icykids

ผู้เขียน : icykids

อัพเดท: 07 พ.ค. 2008 15.49 น. บทความนี้มีผู้ชม: 22278 ครั้ง

ซีรีย์ "เสี้ยนทำธุรกิจ" จากคุณมิมิแพนด้า


บทที่ 1 "เสี้ยนนี้มีมาอย่างไร"

บทที่ 1    กำเนิดความตั้งใจที่จะทำกิจการของตนเอง -"เสี้ยน"นี้มีมาอย่างไร

เพื่อนๆ เคยคิดอยากทำธุรกิจของตัวเองบ้างไหม?
เมื่อเราทำงาน  เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาสักระยะหนึ่ง  
ได้เรียนรู้เรื่องราวความสำเร็จของคนอื่น,
ได้เห็นโอกาสผ่านมาแล้วก้อผ่านไป, 
ได้วิเคราะห์ วิจารณ์ธุรกิจของคนอื่นที่เราพอเจอในชีวิตประจำวัน,
ได้บ่นได้ด่า  ได้ถาม  ได้คุย  และอื่นๆอีกมากมาย
เพื่อนๆ คงเคยไปกินอาหารที่ร้านรถเข็น  แล้วอดคิดไม่ได้ว่า  
ทำไมร้านนี้คนเยอะ  ทั้งๆที่รสชาดธรรมดามาก  เรายังทำอร่อยกว่า 
คงเพราะเขาทำเลดี  หรือบริการดีมั้ง   
หรือ ทำไมร้านนี้ไม่มีคนเลย   ทั้งที่รสชาดดีมาก  บริการก้อดี
เมื่อเราขับรถผ่านไปมา   เราจะเห็นร้านนั้นร้านนี้เปิดใหม่
เราดูแล้ว  ก้ออดชมไม่ได้ว่า    ร้านนี้ตกแต่งสวยจัง    น่าจะขายดี
(แต่บางทีก้อคิดว่า ตกแต่งเปลืองไป จะคุ้มเหรอ  เช่นพวกร้านเค้กสวยๆ)
แล้วก้ออดเมาท์ไม่ได้ว่า    ร้านนี้เจ๊งไปซะแล้ว   คงเพราะ.........
เมื่อเรามีเงินเก็บมาระยะนึง   เมื่อเรารู้สึกร้อนวิชา  และอยากรู้อยากลอง
และแล้ว   ความเสี้ยน(แกว่งเท้าหาเสี้ยน) ก้อมาถึง.......................

เมื่อเราคิดเริ่มทำกิจการของตนเอง.....
เราได้โทรไปถามเพื่อนเก่าของเราที่เคยทำกิจการมาร่วมสิบอย่าง
ถึงแม้เขาบอกว่า  ไม่สำเร็จดีซักอย่าง   แต่พอเลี้ยงตัวเองกร้อมแกร้มไปได้เรื่อยๆ
ลำพังชายโสด(เกย์)   ไม่ต้องใช้อะไรมากมาย  
เงินลงทุน3-5 ล้านพอทำสวนอาหารขนาดกลางให้พอกินไปวันๆ
เมื่อเราบอกเขาว่า  เราอยากทำกิจการสักอันด้วยงบสัก 1-3 ล้าน
เขาบอกว่า  เรายังไม่มีประสบการณ์  เราต้องระวังอย่างมาก
ขั้นแรก   ให้เราคิดว่า  เราสนใจธุรกิจอะไรบ้าง  เช่น สปา, ร้านเช่าวีซีดี, คอนวีเนียนสโตร์
เราไม่ควรเริ่มเลย     แต่ให้ เรามองหาธุรกิจนั้นๆ ที่ประกาศเซ้งอยู่
ให้เราลองเสิร์ชในเน็ต  หรือตามป้ายประกาศ   แล้วนัดเข้าไปคุยกับเขา
หาประสบการณ์จากเขา   วิเคราะห์หาปัญหาที่ทำให้เขาเซ้งกิจการ   
มองหาปัจจัยสำเร็จของธุรกิจนั้นๆ  และดูว่า  เรามีปัจจัยสำเร็จนั้นๆไหม
การคุยช่วยให้เราประเมินเงินลงทุนได้ โดยเทียบสัดส่วนจากแต่ละร้านที่ไปดู 
ได้รู้วิธีจัดเตรียมเปิดร้าน  เช่น Lay Out ระบบไฟฟ้า, น้ำ,ซัพพลายเออร์   คือถามให้รู้มากที่สุด
ถ้าท้ายที่สุดตัดสินใจทำ  =>   การเซ้งเขา  เป็นการลงทุนที่ประหยัดกว่า  และมีงบประมาณที่แน่นอน
เพราะทำธุรกิจเองใหม่   จะมีงบบานปลายกว่าที่คิดมากมาย ด้วยความไม่มีประสบการณ์
หรืออย่างน้อย   เราก้ออาจขอซื้อเพียงอุปกรณ์บางอย่างมาจากเขา  ด้วยราคาถูกกว่าของใหม่ด้วย
เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุทั้งหลายทั้งปวง
เราจึงเริ่มต้นทำตามนั้น............

เริ่มด้วยธุรกิจสปา................
เนื่องด้วยเป็นคนขี้เมื่อย  จึงแวะเวียนไปนวดไทยเสมอๆ
จึงเสิร์ชเน็ต หาธุรกิจสปาที่เซ้งอยู่   โดยมองหาตั้งแต่ 500,000-3,000,000 บาท
ได้ข้อมูล  จึงเลือกโทรไปคุยราว 20 แห่ง  และไปดูจริงราว 8 แห่ง  
อืมมม    ตอนแรกว่าจะเล่าให้ฟังละเอียดๆ  แต่เราเกรงว่า 
กว่าจะเข้าเรื่องร้านอาหารห้องแถวของเราคงจะนานเกินไป    
เราสรุปความคิดเลยละกัน....
สปา  จำเป็นต้องลงทุนสูงไปกับการตกแต่งเพื่อสร้างอิมเมจ    จึงคุ้มทุนได้ช้ามาก, 
จำเป็นต้องพึ่งพาหมอนวดอย่างมาก  ถ้าเขาบริการดี  ลูกค้าติด  ร้านก้อจะขายดี
หมอนวดได้เงินไปครึ่งนึง(นวดไทย) หรือ 30% นวดสปา  แต่เปลี่ยนงานบ่อย
คู่แข่งเยอะ  และเกิดใหม่เยอะ    
รายได้ต่อเดือน  ดูแล้ว  ไม่น่าจะกำไร     ไม่ต้องพูดถึงการคุ้มทุนเลย
รายได้ 30,000-100,000/เดือน ก่อนหักค่าใช้จ่าย   เมื่อไรจะคุ้มทุน 2 ล้านหนอ

ต่อมาด้วยธุรกิจเช่าวีซีดี..........
ถ้าเริ่มกับแฟรนไชส์  2-3 ราย  ต้องใช้เงินราว 1.5-3 ล้านบาท 
รายได้ 100,000  บังคับซื้อหนังเติม 30%   ค่าแรง  ค่าเช่า  ค่าโสหุ้ย    จะเหลือราว 15,000
อืมมม  ผลตอบแทน 1% ต่อเดือน  หรือ 12% ต่อปี   (ถ้าร้านไปรอดนะ)
อันนี้เป็นผลตอบแทนของเงินลงทุน, ค่าความเสี่ยง  และค่าแรงค่าบริหารของเรา   มากหรือน้อยคิดดูกันเองนะ
ถ้าเราเปิดร้านลำพังตัวเองล่ะ...     ปัญหาจะอยู่ที่ค่าลิขสิทธิ์หนัง 
ซึ่งปัจจุบันมีสัก 18 ค่าย     ค่ายหลักๆ สัก 8 แห่ง    เช่น โรสวีดีโอ, ยูไนเต็ด
แต่ละค่ายจะส่งฝ่ายขายมาดูร้าน   แล้วตีราคาว่า  ร้านนี้จะเสียลิขสิทธิ์รายเดือนเท่าไร
เช่น  ยูไนเต็ตเก็บ 20,000 โรสเก็บ 8,000   บลา บลา บลา
หากเรามีหนังไม่ครบ    ลูกค้าก้อไม่อยากเข้าร้านเรา   ถ้าเรามีน้อยก๊อปปี้  หนังหมด ก้อเสียลูกค้า
การเจรจาซื้อทุกค่าย   จะต้องจ่ายต่อเดือนเยอะมาก....  มากจน  ไม่น่าจะไหว
จึงไม่แปลกใจที่มีร้านเช่า  ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์มากมาย  โดยยอมเสี่ยงเอาขาข้างนึงไปไว้ในตารางซะนี่

ต่อมาไปคุยกับคอนวีเนี่ยนสโตร์......
ไปคุยแต่ละค่ายมา    ก้อได้ข้อสรุปว่า  
ผู้นำตลาดนั้น  ช่างทิ้งห่างผู้ตามเหลือเกิน    การจะเปิด ควรใช้บริการแฟรนไชส์ผู้นำตลาด
ซึ่งเราจะต้องทำงาน “เฝ้าร้าน” เอ๊ย “บริหารร้าน” ให้เขา 24 ชั่วโมง 365 วัน
รับผิดชอบทั้งของเสีย ของหาย  บุคคลากร  ยอดขาย ฯลฯ
โดยเงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องยกให้เขาหมดไปก่อน  แล้วเงินค่อยถูกแบ่งเจียดให้เรา
เนื่องด้วยความสำเร็จของแฟรนไชส์เขา   ยิ่งใหญ่มาก.. จนเราไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย
หมายเหตุ   นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะคะ   โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ต่อมา  เราสนใจนำเข้าสินค้าจากจีน
เราบินไปงานกวางเจาแฟร์  เป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของจีน จัด2ครั้ง เมษากะตุลา
มีบูธมาแสดงเป็นหมื่นๆ    เดินสามวันเต็ม  แบบซุปเปอร์ไฮสปีด  ยังทำได้แค่ scan
ไม่มีโอกาสเจาะลึกดูเป็นเรื่องเป็นราว    แต่ก้อนับว่าได้เปิดหูเปิดตาอย่างมาก
ไม่มีสินค้าที่จีนผลิตไม่ได้   และสินค้าที่ดีๆ  มีคุณภาพ  ไฮโซ  ก้อมีทุกอย่าง และถูกมากๆๆๆ
นอกจากนั้น  ยังได้ไปดูตลาดค้าส่งอีกหลายแห่ง   ได้เห็นบ้านเมืองโรงงานในเซินเจิ้น
แล้วรู้สึกว่า   เราเป็นแค่จุดเล็กๆ บนโลกจริงๆ   
ขนาดเศรษฐกิจไทยเราห่างไกลกับจีนเหลือเกิน

นอกเรื่องไปซะไกล....  หลังจากไปดูมาอีกหลายอย่าง    และได้คิด คิด คิดดูแล้ว
จึงหั่นงบประมาณตัวเองลง  เหลือแค่ 3 แสนก้อพอ  เพื่อลองผิดลองถูกสักกิจการ
เผื่อผิดพลาด  จะได้เหลือไว้ลุกขึ้นมาใหม่   เพราะน้อยคนที่จะสำเร็จในครั้งแรก

และแล้ว   โชคชะตาก้อพัดพามาถึง.....ความเสี้ยน.......
เมื่อเรากินโจ๊กร้านนึง    แล้วอาหารเป็นพิษอย่างหนัก  นอนปางตายมา 3 วัน
จึงเกิดความคิดจะเปิดร้านโจ๊กแฟรนไชส์เล็กๆ ใกล้บ้าน เอาไว้กินเอง  งบแค่แสนก้อคงพอ
เราจึงตระเวณคุยกับแฟรนไชส์โจ๊ก  ซึ่งตอนนั้นมีอยู่เพียง 3 รายเด่นๆ
รายแรก   เราไม่เอา เพราะเป็นร้านที่ทำให้เราอาหารเป็นพิษ
รายสอง   การบริหารจัดการแย่มากๆ   ไม่น่าเชื่อว่าเคยดังมาก่อน
รายสาม   คุยได้มืออาชีพ   โน้มน้าวได้สมบูรณ์แบบ   กินแล้วอร่อยที่สุด
เราจึงตัดสินใจได้ทันที ที่คุยกันวันนั้น
และแล้ว......  การดำเนินการณ์เปิดร้านก้อเกิดขึ้น............

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของคุณ : มิมิแพนด้า 
http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/01/B6277143/B6277143.html 
หมายเหตุทางเว็บไซต์ www.tpa.or.th ได้รับอนุญาติจากคุณมิมิแพนด้าในการนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทาน


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที