วิกูล

ผู้เขียน : วิกูล

อัพเดท: 01 ส.ค. 2008 20.57 น. บทความนี้มีผู้ชม: 7466 ครั้ง

แง่คิด มุมธรรม จากแมวน้อยๆ


“หลวงพี่เหิน” กับแมวเลี้ยง พระมหา...!!!


“
หลวงพี่เหิน” กับแมวเลี้ยง พระมหา...!!!

 

วิกูล  โพธิ์นาง

pd_wikulp@hotmail.com

www.oknation.net/blog/wikulponang

๑ สิงหาคม ๒๕๕๑

 

 

18845_cat25511.jpg


พระมหาวรจักร ท่านเป็นพระผู้เคร่งครัดในธรรม ในวินัย ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในครรลองของสมณะเพศเป็นอย่างดี ความรู้ในพุทธศาสนาเต็มไม่บกพร่อง ดังจะเห็นได้จาก ทุกครั้งที่ได้สนทนากับผู้ใดทั้งฆราวาสและพระภิกษุสามเณร  ก็จะหาโอกาสแทรกพระธรรมคำสอน และวินัยที่ควรต้องปฏิบัติ ผสมไปกับถ้อยคำสนทนาอยู่เสมอ มิให้สูญเปล่า

 

เพราะนั่นก็ประหนึ่งได้ทำหน้าที่ของพระแล้วด้วย จึงเป็นที่ชื่นชอบ ของผู้ใฝ่รู้ หวังจะซึมซับปัญญาจากท่านโดยถ้วนหน้า

 

นอกจากจะพูด ก็ยังชอบเขียนคติธรรมสั้นๆ ให้ได้ฉุกคิดสะกิดใจ จะเห็นได้จากต้นไม้ ข้างฝากุฏิ  จะมีถ้อยคำที่พระมหาวรจักร ได้เรียงร้อยอย่างดี เขียนอย่างสวยบนแผ่นไม้กระดาน หรือกระดาษ  ติดเต็มไปหลากหลาย เรียกว่าเดินไปไหนมาไหน ก็ต้องสะกดตาให้อ่านบ้าง

 

มีภูมิธรรมและความตั้งใจดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเมตตาตาสัตว์โลกตัวน้อยๆ ท่านเลี้ยงแมวไว้ด้วยอีกสามตัว ซึ่งก็รักมากเสียด้วย ได้มาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ที่แม่มันตายครั้งที่มีคนมาปล่อยข้างต้นโพธิ์ แต่แม่โดนรถทับ เลยเหลือลูกๆไว้ให้ท่านมหาเลี้ยง

 

ข้าวปลาที่นำมาเลี้ยง ก็ล้วนเป็นอาหารที่เหลือจากพระภิกษุสามเณรฉันแล้วทั้งสิ้น ของโปรดของเจ้าเหมียวก็จะเป็นปลาทูคลุกข้าว ซึ่งก็ไม่ได้มีบ่อยๆ แล้วแต่วันใดจะมีผู้นำมาถวายพระก่อน

 

กินแล้วก็ต้องถ่าย จะลงมาถ่ายที่ข้างล่างกุฏิสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ถ้าลงไปมีหวังวิ่งหางตั้ง ขนตั้ง เมื่อต้องประจันหน้ากับหมานามว่าแด่น ประกอบกับตอนเล็กๆลงมาเองไม่ได้  ท่านมหาเลยทำที่สำหรับถ่ายให้โดยเฉพาะ เป็นกระบะสี่เหลี่ยม ภายในใส่ทรายไว้ ปวดอึคราใดเจ้าเหมียวก็จะลงไปคุ้ยๆ เป็นหลุมแล้วนั่งปล่อยตามสบายอารมณ์

 

 

เสร็จกิจก็เขี่ยกลบเอง ไม่มีกลิ่นให้รำคาญ และไม่เคยไม่ทำเรี่ยราดที่ใด เมื่อถึงยามเย็นท่านมหาก็มานำทิ้งที่โถส้วมราดน้ำ เท่านี้ก็เรียบร้อย  กระบะนั้นวางไว้ในห้องน้ำของท่านนั่นเอง นี่ถ้าแมวเหมียวทำได้คงทำไปแล้ว ไม่ให้ท่านมหาต้องมาเป็นภาระ

 

หน้าที่ของสัตว์ ที่เป็นแมวเลี้ยงของพระมหา  ทำอยู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องประจำวันคือ กินเป็นเวลา ถ่ายเป็นที่ ไม่ลื้อของ หนูมาก็ไล่ บ้างครั้งก็จับมากัดหยอกๆแต่ก็ตาย แบบนี้จะนานๆครั้ง  เท่านี้ก็ถือว่าเป็นยอดแมวแล้วในสายตาของผู้เลี้ยง ที่นอกจากขนสวยสะอาด หน้าน่ารัก

 

ทั้งฆราวาสญาติโยม พระภิกษุสามเณร ล้วนได้รับรู้สรรพคุณของแมวตัวนี้ จากปากของมหาเอง และผู้ที่เคยได้พบเห็น  ในพฤติกรรมของแมวที่ว่ามานี้ หลายคนสงสัยว่าพระมหาวรจักรไปเรียนวิธีเลี้ยงแมวมาจากไหน ถึงได้มีแมวเลี้ยงเป็นคุณเช่นนี้

 

หนึ่งในนั้นที่ชื่นชอบ และสงสัยคือ “หลวงพี่เหิน” ที่เพิ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุใหม่ได้ไม่ถึงสามอาทิตย์ หลวงพี่แกน่าสงสาร เพราะสติดูช้าๆ ซึมๆ คงเพราะเลิกจากยาเสพติดได้ไม่นาน ก็มาเข้าวัด

 

วันหนึ่ง หลวงพี่เหินได้มีโอกาสไปปล่อยทุกข์ในห้องน้ำของท่านมหา ซึ่งก็คือที่ถ่ายมูลของเจ้าแมวเหมียวนั้นๆด้วย

 

ขณะนั่งถ่ายอย่างสบายอารมณ์ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นข้อความเด่นสง่าข้างฝาห้องน้ำว่า “ฉันข้าวชาวบ้าน แล้วมาถ่ายที่นี่ ทำความดีบ้างหรือยัง”

 

 

อ่านจบ หลวงพี่เหินถึงบางอ้อทันที “ที่แท้ที่แมวนั้นฉลาดๆ ก็เพราะมหาเขียนสอนแมวไว้ข้างฝานี้นี่เอง มิน่าถึงเป็นแมวน่ารักๆ”

 

เสร็จธุระ หลวงพี่ก็ ชำระร่างกาย ลาดน้ำเรียบร้อย  ลุกออกจากที่นั่งเปิดประตูเดินออกไป พลันนั้นก็มีแมววิ่งพรวดสวนเข้าไปในห้องน้ำนั้นอย่างรีบร้อน

 

ขณะเดินออกจากห้องน้ำไป หลวงพี่เหินก็รำพึงท่องคำที่เขียนไว้เมื่อครู่ พึมพรำๆไปเรื่อย ๆ“ฉันข้าวชาวบ้าน แล้วมาถ่ายที่นี่ ทำความดีบ้างหรือยัง”

 

///////////////////////////////////////

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

เรื่อง : เรื่องจริง ที่ปรุงแต่งบ้าง นามที่ปรากฏสมมติ


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที