นอยากใช้รถอย่างมีความสุขไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆกับรถเราการทำประกันรถยนต์นั้นก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพราะถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดแต่ก็ยังมีประกันรถยนต์อยู่ซึ่งช่วยในการแบ่งเบาภาระค่าเสียหายต่างๆหรือช่วยในการออกเงินชดเชยกับเหตุการณ์ โดยการทำประกันรถยนต์ต่างๆนั้นให้ความคุ้มครองหรือให้เงินค่าชดเชย กับเหตุการณ์ต่างๆก็แล้วแต่ระดับชั้นของประกันภัยที่เราเลือกซื้อหรือวงเงินที่เราจ่ายค่าประกัน โดยเหตุการณ์ที่เราประสบพบเจอ มีมากมายหลายเหตุการณ์ก็มีตัวเลือกแตกต่างกันตามระดับชั้นที่เราเลือก

3 ข้อง่ายๆแล้วเราจะเลือกซื้อประกันรถยนต์ยังไง

1.ดูที่ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันหรือชื่อเสียงทั้งด้านดีและไม่ดีโดยอาจสอบถามกับคนรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่พี่น้อง หรือญาติ คนที่ทำงานหรือใครก็ตามที่รู้จักว่าเขามีผลตอบรับกับบริษัทประกันนั้นยังไงบ้าง

2.ก่อนที่เราจะเลือกซื้อประกันรถยนต์เราควรสำรวจตัวเองก่อนว่ามีการใช้งานรถยนต์เป็นยังไงบ้าง เช่น มีการใช้งานหรือขับขี่บ่อยแค่ไหน ขับรถใช้ความเร็วมากแค่ไหน ขับเร็วบ่อแค่ไหนหรือขับไปจอดในที่เสียงอันตรายแค่ไหน เป็นต้น

3.สุดท้ายเลยคือการนำทั้งหมดมาสรุปว่าเราควรเลือกซื้อประกันรถยนต์กับบริษัทไหน ประกันชั้นนั้นๆมีความครอบคลุมถึงเหตุการณ์อะไรบ้างและมีค่าชดเชยค่าเสียหายกับเหตุการณ์ต่างๆมากแค่ไหน และเราควรเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหน ที่เหมาะกับเรามากที่สุด

การทำประกันรถยนต์นั้นเราต้องเสียเงินเป็นประจำทุกๆเดือนหรือปีเป็นจำนวนหนึ่งซึ่งรวมๆแล้วก็ไม่น้อยดังนั้นการที่เราจะซื้อประกันรถยนต์ต้องศึกษาให้ดีก่อนหากไม่ทำการศึกษาให้ดีนั้นก็จะส่งผลทำให้เรารู้สึกไม่คุ้มค่าและเสียผลประโยชน์ในการซื้อประกันรถยนต์ได้

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที