ตอนที่ 6 หอหญิงล้วน?
พอเริ่มเปิดเทอมที่บ้าน พักก็มีสมาชิกเพิ่มอีกสามคน
คนแรกเป็นสาวรัสเซียชื่อเคท ผมบล็อนด์หยักศก หน้าหวานแบบเทย์เลอร์ สวิฟท์ แถมยังชอบใส่น้ำหอมฟุ้ง เธอได้อยู่ห้องในสุด ติดทางขวาของโทไบอัส
คนที่สองเป็นสาวอเมริกัน ชื่อเพทรา อยู่ห้องทางซ้ายของโทไบอัส (เขาได้ห้องมุม เป็นห้องที่ดีที่สุดของบ้านเพราะสามารถมองดูวิวได้หลายทาง อีกทั้งยังไกลจากห้องน้ำด้วย)
เพทราผมยาวสีดำ และเจาะตามส่วนต่างๆของร่างกายตั้งหู จมูก ลิ้น สะดือ ฯลฯ
นั่นคือแค่ที่เราเห็น ที่อื่นต้องมีอีกแน่ๆ โทไบอัสนินทาเมื่อเดินกันอยู่สองคน กานต์ได้แต่อึ้งๆกับคำพูดอันตรงไปตรงมานั้น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอเองก็คิดเช่นกัน
แล้วแก้วน้ำบ้านเรามันหายไปไหน ผมจะทำน้ำส้มคั้นตอนเช้า เจอแก้วอยู่แค่ใบเดียวเอง เขายังบ่นต่อ
อ๋อ สงสัยซายูริเอาไปน่ะ ชั้นเห็นเค้าชอบออกมาทำอะไรกินไม่ค่อยมีคนแล้วก็งุบงิบเอาเข้าห้องตัวเองไป กานต์ตอบ
ซายูริคือสาวญี่ปุ่นร่างเล็ก ชอบเก็บตัว ใส่หมวกตลอดเวลา แถมเวลาล้างจานยังใส่ถุงมือพลาสติกอีกด้วย ทำให้เชฟประจำบ้านต้องตามล้างเป็นพัลวัน เขาไม่ชอบภาชนะที่มีสิ่งตกค้าง
ตอนที่ทุกคนย้ายเข้ามาครั้งแรก ด้วยความที่ทุกคนเลือกอยู่หอหญิงล้วนจึงทำให้ประหลาดใจที่เห็นโทไบอัสเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้าน ตอนแรกเคทนึกว่าเป็นแฟนเพทรา เพทราก็นึกว่าเป็นแฟนเคท ส่วนซายูริคิดว่าเขาเป็นทอม! แต่พอเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ สาวๆก็เริ่มระแคะระคายว่าโทไบอัสจะเป็นแฟนสาวไทย แต่พอเห็นเขาเข้านอนห้องตัวเองซึ่งเป็นห้องส่วนตัวที่อยู่ห่างจากห้องกานต์คนละฟาก สาวๆก็จับตัวสาวไทยออกมาคุย
หา...เจ็คกี้จัดห้องให้เขาผิดเหรอ โอย ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลย เพทราตะโกนขึ้นเมื่อรู้ว่าจริงๆแล้วที่นี่ต้องเป็นหอหญิงล้วน แต่เพราะโทไบอัสมาถึงก่อนใครจึงได้อยู่ยูนิตใหม่ที่ยังไม่มีคนอยู่ และเจ็คกี้ก็ดูจะลืมเขาไปแล้วด้วย
จะให้เค้าอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้ เค้าเป็นผู้ชายนะ ซายูริเสริมขึ้น เธอทำท่าเหมือนจะกดโทรศัพท์หาเจ็คกี้
เคทซึ่งนั่งเงียบมานานจึงถามซายูริว่า มีเหตุผลอะไรที่ผู้ชายจะอยู่ร่วมบ้านกับเราไม่ได้เหรอ
เพทรายักไหล่ สำหรับหล่อนแล้วผู้ชายเหมือนขนมหวาน ถ้าไม่มีในบ้าน เธอก็พาเข้ามาอยู่แล้ว
ซายูริอ้อมแอ้มขึ้นมาว่า จะให้ใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้ชายน่ะเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก เกิดเค้าทำเลอะเทอะ ชั้นไม่อยากใช้ร่วมด้วย
กานต์ได้แต่คิดหนัก เพราะไม่อยากผิดใจกับเพื่อนร่วมบ้าน แต่อีกใจก็ไม่อยากให้โทไบอัสต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น
เอางี้ไหม ชั้นอาสาใช้ห้องน้ำห้องตรงข้ามห้องนอนชั้นร่วมกับโทไบอัสเอง ส่วนเธอสามคนแชร์ห้องตรงข้ามห้องนอนเพทรา แต่อย่าให้โทไบอัสต้องย้ายบ้านเลย นี่ก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว ต้องลงทะเบียน เข้าค่ายยุ่งจะตาย เธออธิบายยาวเหยียด พยายามข่มความรู้สึกไม่ให้มันแสดงออกไปว่าจริงๆแล้วเธอนั่นแหละที่จะทนเหงาอยู่บ้านนี้ไม่ได้ถ้าเขาต้องย้ายออกไป เพราะนั่นหมายถึงอาหารเช้า อาหารเย็น และการเดินคุยกันระหว่างทางกลับบ้านก็จะย้ายออกไปจากชิวิตเธอด้วย
ซายูริตอบตกลงแบบเสียไม่ได้ เพทรากับเคทจึงยอมตกลงไปโดยปริยาย
พอทุกคนเข้านอนก็หมดแล้ว กานต์ได้แต่ถอนหายใจอยู่ในความมืด แสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างทำให้เธอนอนไม่หลับ ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ...เมื่อใดที่คิดว่าจะต้องแยกจากโทไบอัส ดูเหมือนหัวใจจะหล่นวูบไปซะทุกที เวลาอ่านหนังสือด้วยกันในห้องสมุด เธอก็จะไม่ค่อยมีสมาธิ อ่านวกไปเวียนมาแต่เนื้อหาเดิมๆเหมือนคนเลื่อนลอย แต่พอมาแล้วไม่เจอเขานั่งอยู่ที่เดิมก็ยิ่งกระวนกระวาย เดินออกตามหาตั้งแต่ชั้นใต้ดินจนถึงชั้นบนสุด แต่ครั้นจะโทรตามก็กลัวจะไปรบกวนเวลาส่วนตัวของเขา
แต่แล้วเธอก็เหลือบไปเห็นเงาแวบผ่านแถบหน้าประตู กระดาษโน้ตสีขาวค่อยๆถูกสอดเข้ามาข้างในห้อง กานต์รีบเด้งตัวออกจากเตียงไปคว้ามันมาอ่านทันที ในนั้นเขียนว่า
ซึ้งใจจังที่คุณปกป้องผมวันนี้ ขอบคุณนะ ... จากโทไบอัสของคุณ
กานต์รีบเปิดประตูออกไปทันที เธอเห็นร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นยืนกอดอกอยู่หน้าห้องตัวเองอีกฟากหนึ่ง เขาโบกมือให้ช้าๆ แล้วเปิดประตูเข้าห้องไป ไม่ต้องเปิดไฟ เธอก็รู้ว่าเขาส่งรอยยิ้มที่ทำให้อากาศอันหนาวเย็นอบอุ่นขึ้นมาทันที
กานต์รีบตื่นเช้าอย่างกระปรี้กระเปร่า ระหว่างแปรงฟันล้างหน้าก็ยังแอบอมยิ้มกับเรื่องเล็กๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอเลือกใส่เสื้อฮู้ดดี้ตัวใหม่ที่ซื้อมาจากร้าน Emily the Strange กับกางเกงยีนส์ แล้วก็ออกมานั่งๆนอนๆอ่านหนังสือแถวโซฟาในห้องนั่งเล่น
จากนั้นไม่นานเท่าไหร่ โทไบอัสก็ออกมาจากห้อง เขาทำเป็นมองไม่เห็นหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วตรงดิ่งเข้าขัดสีฉวีวรรณ (กานต์เรียกอย่างนั้นเพราะหนุ่มน้อยใช้เวลาในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมงทุกวัน) วันนี้เขาเลือกเข้าห้องน้ำที่อยู่หน้าห้องของกานต์แทนที่จะเข้าห้องที่อยู่แถบเขา
ผมชอบเข้าห้องน้ำห้องเดียวกับคุณจัง เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ คุกเข่าแล้วเอาแขนเท้าพนักโซฟาไว้ แล้วดูหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้จะนอนต่อก็ไม่สะดวก จะลุกก็ลุกไม่ได้
กานต์เอาหนังสือปิดหน้าตัวเองจนเหลือแต่ตา หวังจะอำพรางความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วแก้ม ทำไมอ่ะ เธอถามกวนๆ จงใจใช้น้ำเสียงให้ดูเกเรหน่อยๆ โทไบอัสจะได้ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เขายิ้มเจ้าเล่ห์กับท่าทางกระอักกระอ่วนนั้น ทว่าไม่ยอมลุกจากไป
คุณไม่รู้จริงๆเหรอ เขาถามยิ้มๆ
ชั้นจะไปรู้ได้ไงเล่า กานต์ส่งเสียงอู้อี้ออกมาจากหนังสือที่ตอนนี้กางปิดหน้าตัวเองทั้งหน้า
...โอ๊ยอย่าเข้ามาใกล้ได้มั๊ย...ก็นายตัวหอมเกินไปแล้ว...เธอหลับตาปี๋ใต้หนังสือ พลางจมูกก็สูดกลิ่นหอมจากคนที่เพิ่งอาบน้ำทาโลชั่นออกมาใหม่ๆ
คุณลืมอะไรไว้ในนั้นแน่ะ เสียงนั้นใกล้เข้ามาเหมือนกระซิบที่แผ่วเบาทว่ามีพลังพอที่จะให้สาวกานต์ลุกแล้ววิ่งไปดู สิ่งที่ลืมไว้ อย่างรวดเร็ว
หมดแล้วชีวิต...ทุกอย่างที่ใส่เมื่อคืน...ยังวางกองอยู่ในห้องน้ำ แถมสิ่งที่เป็นของส่วนตั๊วส่วนตัว ยังวางหราอยู่หน้าซิงค์ล้างหน้าชนิดที่ว่าเงยหน้ามาก็เห็น กานต์อยากจะกรี๊ดดังๆหรือไม่ก็สาปตัวเองให้หายไปจากโลกนี้ไปในวินาทีนั้น
สาวไทยใช้เวลาเดินไปเดินมาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควรก็เริ่มรู้สึกขาดอากาศหายใจ มองกองผ้าในมือแล้วก็ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า (โธ่..รู้งี้ใส่ตัวที่มันเป็นลายจุดๆสีสวยๆก็ดีหรอก...อึ๊ยยยยยย)
หลังจากทำใจอยู่นาน...กานต์ก็สวมวิญญาณสาวไทยใจหาญอีกครั้ง เปิดประตูออกไป
โทไบอัสกำลังเทผงแป้งอะไรสักอย่าง ข้างๆมีกล่องนมสดวางอยู่ กลิ่นเนยหอมฟุ้งไปทั่วห้องครัว
กานต์รีบจัดเก็บชุดเมื่อคืนเข้าในห้องให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาหาเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โทไบอัสดูจะขบขนกับอาการตีหน้าตายของหญิงสาวแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร สาวเอเชียออกจะน่ารักก็ตรงเขินอายเรื่องชายหญิง ผิดกับเพทราสาวอเมริกันที่บางวันก็เดินโป๊ออกมาจากห้องน้ำโดยไม่สนใจว่าเขาจะนั่งอ่านหนังสืออยู่แถวนั้น
ความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่เขาก็ไม่รู้เช่นกัน เวลาอยู่ใกล้กานต์ เขามักจะมีมุขตลกมาแหย่ให้เธอโวยวายใส่ เวลาเขามีธุระยืดเยื้อไปเจอเธอที่ห้องสมุดไม่ตรงเวลา เขาก็จะพะวักพะวนกลัวว่าเธอจะรอ แต่ถ้าเธอไม่รอเขาก็ยิ่งร้อนรน เวลาตื่นเช้ามาเขาก็ชอบเสมอคิดว่าจะทำอะไรให้เธอลองชิม ก่อนนอนเขาก็อยากทำโก้โก้ร้อนๆแล้วชวนเธอออกมานั่งคุย แต่...อดีตของเขา...หญิงสาวจิตใจใสสะอาดอย่างเธอจะรับได้หรือ...
กานต์ทำหน้าที่จัดโต๊ะ เทน้ำผลไม้ และนั่งรออย่างใจจดใจจ่อกับประติมากรรมอาหารของโทไบอัส พอรอนานๆเธอก็จะเดินเข้ามองข้ามไหล่ว่าเขากำลังทำอะไร เขาก็จะคอยหันมาดุให้เธอไปนั่งรอเงียบๆ
แพนเค้กอันเบ้อเริ่มเลย~~~ กานต์ร้องออกมาอย่างตื่นเต้นยินดีเมื่อโทไบอัสยกจานที่มีแพนเค้กอันใหญ่มาวางตรงหน้า กลิ่นหอมเนยและนมลอยเข้าเตะจมูกกานต์อย่างจัง สีสันของมันก็เหมือนกับรูปวาดที่จิตรกรไล่สีโทนเหลืองน้ำตาลลงมาอย่างงดงาม เขาละลายช็อกโกแล็ตแท่งแล้วทำเป็นซอสราดแพนเค้กด้วย โทไบอัสกอดอกยืดตัวอย่างภูมิใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธออยากกินแพนเค้กที่เขาทำแค่ไหน เท่านี้หัวใจของเชฟหนุ่มก็พองโตอย่างบอกไม่ถูก
คำแรก...กานต์รับรู้ได้ถึงเนื้อแป้งนุ่มเนียน รสชาติเหมือนนมสด ยิ่งแกล้มกับซอสช็อกโกแล็ตแคดเบอรรี่ที่ชื่นชอบยิ่งทำให้จิตใจเหมือนจะละลายอยู่กับอาหารตรงหน้า
คำที่สอง...กลิ่นเนยที่ใช้ทอดแพนเค้กนั้นหอมกรุ่น ทว่าไม่ออกมันให้รู้สึกเหมือนกินของที่ทำให้อ้วนเลยสักนิด
แล้วสาวไทยก็อดใจไม่ไหว...ลงมือจัดการกับแพนเค้กตรงหน้าอย่างรวดเร็วราวกับพายุ
ขอบคุณนะคะสำหรับแพนเค้กแสนอร่อย เธอยิ้มหวานด้วยความพอใจกับอาหารที่เพิ่งหมดไป ใจอยากจะไปจุ๊บเขาสักทีแต่ก็สงวนท่าทีเอาไว้ตามแบบหญิงไทยผู้รักนวลสงวนตัว
ด้วยความเต็มใจเสมอ โทไบอัสตอบด้วยเสียงหนักแน่นแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงขี้เล่นทันที ไหนละรางวัลของผม วันนี้ผมเป็นเด็กดีทำแพ้นเค้กให้คุณทานด้วยนะ
จะให้ทำอะไร กานต์ถามเสียงสูง
ก็...ไม่มีอะไรมาก... เขาลากเสียงยาว พลางสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วล็อคตัวเธอไว้กับโต๊ะ
ถ้าคุณมีชุดชั้นในเหลือๆ ช่วยบริจาคให้ผมหน่อยนะ ผมอยากได้ไว้ชุบน้ำครอบจมูกตอนวิ่งหนีไฟ ขอร้องละกันหลังอย่าวางทิ้งไว้แบบนั้น...แบบว่าผมไม่อยากเข้าห้องน้ำนาน เขาทำหน้าเหมือนกำลังตักเตือนแกมเยาะเย้ย
อ๊าย...ฝันไปเถอะย่ะ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ชั้นจะลืมของในห้องน้ำเข้าใจมั๊ย!!!! สาวไทยตะโกนไล่หลังหนุ่มเมืองผู้ดีที่วิ่งหนีหายไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
หนุ่มอังกฤษนี่อันตรายแบบนี้ทุกคนมั๊ยเนี่ย?!!? /(>___<)\
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที