กระบวนการทำงานของใจนั้นแสนมหัศจรรย์พระพุทธเจ้าได้อธิบายไว้อย่างเป็นเหตุเป็นผลว่า เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงเกิดสังขาร เพราะมีสังขารเป็นปัจจัยจึงเกิดวิญญาณ เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัยจึงเกิดสฬายตนะ เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัยจึงเกิดผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดตัณหา เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัยจึงเกิดอุปาทาน เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัยจึงเกิดภพ เพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงเกิดชาติ เพราะมีชาติเป็นปัจจัยจึงเกิดชรามรณะ เป็นกระบวนการที่เกิดดับรวดเร็วมาก ถ้าเราเข้าใจกระบวนการทำงานแล้วเราก็จะสามารถปรับปรุงกระบวนการนี้ได้ เช่นตัดตรงตัณหาออกเมื่อมีความอยากเกิดขึ้นก็สอนใจ ด้วยสติสัมปะชัญญะ ภพ ชาติ ชรามรณะ จะไม่เกิด เท่านี้ก็ไม่ทุกข์ เมื่อเข้าใจกระบวนการทำงานของจิตเราจะรู้เลยว่า สิ่งใดมาปะปน เกิดแล้วดับเป็นธรรมดา เราอย่าไปยึดว่า ความโกรธเป็นตัวเรา ความโลภเป็นตัวเรา ความหลงเป็นตัวเราเมื่อเรารู้ได้เช่นนี้จิตก็จะไม่ปรุงเพราะเวลาจิตปรุงเราก็ไม่ไปใช้มัน ธรรมะก็มีอยู่เท่านี้เอง ทำได้เมื่อไหร่ก็สงบสุขเย็นสบาย ความร้อนที่เกิดแล้วก็ดับไปเองตามธรรมชาติ ใจทำงานอย่างมหัศจรรย์เช่นนี้เอง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
